อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ประเทศรอบทะเลจีนใต้เสริมสร้างขีดความสามารถเพื่อต่อต้านการขยายอิทธิพลเกินขอบเขตของจีน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

มากกว่าร้อยละ 20 ของการค้าทางทะเลทั่วโลกต้องเดินทางผ่านทะเลจีนใต้ พื้นที่ดังกล่าวมีแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์ซึ่งช่วยเลี้ยงประชากรราว 2 พันล้านคนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งความลึกใต้ทะเลที่ยังไม่ได้สำรวจยังเชื่อว่ามีแหล่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในปริมาณมหาศาล

จีนอ้างสิทธิ์อย่างผิดกฎหมายในพื้นที่เกือบทั้งหมดของเส้นทางเดินเรือที่สำคัญแห่งนี้ โดยไม่สนใจอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล ซึ่งให้สิทธิแก่รัฐชายฝั่งในการครอบครองเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีระยะ 200 ไมล์ทะเลจากชายฝั่งของตน รวมถึงคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ที่ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์ตามอำเภอใจของรัฐบาลจีนเป็นโมฆะ

ในบรรดาประเทศต่าง ๆ ที่โต้แย้งข้ออ้างของรัฐบาลจีน มาเลเซียมัก “ถูกเข้าใจผิดว่ามีท่าทีอ่อนข้อให้จีนมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในกรณีทะเลจีนใต้” นางฮู เฉียวผิง นักวิจัยอาวุโสจากเครือข่ายอีสต์เอเชียน อินเตอร์เนชันนัล รีเลชันส์ คอคัส ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ กล่าว นางฮูสังเกตเห็นว่ามาเลเซียมีท่าทีเงียบกว่าผู้อ้างสิทธิ์รายอื่น ๆ ในเรื่องการขยายอิทธิพลเกินขอบเขตของจีนในระหว่างการประชุมทะเลจีนใต้ประจำปีครั้งที่ 15 ซึ่งจัดขึ้นโดยสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 เช่น ฟิลิปปินส์ต่อสู้กับการบีบบังคับของพรรคคอมมิวนิสต์จีนด้วยแผนการแสดงความโปร่งใสเชิงรุก

ขณะที่มาเลเซียเลือกใช้แนวทางที่ “สุขุมรอบคอบ” กว่านั้นในการจัดการกับการบีบบังคับของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลจีนกล่าวอ้างอย่างผิด ๆ ว่าการสำรวจน้ำมันและก๊าซของมาเลเซียเป็นการละเมิดอำนาจอธิปไตยของจีน แนวทางนี้ “ไม่ได้หมายความว่าเราเมินเฉยต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในภาคพื้นดิน ในทะเล ในน่านน้ำอาณาเขตของเรา รวมถึงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของเรา” นางฮูกล่าว

รัฐบาลมาเลเซียกำลังเสริมความเข้มแข็งให้กับขีดความสามารถทางทหารของตนด้วยฐานทัพทหารเรือและทหารอากาศแห่งใหม่ และยังได้เพิ่มจำนวนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติการด้านขอบเขตในการเฝ้าระวังทางอากาศและทางทะเล กองทัพมาเลเซียฝึกอบรมร่วมกับกองทัพอากาศ กองทัพบก กองทัพเรือ และหน่วยปฏิบัติการพิเศษสหรัฐอเมริกา และทำการฝึกซ้อมร่วมกับหลาย ๆ ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส และเกาหลีใต้ ตามข้อมูลจากนางฮู กองกำลังรักษาชายฝั่งมาเลเซียยังได้ฝึกอบรมร่วมกับกองกำลังของญี่ปุ่น นอกเหนือจากการฝึกซ้อมและปฏิบัติการ “ทั่วทั้งทะเลจีนใต้ ตั้งแต่ภูมิภาคตะวันออกไปจนถึงตะวันตก” นางฮูกล่าว

ในทำนองเดียวกัน ฟิลิปปินส์เองก็ทำการปรับปรุงความทันสมัยให้กับขีดความสามารถด้านกลาโหม และเสริมความเข้มแข็งให้กับพันธมิตรและความร่วมมือ ในขณะที่ทำการเปิดโปงการรุกรานของรัฐบาลจีนในทะเลจีนใต้ นอกเหนือจากการคุกคามลูกเรือของเรือประมงฟิลิปปินส์รวมถึงการลาดตระเวนของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทางทะเลและปฏิบัติการตามกิจวัตรของกองทัพเรือ ตอนนี้จีนได้สร้างภัยอันตรายต่อนักบินและอากาศยานของฟิลิปปินส์ด้วยการเคลื่อนที่ที่เสี่ยงอันตรายเหนือทะเลจีนใต้ นางแจ็กเกอลีน เอสเปนิลลา นักวิชาการอาวุโสจากสถาบันกิจการทางทะเลและกฎหมายทะเลของมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ กล่าวระหว่างการประชุมของสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์

เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงขณะเบียดข้างเรือประมงของฟิลิปปินส์ที่กำลังดำเนินการสำรวจวิจัยในทะเลจีนใต้ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568
ภาพจาก: กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์/ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

รัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มยื่นฟ้องคดีในศาลอนุญาโตตุลาการที่ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์ของรัฐบาลจีนในทะเลจีนใต้เป็นโมฆะ กำลังพิจารณายื่นฟ้องจีนอีกครั้ง นางเอสเปนิลลากล่าว โดยเป็นไปได้ว่ามีสาเหตุมาจากความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากกิจกรรมของจีนในน่านน้ำดังกล่าว

ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ระบุว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังล้มเหลวในการบริหารจัดการผลประโยชน์ที่ตนได้รับในทะเลจีนใต้ “จีนยังคงวางกำลังกองกำลังรักษาชายฝั่งในจำนวนที่สูงมาก … แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดยั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากการใช้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจในพื้นที่นั้นได้จริง ๆ” นายแฮร์ริสัน พรีแทต รองผู้อำนวยการโครงการเพื่อความโปร่งใสทางทะเลในเอเชียของสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ กล่าว

สหรัฐฯ พันธมิตร และหุ้นส่วนช่วยกันรักษาเสถียรภาพ นางคริสตา วีแกนด์ ผู้อำนวยการของศูนย์ความมั่นคงระดับชาติและกิจการต่างประเทศในสหรัฐฯ กล่าวเสริม “ความพยายามเหล่านี้ส่วนใหญ่ประกอบด้วยข้อผูกพันจากสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย … รวมถึงประเทศที่โต้แย้งสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะฟิลิปปินส์ แต่ก็รวมถึงอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนามด้วย” นางวีแกนด์กล่าว

“ยังคงมีการเน้นย้ำอย่างต่อเนื่องถึงความจำเป็นที่ต้องเคารพกฎหมายระหว่างประเทศและเสรีภาพในการเดินเรือ”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button