ปฏิบัติการไฮมาสต์ที่นำโดยสหราชอาณาจักร มุ่งหน้าสู่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเพื่อปฏิบัติการร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เรือธงของกองทัพเรือสหราชอาณาจักร เอชเอ็มเอส พริ้นซ์ ออฟ เวลส์ ได้ออกจากฐานทัพเรือพอร์ตสเมาท์ในช่วงปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 เพื่อเป็นผู้นำภารกิจส่งกำลังพลพหุภาคีในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

ปฏิบัติการของกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของสหราชอาณาจักรใน พ.ศ. 2568 ซึ่งใช้ชื่อว่าปฏิบัติการไฮมาสต์ จะดำเนินการเป็นระยะเวลา 8 เดือน โดยได้รับความร่วมมือจากกองเรือและ/หรือเจ้าหน้าที่จาก 13 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส อินเดีย อิตาลี ญี่ปุ่น มาเลเซีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกา เรือฟริเกตและเรือเสริมจากแคนาดา นอร์เวย์ และสเปน จะเข้าร่วมเสริมกำลังในปฏิบัติการนี้

กองเรือจะแล่นผ่านทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเพื่อเทียบท่าและเข้าร่วมการฝึกซ้อมทางทหาร รวมทั้งการฝึกซ้อมเนปจูนสไตรค์ขององค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และการฝึกทาลิสมันเซเบอร์ซึ่งจัดขึ้นในออสเตรเลียช่วงเดือนกรกฎาคม นอกจากนี้ยังมีแผนการฝึกอบรมทวิภาคีกับกองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่นด้วย

“หนึ่งในวัตถุประสงค์สำคัญของการดำเนินปฏิบัติการในภูมิภาคนี้คือการเสริมสร้างระเบียบระหว่างประเทศ” พล.ร.จ. เจมส์ แบล็กมอร์ แห่งกองทัพเรือสหราชอาณาจักร กล่าวกับเดอะเทเลกราฟ ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ในกรุงลอนดอน “การดำเนินการนี้เป็นการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในด้านนี้ และยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับพันธมิตรและหุ้นส่วนของเราด้วย”

กองกำลังโจมตีนี้ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ล่องหน เอฟ-35บี จำนวน 24 ลำ อากาศยานไร้คนขับ เฮลิคอปเตอร์ เรือฟริเกตต่อต้านเรือดำน้ำ และเรือดำน้ำโจมตีพลังงานนิวเคลียร์ชั้นแอสทูต รัฐบาลสหราชอาณาจักรระบุว่า จะมีเจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือสหราชอาณาจักรประมาณ 2,500 นาย กองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเกือบ 600 นาย และกองทัพสหราชอาณาจักรอีก 900 นาย เข้าร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้

การดำเนินการนี้นับเป็นปฏิบัติการครั้งที่สองของกองกำลังโจมตี โดยปฏิบัติการครั้งแรกมีเรือเอชเอ็มเอส ควีน เอลิซาเบธ เป็นผู้นำใน พ.ศ. 2564 เรือเอชเอ็มเอส พริ้นซ์ ออฟ เวลส์ ซึ่งเข้าประจำการเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2562 ถือเป็นหนึ่งในเรือรบขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของสหราชอาณาจักร

ปฏิบัติการในครั้งนี้เปิดโอกาสให้กองทัพสหราชอาณาจักรได้ดำเนินปฏิบัติการในระดับโลก และฝึกซ้อมปฏิบัติการที่มีความซับซ้อนร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วน กองกำลังโจมตีจะแล่นผ่านคลองสุเอซจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปยังมหาสมุทรอินเดีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังมหาสมุทรแปซิฟิก ตามรายงานของเนวีลุกเอาต์ สื่อของสหราชอาณาจักร

ปฏิบัติการไฮมาสต์มุ่งเน้นที่ความพร้อมรบและการป้องปรามภัยคุกคาม ท่ามกลางภัยคุกคามระดับโลกที่ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก สหราชอาณาจักรมีเป้าหมายในการแสดงอำนาจ รวมถึงเสริมสร้างความเป็นพันธมิตรและความร่วมมือ เช่น นาโตและควอด ซึ่งประกอบด้วยออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ตามรายงานของยูเค ดีเฟนซ์ เจอร์นัล ซึ่งเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ออนไลน์

พล.ร.จ. แบล็กมอร์ระบุว่าปฏิบัติการดังกล่าว “เป็นการส่งสารไปยังพันธมิตรและหุ้นส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจ และถึงฝ่ายตรงข้ามที่อาจมีเจตนาก่อความไม่สงบบนเวทีโลกว่า สหราชอาณาจักรมีขีดความสามารถที่น่าเชื่อถือและพร้อมตอบโต้เมื่อจำเป็น ด้วยกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีของตน”