ออสเตรเลียเสริมการลาดตระเวนทางทะเลของฟิลิปปินส์ด้วยโดรน ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดในทะเลจีนใต้

มาเรีย ที. เรเยส

การส่งมอบโดรนเฝ้าระวังของออสเตรเลียให้แก่กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ได้เสริมสร้างขีดความสามารถด้านขอบเขตในการเฝ้าระวังทางทะเลในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์

กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์กำลังเผชิญกับสถานการณ์ที่ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นจากกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนในทะเลที่อุดมไปด้วยทรัพยากร ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางการค้าระดับโลกที่สำคัญ เรือจีนได้พุ่งชนและยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือฟิลิปปินส์ พร้อมทั้งยิงแสงเลเซอร์ที่ได้มาตรฐานทางทหารใส่กองกำลังของฟิลิปปินส์

พล.ร.อ. รอนนี กิล กาวาน ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ ระบุว่า โดรนทั้ง 20 ลำถือเป็น “เทคโนโลยีที่พลิกโฉมรูปแบบการปฏิบัติภารกิจ ซึ่งช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ สามารถดำเนินภารกิจได้หลากหลายยิ่งขึ้น” พล.ร.อ. กาวานกล่าวในพิธีส่งมอบที่จังหวัดบาตานว่า อากาศยานไร้คนขับเหล่านี้ถือเป็น “เครื่องมือสำคัญที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ”

ยานพาหนะเหล่านี้จะสนับสนุนภารกิจค้นหาและกู้ภัย การรักษาความปลอดภัยและความมั่นคงทางทะเล รวมถึงการปกป้องสิ่งแวดล้อมทางทะเล

การบริจาคในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือด้านกิจการทางทะเลของภาคพลเรือนระหว่างออสเตรเลียและฟิลิปปินส์ ซึ่งรวมถึงการซ่อมบำรุงเรือ การมอบทุนการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา การฝึกอบรมปฏิบัติการ การปกป้องทางทะเล และการจัดสัมมนาว่าด้วยกฎหมายทางทะเล รัฐบาลออสเตรเลียวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนเป็นสองเท่าสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ โดยจะเพิ่มจากเดิมเป็น 377 ล้านบาท (ประมาณ 11.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในช่วงระหว่าง พ.ศ. 2568 ถึง 2572

นางเอชเค ยู เอกอัครราชทูตออสเตรเลียประจำฟิลิปปินส์ ได้กล่าวว่าการบริจาคครั้งนี้เป็น “ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของความร่วมมือทางทะเลที่เพิ่มขึ้นระหว่างออสเตรเลียและฟิลิปปินส์ และเป็นการสนับสนุนความพยายามในการปรับปรุงเทคโนโลยีของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์”

“ซึ่งถือเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของแนวทางที่เราได้นำความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างฟิลิปปินส์และออสเตรเลียไปปฏิบัติจริง” นางยูกล่าวระหว่างพิธี

ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนด้านความมั่นคงที่ใกล้ชิดที่สุดของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ได้ประณามการกระทำอันเป็นการบีบบังคับของจีนในทะเลจีนใต้ และได้ทำการลาดตระเวนร่วมกับฟิลิปปินส์ตั้งแต่ พ.ศ. 2566 ภายใต้ข้อตกลงกองกำลังเยือน กองทัพของทั้งสองประเทศสามารถฝึกอบรมและฝึกซ้อมในดินแดนของกันและกันได้

ผู้เชี่ยวชาญจากออสเตรเลียได้เดินทางไปยังฟิลิปปินส์ในช่วงต้นเดือนเมษายน เพื่อทำการฝึกอบรมการใช้โดรนให้กับสมาชิก 30 คนจากฝูงบินอากาศยานไร้คนขับแห่งหน่วยการบินของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ “เจ้าหน้าที่ของเราจะได้รับการฝึกฝนให้สามารถใช้งาน ซ่อมบำรุง และแก้ไขปัญหาของโดรนเหล่านี้ได้อย่างเหมาะสม เมื่อจำเป็น” พล.ร.จ. เจย์ ทาร์ริเอล่า โฆษกของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ กล่าวกับ ฟอรัม “การฝึกอบรมนี้จะช่วยให้เราสามารถยืดอายุการใช้งานของโดรนเหล่านี้ และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายได้”

โดรนระยะสั้นและระยะกลางช่วยให้ “กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์สามารถรวบรวมข้อมูลตามเวลาจริงเกี่ยวกับขอบเขตทางทะเลได้ และในขณะเดียวกันก็ช่วยลดต้นทุนด้านโลจิสติกส์และประหยัดเวลา” พล.ร.จ. ทาร์ริเอล่ากล่าว “ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าระวังบริเวณท่าเรือ แนวชายฝั่ง หรือทะเลอาณาเขต โดรนเหล่านี้จะช่วยยกระดับศักยภาพด้านปฏิบัติการของเรา”

ในขณะเดียวกัน โดรนระยะไกลสามารถนำไปใช้ในทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบันทึก “กิจกรรมที่ผิดกฎหมายของกองกำลังทางทะเลจีนภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ชอบด้วยกฎหมายของเรา” พล.ร.จ. ทาร์ริเอล่ากล่าว

“ภาพถ่ายและวิดีโอที่บันทึกไว้กลายเป็นเครื่องเตือนสติที่ทรงพลังต่อบรรดาประเทศในภูมิภาค ซึ่งยังคงนิ่งเฉย ไม่ออกมาแสดงจุดยืนในการประณามการกระทำที่ผิดกฎหมายของสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากภาพหลักฐานเหล่านี้อาจกระตุ้นให้ประชาชนในประเทศเหล่านั้นลุกขึ้นมาตั้งคำถามกับรัฐบาลของตนว่า เหตุใดจึงไม่มีการตอบโต้ ในเมื่อรัฐบาลจีนได้ละเมิดเขตอำนาจทางทะเลของประเทศ” พล.ร.จ. ทาร์ริเอล่ากล่าว

มาเรีย ที. เรเยส เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์