ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ให้คำมั่นว่าจะทำงานร่วมกับสหรัฐฯ และประเทศหุ้นส่วนอื่น ๆ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

เซนทรี
ประธานาธิบดีคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการเลือกตั้งของเกาหลีใต้กล่าวว่าตนจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับญี่ปุ่นและรัฐบาลสหรัฐอเมริกาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
นายลี แจมยอง ผู้เริ่มต้นดำรงตำแหน่งในวาระห้าปีในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2568 เคยดำรงตำแหน่งผู้ว่าการจังหวัดเกียงกีระหว่าง พ.ศ. 2561 – 2564 และก่อนหน้านี้เคยเป็นทนายความด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน
นายลีกล่าวว่าเขาจะตอบโต้การคุกคามและการรุกรานทางทหารจากเกาหลีเหนือด้วยการ “ป้องปรามอย่างแข็งแกร่ง” โดยมีรากฐานจากพันธมิตรระยะยาวระหว่างเกาหลีใต้กับสหรัฐฯ และเขายังจะทำงานเพื่อ “เปิดช่องทางการสื่อสารกับเกาหลีเหนือและสร้างสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลีผ่านการเจรจาและความร่วมมือ” ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
วิดีโอจาก: ส.ท. โคล จอห์นสัน/นาวิกโยธินสหรัฐฯ
เกาหลีเหนือได้หลีกเลี่ยงการเจรจากับเกาหลีใต้และรัฐบาลสหรัฐฯ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 และได้จัดหาทหารและอาวุธให้กับรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน เกาหลีใต้ สหรัฐฯ และประเทศอื่น ๆ สงสัยว่ารัสเซียกำลังถ่ายโอนเทคโนโลยีให้กับเกาหลีเหนือที่สามารถนำไปใช้ในการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ที่ผิดกฎหมายของรัฐบาลเกาหลีเหนือ
ระหว่างการโทรศัพท์พูดคุยกับ พล.ร.อ. คิม มยองซู ประธานคณะเสนาธิการร่วมของกองทัพ นายลี “ได้เรียกร้องให้กองทัพรักษาการเตรียมความพร้อมอย่างรัดกุมโดยการติดตามสถานการณ์ในเกาหลีเหนืออย่างใกล้ชิด โดยยึดหลักท่าทีด้านการป้องกันร่วมระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ” สำนักงานประธานาธิบดีระบุ ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่ารัฐบาลเกาหลีใต้และรัฐบาลสหรัฐฯ มี “ความมุ่งมั่นอันแข็งแกร่ง” ต่อพันธมิตร
นายลีได้แต่งตั้งนายวี ซองลัค อดีตนักการทูต ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ ตามรายงานของยอนฮัป นายวีเคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการคนแรกที่สถานทูตเกาหลีใต้ในรัสเซียและเป็นตัวแทนเกาหลีใต้ในการเจรจานิวเคลียร์กับรัฐบาลเกาหลีเหนือใน พ.ศ. 2552
“จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในด้านนโยบายต่างประเทศและความมั่นคงที่กว้างขวาง ผมเชื่อว่านายวีจะมีบทบาทสำคัญในการบรรลุเป้าหมายของประเทศของเราในด้านการทูตที่เน้นผลลัพธ์จริง ด้านกลาโหมที่ทันสมัย และการสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองบนคาบสมุทรเกาหลี” นายลีกล่าว
นายวีกล่าวว่าตนจะทำงานเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้านและเพิ่มความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเกาหลีใต้ รัฐบาลญี่ปุ่น และรัฐบาลสหรัฐฯ
“ด้วยการทูตที่เน้นผลลัพธ์จริงยึดตามผลประโยชน์ของชาติ เราจะเปลี่ยนวิกฤตที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและความมั่นคงของโลกให้กลายเป็นโอกาสในการเพิ่มผลประโยชน์สูงสุดของชาติของเรา” นายลีกล่าว ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
นายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวว่าเขาต้องการจะจัดการประชุมสุดยอดกับนายลี “โดยเร็วที่สุด” เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคีให้มากยิ่งขึ้น
เกาหลีใต้และญี่ปุ่น “มีผลประโยชน์ร่วมกัน” นายลีกล่าว “ความสอดคล้องในความสัมพันธ์ระหว่างรัฐเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง”
เซนทรีเป็นนิตยสารทางการทหารระดับมืออาชีพที่จัดทำขึ้นโดยกองบัญชาการยุทธศาสตร์ สหรัฐฯ เพื่อเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นสำหรับบุคลากรด้านความมั่นคงของประเทศ