ไต้หวันปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านความมั่นคงทางไซเบอร์เพื่อรับมือกับแฮกเกอร์ที่ได้รับการหนุนหลังจากจีน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เจ้าหน้าที่ระบุว่า ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์ที่รวบรวมทรัพยากรจากหน่วยงานรัฐบาลและหุ้นส่วนทั่วโลก จะเสริมสร้างการป้องกันของไต้หวันจากการเจาะระบบและภัยคุกคามทางดิจิทัลอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มักมาจากจีน

โครงการริเริ่มที่สถาบันความมั่นคงทางไซเบอร์แห่งชาติได้เสนอในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 จะดูแลด้านสำคัญ ๆ เช่น การพัฒนาความสามารถในการรับมือของสังคม การปกป้องห่วงโซ่อุปทานและโครงสร้างพื้นฐาน และการรับรองการใช้ปัญญาประดิษฐ์อย่างปลอดภัย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทเปไทมส์

ไต้หวัน “เผชิญกับอัตราการรุกล้ำทางไซเบอร์ที่สูงที่สุดในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” ตามรายงานของสถาบันโกลบอลไต้หวัน ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2568 แฮกเกอร์ที่ได้รับการหนุนหลังจากรัฐบาลจีนมุ่งเป้าโจมตีไปยังโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ เครือข่ายทางการทูตและรัฐบาล รวมถึงทรัพย์สินทางปัญญาจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ชั้นนำของโลกจากไต้หวัน

พรรคคอมมิวนิสต์จีนเดินหน้ารณรงค์เชิงบีบบังคับและแสดงท่าทีกระหายสงครามต่อไต้หวันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจีนอ้างว่าเป็นดินแดนของตนและขู่ว่าจะผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตนโดยใช้กำลัง

จีน “ใช้วิธีการคุกคามทางไซเบอร์หลายรูปแบบเพื่อโจมตีไต้หวัน” และอาจร่วมมือกับอาชญากรไซเบอร์จากรัสเซีย ตามรายงานของสถาบันโกลบอลไต้หวัน “รัฐบาลจีนใช้ประโยชน์จากการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเพื่อรวบรวมข่าวกรอง บิดเบือนสภาพแวดล้อมด้านข้อมูลข่าวสาร และเตรียมความพร้อมสำหรับสงคราม”

เนื่องจากภัยคุกคามทางดิจิทัลทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทั้งบุคลากรและองค์กรจะต้องร่วมมือกันสร้างเครือข่ายความมั่นคงทางไซเบอร์ระดับโลก นายไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ได้กล่าวในงานไซเบอร์เซค พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นการประชุมประจำปี ณ กรุงไทเปในช่วงกลางเดือนเมษายนที่ได้รับความสนใจจากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ นายไล่ระบุว่าใน พ.ศ. 2567 เครือข่ายของรัฐบาลไต้หวันต้องรับมือกับความพยายามรุกล้ำทางไซเบอร์เฉลี่ยวันละ 2.4 ล้านครั้ง ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ตามรายงานของไทเปไทมส์

นอกจากนี้ยังได้ระบุเพิ่มเติมว่า โครงการริเริ่มด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ระยะเวลา 4 ปีที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้นั้น ครอบคลุมการพัฒนาเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับการยกระดับความแข็งแกร่งของเครือข่ายการรักษาความปลอดภัยข้อมูล ตามรายงานของกระทรวงการต่างประเทศ

ศูนย์ความมั่นคงทางไซเบอร์ที่มีแผนจะจัดตั้งขึ้นนี้ เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ด้านการรักษาความปลอดภัยข้อมูลของสภาความมั่นคงแห่งชาติไต้หวัน ซึ่งได้มีการเปิดเผยเมื่อช่วงต้นเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 แผนดังกล่าวให้ความสำคัญกับการคุ้มครองระบบคำสั่งปฏิบัติการทางทหาร เพื่อป้องกันไม่ให้ศัตรูขโมยข้อมูลหรือบ่อนทำลายระบบป้องกัน ตามรายงานของไทเปไทมส์

แฮกเกอร์ที่ได้รับการหนุนหลังจากจีน “ให้ความสำคัญกับการรวบรวมข้อมูลด้านการเมือง การทูต การทหาร เศรษฐกิจ และสังคม” ตามรายงานของสถาบันโกลบอลไต้หวัน รายงานดังกล่าวได้อ้างถึงกลุ่มแฮกเกอร์ที่รู้จักในชื่อแฟล็กซ์ไทฟูน ที่เชื่อว่าอาศัยอยู่ในมณฑลฝูเจี้ยนของจีน ซึ่งตั้งอยู่ข้ามจากไต้หวันโดยมีช่องแคบไต้หวันขั้นกลาง ตั้งแต่ปลาย พ.ศ. 2566 ถึงต้น พ.ศ. 2567 กลุ่มดังกล่าวได้ทำการเจาะระบบเครือข่ายของมหาวิทยาลัยในไต้หวันเพื่อมุ่งโจมตีหน่วยงานทางการทูตและรัฐบาล บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ และสถาบันวิจัย ตามรายงานของของเร็กคอร์ดิด ฟิวเจอร์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านความมั่นคงทางไซเบอร์ในสหรัฐฯ

“ไต้หวันไม่สามารถผ่อนคลายได้ เนื่องจากความมุ่งมั่น … และจำนวน” ของผู้มีบทบาทที่ได้รับการหนุนหลังจากจีน ตามรายงานของสถาบันโกลบอลไต้หวัน