เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี ของสหรัฐฯ ปฏิบัติการนอกญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก

ผู้เขียนบทความจากเซนทรี
เครื่องบินทิ้งระเบิด บี-1บี แลนเซอร์ ของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาจำนวน 2 ลำ เดินทางถึงฐานทัพอากาศมิซาวะ ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 โดยเป็นส่วนหนึ่งของการส่งกำลังหน่วยเครื่องบินทิ้งระเบิดเฉพาะกิจหมุนเวียน ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่เครื่องบิน บี-1 ปฏิบัติการนอกฐานทัพอากาศมิซาวะ การส่งกำลังดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อการรักษาการแสดงตนในแนวหน้าในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
เจ้าหน้าที่ได้เน้นย้ำถึงเหตุผลด้านยุทธการของภารกิจนี้ โดยชี้ให้เห็นถึงการยกระดับการป้องปราม ความพร้อมทางกำลังรบ และความสามารถในการทำงานร่วมกับพันธมิตรในภูมิภาค
วิดีโอจาก: จ.ท. เอ็มมา แอนเดอร์สัน/จ.ต. แมททิสัน โคล/กองทัพอากาศสหรัฐฯ
การส่งกำลังในครั้งนี้ “แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสหรัฐฯ ในการยับยั้งภัยคุกคามและรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค” พ.ท. คริสโตเฟอร์ แทรเวลสเตด ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการของฝูงบินที่ส่งกำลังไป กล่าว “ภารกิจในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเหล่านี้ทำให้ลูกเรือของเครื่องบิน บี-1 ของเราได้รับการฝึกอบรมอย่างเข้มข้น และพร้อมตอบสนองต่อภารกิจทุกที่ ทุกเวลา เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของสหรัฐฯ และสนับสนุนพันธมิตรของเรา เพื่อความมั่นคงของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”
เครื่องบิน บี-1บี แลนเซอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดหนักความเร็วเหนือเสียงที่เริ่มประจำการตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 (พ.ศ. 2523 – 2532) ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของขีดความสามารถในการโจมตีพิสัยไกลของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ด้วยการออกแบบปีกที่สามารถปรับเปลี่ยนมุมกางได้และระบบอิเล็กทรอนิกส์การบินขั้นสูง ทำให้เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่นนี้สามารถปรับให้เข้ากับภารกิจหลากหลายรูปแบบได้ เครื่องบิน บี-1บี ได้รับการพัฒนาด้วยแนวคิดที่เน้นความยืดหยุ่น โดยติดตั้งระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์และขีดความสามารถในการใช้อาวุธนำวิถีความแม่นยำสูง ทำให้เหมาะสำหรับการโจมตีเป้าหมายที่มีมูลค่าสูงรวมถึงการทิ้งระเบิดในพื้นที่กว้าง

ภาพจาก: จ.ท. เอ็มมา แอนเดอร์สัน/กองทัพอากาศสหรัฐฯ
การส่งกำลังหน่วยเครื่องบินทิ้งระเบิดเฉพาะกิจช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการ และเป็นเวทีสำหรับการฝึกในสภาพแวดล้อมจริงอย่างครอบคลุม ด้วยการหมุนเวียนเครื่องบินทิ้งระเบิดไปยังพื้นที่ปฏิบัติการแนวหน้า กองทัพอากาศสหรัฐฯ สามารถเปิดโอกาสให้ลูกเรือได้สัมผัสกับสภาพแวดล้อมการปฏิบัติการที่หลากหลาย ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการปรับปรุงยุทธวิธี เสริมประสิทธิภาพการวางแผนภารกิจ และยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมกับกองกำลังพันธมิตร
การส่งกำลังไปประจำการในแนวหน้าของเครื่องบินแบบ บี-1บี ยังสนับสนุนยุทธศาสตร์ในภาพรวมของสหรัฐฯ ที่คงไว้ซึ่งการแสดงตนแบบหมุนเวียนในภูมิภาคที่สำคัญ การอยู่ในระยะใกล้กับจุดที่อาจเกิดความขัดแย้งช่วยให้กองกำลังสหรัฐฯ สามารถเคลื่อนกำลังได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้มาตรการป้องปรามยังคงมีความน่าเชื่อถือและทันต่อสถานการณ์
การส่งกำลังในครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ด้านความมั่นคงที่ทวีความตึงเครียดมากขึ้นในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก จากท่าทีทางทหารที่แข็งกร้าวมากขึ้น โดยเฉพาะจากจีน ซึ่งมีส่วนทำให้สภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคนี้มีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ความกังวลเกี่ยวกับข้อพิพาทเรื่องดินแดน เสรีภาพในการเดินเรือ และดุลอำนาจเชิงยุทธศาสตร์ล้วนผลักดันให้สหรัฐฯ ตลอดจนพันธมิตรและหุ้นส่วนเสริมสร้างจุดยืนทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ
สำหรับญี่ปุ่น การมาถึงของเครื่องบินทิ้งระเบิดของสหรัฐฯ ที่ฐานทัพอากาศมิซาวะเป็นการยืนยันถึงพันธกรณีด้านความมั่นคงที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างทั้งสองประเทศ พันธมิตรญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เป็นรากฐานสำคัญของความมั่นคงในภูมิภาคมานานหลายทศวรรษ และการส่งกำลังอย่างสอดประสาน เช่น หน่วยเครื่องบินทิ้งระเบิดเฉพาะกิจสะท้อนถึงมาตรการที่ครอบคลุมเพื่อให้ทั้งสองประเทศพร้อมรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป
เซนทรีเป็นนิตยสารทางการทหารระดับมืออาชีพที่จัดทำขึ้นโดยกองบัญชาการยุทธศาสตร์ สหรัฐฯ เพื่อเป็นพื้นที่แสดงความคิดเห็นสำหรับบุคลากรด้านความมั่นคงของประเทศ