ใน “การเปิดเผยข้อมูลที่หักล้างความเข้าใจเดิม” ชี้ว่า การซ้อมรบของจีนในช่องแคบไต้หวันแสดงให้เห็นว่ากองกำลังรักษาชายฝั่งจีนขึ้นตรงต่อคำสั่งของกองทัพ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ในระหว่างการซ้อมรบทางทหารเป็นเวลาสองวันในช่องแคบไต้หวันเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งถือเป็นการเปิดเผยต่อสาธารณชนถึงการบิดเบือนข้อมูลที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนกระทำมาเป็นเวลาหลายปี เกี่ยวกับบทบาททางทหารของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีน
“การเปิดเผยข้อมูลที่หักล้างความเข้าใจเดิม” นี้เป็นการรายงานของสภาแอตแลนติก ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยที่ตั้งอยู่ในสหรัฐอเมริกา โดยเนื้อหานี้ขัดแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลจีนมักนำเสนอว่ากองกำลังรักษาชายฝั่งจีนมีบทบาทเป็นเพียงเจ้าหน้าที่พลเรือนผู้บังคับใช้กฎหมาย การสร้างภาพที่ผิดจากความเป็นจริงดังกล่าว เป็นความพยายามในการปกปิดการกระทำที่บีบบังคับ ก้าวร้าว และหลอกลวงของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีน เช่น การพุ่งชนและยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือของประเทศอื่น โดยอ้างว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามปกติ
เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้ปะทะกับเรือฟิลิปปินส์หลายครั้งใกล้กับสันดอนโทมัสที่สองในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลจีนอ้างสิทธิ์ว่าเป็นของตนเกือบทั้งหมด แม้จะมีคำตัดสินจากศาลระหว่างประเทศที่ระบุว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย อีกทั้งเรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้ล่วงล้ำน่านน้ำที่อยู่ภายใต้การควบคุมของญี่ปุ่นรอบหมู่เกาะเซ็งกะกุในทะเลจีนตะวันออก ซึ่งรัฐบาลจีนยังคงเดินหน้าผลักดันการอ้างสิทธิ์ในอาณาเขตนี้ตามอำเภอใจ
กองกำลังรักษาชายฝั่งไต้หวันได้ยืนยันความเชื่อมโยงทางทหารดังกล่าว โดยได้เปิดเผยว่าสังเกตเห็นกองบัญชาการยุทธภูมิตะวันออกของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมปฏิบัติการทางทหารของจีนในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ กำลังควบคุมปฏิบัติการของเรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนและกองกำลังของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ระหว่างการฝึกซ้อมของรัฐบาลจีนใกล้ไต้หวันที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงอ้างว่าเป็นดินแดนของตนและข่มขู่ว่าจะผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตนโดยใช้กำลัง
“ขณะนี้เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้ควบคุมปฏิบัติการของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีน และใช้ภาพลักษณ์ของการบังคับใช้กฎหมายเป็นฉากบังหน้า” เพื่อพยายามสร้างความได้เปรียบทางทหารเหนือไต้หวัน ตลอดจนพันธมิตรและหุ้นส่วน โดยไม่ให้ประชาชนตั้งข้อสงสัย ตามรายงานของสภาแอตแลนติก
การซ้อมรบซึ่งใช้เวลาทั้งสิ้น 33 ชั่วโมง มีการนำเรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนมาจำลองสถานการณ์ปิดกั้นช่องแคบไต้หวัน รวมถึงการขึ้นไปตรวจค้นเรือที่เดินทางเข้าและออกจากไต้หวันด้วย การเคลื่อนไหวทางทหารดังกล่าวไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าระดับโลกที่สำคัญแห่งนี้ นายหยิง หยู่ หลิน ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งสถาบันบัณฑิตศึกษาด้านกิจการระหว่างประเทศและการศึกษายุทธศาสตร์ของมหาวิทยาลัยทัมกังในไต้หวัน เขียนไว้ในนิตยสารเดอะดิโพลแมต
ไต้หวันรายงานว่า มีเรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนจำนวน 9 ลำที่เข้าร่วมปฏิบัติการในระหว่างการซ้อมรบดังกล่าว นักวิเคราะห์กล่าวว่า การใช้เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งนั้นเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์กฎหมายสงครามที่รัฐบาลจีนใช้ในการโจมตีไต้หวัน “การผลักดันบทบาทของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนให้เด่นชัดขึ้น สะท้อนถึงความพยายามของรัฐบาลจีนในการแสดงอำนาจทางเขตอำนาจศาลและการบังคับใช้กฎหมายเหนือไต้หวัน” นายหยิงเขียนในเดือนเมษายน
กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ซึ่งเป็นองค์กรทางทหารระดับสูงของรัฐบาลจีน มาตั้งแต่ พ.ศ. 2561 และในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 รัฐบาลจีนยังได้ออกกฎหมายที่เอื้ออำนาจให้กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนสามารถใช้อาวุธได้โดยชอบด้วยกฎหมาย ความเคลื่อนไหวเหล่านี้ได้ปูทางให้กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนปรับบทบาทสู่การเป็นกองทัพเรือแห่งที่สองของประเทศ ตามรายงานของเจแปน ฟอร์เวิร์ด ซึ่งเป็นสื่อตีพิมพ์ในกรุงโตเกียวเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 แทนที่จะมุ่งเน้นภารกิจการบังคับใช้กฎหมายแบบดั้งเดิมที่มุ่งเป้าไปยังผู้ลักลอบขนสินค้าผิดกฎหมายหรือการค้นหาและกู้ภัย กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนที่ปรับให้มีลักษณะทางทหาร กลับนำมาใช้เป็นเครื่องมือในข้อพิพาททางดินแดน เพื่อรบกวนกิจกรรมที่ชอบด้วยกฎหมายของประเทศอื่นที่อยู่ภายใต้อธิปไตย
รายงานของซีเอ็นเอ็นระบุว่า การวิเคราะห์ของไต้หวันเกี่ยวกับการซ้อมรบทางทหารเมื่อเดือนเมษายนพบว่ารัฐบาลจีนดำเนินการดังกล่าวเนื่องจากสหรัฐฯ ได้ “ย้ำถึงความสำคัญของความมั่นคงและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน รวมถึงยืนยันว่าสหรัฐฯ ได้หันมาให้ความสำคัญด้านความมั่นคงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”