ความร่วมมือทรัพยากรส่วนรวมของโลก

ประเทศในอินโดแปซิฟิกร่วมมือพัฒนาการบริหารการจราจรอวกาศ ท่ามกลางความเสี่ยงในวงโคจรที่เพิ่มขึ้น

มันดีป ซิงห์

เมื่อกิจกรรมด้านอวกาศในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกทวีจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว รัฐบาลและองค์กรต่าง ๆ ในภูมิภาคจึงเดินหน้าส่งเสริมการเฝ้าระวังทางอวกาศ เพื่อลดทอนปัญหาความแออัดในวงโคจร จัดการเศษซากในอวกาศ และปกป้องโครงสร้างพื้นฐานด้านดาวเทียมที่มีความสำคัญ ความร่วมมือในระดับภูมิภาค ซึ่งขับเคลื่อนโดยทั้งแรงผลักดันเชิงยุทธศาสตร์และความจำเป็นเชิงปฏิบัติ กำลังกลายเป็นองค์ประกอบสำคัญของการบริหารจัดการจราจรอวกาศ แม้จะยังไม่มีสนธิสัญญาอย่างเป็นทางการรองรับก็ตาม

ประเทศในภูมิภาคและชาติพันธมิตรกำลังร่วมกันวางรากฐานสำหรับการดำเนินความร่วมมือด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศ ผ่านเวทีต่าง ๆ เช่น ฟอรัมองค์การอวกาศระดับภูมิภาคแห่งเอเชียแปซิฟิก ความพยายามเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับการแบ่งปันข้อมูลและสร้างความตระหนักรู้ในระดับภูมิภาคเกี่ยวกับปฏิบัติการในอวกาศ รายงานฉบับล่าสุดของสถาบันเพื่อการศึกษายุทธศาสตร์ระหว่างประเทศชี้ให้เห็นถึงช่องว่างของความร่วมมือที่ยังคงมีอยู่ และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเสริมสร้างขีดความสามารถในภูมิภาคเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านั้น

หนึ่งในความร่วมมือที่สำคัญคือ โครงการขีดความสามารถเรดาร์ระยะไกลขั้นสูงในห้วงอวกาศลึก ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มร่วมกันของออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยจุดติดตั้งแห่งแรกที่กำลังก่อสร้างในรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียถือเป็นหมุดหมายสำคัญ เมื่อแล้วเสร็จ โครงการขีดความสามารถเรดาร์ระยะไกลขั้นสูงในห้วงอวกาศลึกจะสามารถปฏิบัติงานได้ตลอดเวลาในทุกสภาพอากาศ เพื่อทำหน้าที่ตรวจจับ ติดตาม และจำแนกวัตถุขนาดเล็กในวงโคจรค้างฟ้า ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการเฝ้าระวังทางอวกาศให้กับประเทศพันธมิตร

อินเดีย ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีขีดความสามารถด้านอวกาศเพิ่มขึ้น ก็กำลังดำเนินการเสริมสร้างศักยภาพด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศในลักษณะเดียวกัน องค์กรวิจัยด้านอวกาศแห่งอินเดียได้จัดตั้งสำนักกำกับดูแลและบริหารจัดการการเฝ้าระวังทางอวกาศ และกำลังพัฒนาระบบเรดาร์สำหรับการเฝ้าระวังทางอวกาศโดยเฉพาะในรัฐอุตตราขัณฑ์ ตามข้อมูลของ พ.อ. อัศวนี ชาร์มา ผู้เกษียณอายุราชการจากกองทัพบกอินเดียและเป็นบรรณาธิการวารสารเซาท์เอเชียดีเฟนซ์แอนด์สตราทีจิกรีวิว อินเดียยังมีเครือข่ายสถานีภาคพื้นดินและกล้องโทรทรรศน์แบบออปติคัลที่ดำเนินการภายใต้ระบบติดตามและวิเคราะห์วัตถุในอวกาศ

พ.อ. ชาร์มาเน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศ “ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์และเชิงปฏิบัติ อินเดียและญี่ปุ่นควรผสานความพยายามของตนในการเฝ้าระวังทางอวกาศ” พ.อ. ชาร์มากล่าวกับฟอรัม โดยระบุว่าศักยภาพด้านดาวเทียมที่มีต้นทุนต่ำของอินเดียสามารถเสริมกับเทคโนโลยีความแม่นยำของญี่ปุ่นได้อย่างเหมาะสม

ด้านญี่ปุ่นมีส่วนร่วมสำคัญผ่านระบบเรดาร์และระบบติดตามด้วยแสงที่พัฒนาโดยองค์การสำรวจอวกาศญี่ปุ่น รวมถึงการจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการด้านอวกาศภายใต้กองกำลังป้องกันตนเองทางอากาศญี่ปุ่น ความร่วมมือจากภาคเอกชนก็มีบทบาทเช่นกัน เช่น การที่บริษัทมิตซูบิชิอิเล็กทริกทำงานร่วมกับบริษัทแอสโทรสเกลในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อกำจัดเศษซากในอวกาศ โดยมีบริษัทวิศวกรรมเม็มโคอินเดียเข้าร่วมด้วย

“ในขณะที่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกต้องเผชิญกับความท้าทายด้านภูมิรัฐศาสตร์และความมั่นคงที่เพิ่มขึ้น ทั้งอินเดียและญี่ปุ่นต่างก็มีผลประโยชน์ร่วมกันในการติดตามและปกป้องสินทรัพย์ในอวกาศของตนเอง” พ.อ. ชาร์มากล่าว

ในปัจจุบัน ออสเตรเลีย อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ และเวียดนาม ต่างพึ่งพาความร่วมมือ โดยเฉพาะกับสหรัฐฯ ในด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศ ซึ่งรวมถึงข้อตกลงทวิภาคีและการเข้าร่วมเวทีพหุภาคี เช่น โครงการปฏิบัติการอวกาศร่วมผสม และข้อตกลงความร่วมมืออาร์ทีมิส

มูลนิธิซีเคียวร์เวิลด์ระบุว่าความร่วมมือประเภทนี้ถือเป็นรากฐานสำคัญของการจัดตั้งระบบบริหารจัดการจราจรอวกาศระดับโลก

ที่ประเทศอินโดนีเซีย กล้องโทรทรรศน์ดาราศาสตร์แห่งใหม่ที่หอดูดาวติมาอูคาดว่าจะเริ่มปฏิบัติงานได้ภายในปีนี้ และจะช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะเดียวกัน ความร่วมมือของกลุ่มการเจรจาความมั่นคงจตุภาคี หรือ ควอด ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ก็ได้ยืนยันพันธกิจในการร่วมมือด้านการเฝ้าระวังทางอวกาศอีกครั้ง โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของวาระที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้นในการส่งเสริมการใช้อวกาศอย่างสันติและยั่งยืน

ความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการเฝ้าระวังทางอวกาศยังได้ส่งผลให้ภาคเอกชนมีส่วนร่วมมากยิ่งขึ้น บริษัทลีโอแล็บส์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเชิงพาณิชย์จากสหรัฐฯ ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจกับบริษัทเอสทีอินจิเนียริงจีโออินไซต์สของสิงคโปร์ เพื่อร่วมกันพัฒนาระบบบริหารจัดการจราจรอวกาศในระดับภูมิภาค

มันดีป ซิงห์ เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button