ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

นักวิเคราะห์ระบุว่า นายสีอาจไม่สามารถควบคุมหรือไว้วางใจกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน อาจยังไม่สามารถควบคุมผู้นำทหารของตนได้อย่างสมบูรณ์ และไม่อาจไว้วางใจกองทัพได้ในสถานการณ์การรบจริง นักวิเคราะห์กล่าว

นักวิเคราะห์ยืนยันว่า การกวาดล้างเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงอย่างต่อเนื่องของนายสีอาจสะท้อนถึงจุดอ่อนของเขาเอง

นายสีอยากให้กองทัพปลดปล่อยประชาชนเตรียมความพร้อมสำหรับการรุกรานไต้หวันที่ปกครองตนเองภายใน พ.ศ. 2570 อย่างไรก็ตาม การกวาดล้างเจ้าหน้าที่ทหารครั้งล่าสุดของนายสี ยิ่งเพิ่มความคลางแคลงใจต่อความเป็นไปได้ของการรุกรานดังกล่าว

การกวาดล้างครั้งนี้ “อาจส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ตลอดจนต่อการรับรู้เกี่ยวกับความตั้งใจของจีนในการใช้กำลังทางทหาร” นางสาวเฮเลนา เลการ์ดา หัวหน้านักวิเคราะห์จากสถาบันจีนศึกษา เมอร์คาทอร์ ในกรุงเบอร์ลิน กล่าวกับนิตยสารเดอะดิโพลแมต ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567

“หากนายสี จิ้นผิงยังคงต้องเปลี่ยนตัวผู้นำระดับสูงอยู่เรื่อย ๆ ด้วยข้อกล่าวหาด้านการทุจริต นายสีและผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะยังสามารถวางใจคำกล่าวอ้างของนายทหารระดับสูงที่ว่า กองทัพมีความพร้อมในการดำเนินปฏิบัติการทางทหารต่อไต้หวันหรือรับมือกับความขัดแย้งในทะเลจีนใต้ได้หรือไม่?” 

นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งใน พ.ศ. 2555 นายสีได้เป็นผู้นำการรณรงค์กวาดล้างเจ้าหน้าที่ทหารที่ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริต ซึ่งการรณรงค์นี้ได้มีการเร่งรัดขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะการปลดรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสองคน ได้แก่ นายเว่ย เฟิงเหอ และนายหลี่ ซ่างฝู พร้อมทั้งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนจำนวนมาก ในปีที่ผ่านมา นายสีได้ปลดผู้นำคนสำคัญของหน่วยกองกำลังจรวด ซึ่งรับผิดชอบโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของจีน รวมถึงปลด พล.อ. หลี่ ยูจ้าว ผู้บังคับบัญชาหน่วยดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ในกองทัพปลดปล่อยประชาชนของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งรวมถึงกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ต้องสาบานตนภักดีต่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน รวมถึงต้องเป็นสมาชิกของพรรค แม้ว่านายสีจะมีอำนาจบังคับบัญชาในฐานะผู้นำพรรคและประธานคณะกรรมาธิการทหารส่วนกลาง ทว่าเจ้าหน้าที่ทหารของจีนก็ยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองอย่างมาก ทั้งนี้แสดงให้เห็นว่านายสีอาจไม่สามารถไว้วางใจคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ทหารเหล่านี้เกี่ยวกับความพร้อมของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้ นักวิเคราะห์กล่าว

แม้ว่าการทุจริตจะส่งผลกระทบในแง่ลบต่อความพร้อมของกองกำลัง ทว่านายสีมีแนวโน้มที่จะใช้ข้อกล่าวหาด้านการทุจริตเป็นเครื่องมือในการกำจัดผู้ที่เป็นภัยคุกคามต่ออำนาจของตน นักวิเคราะห์กล่าว

การกวาดล้างบุคคลในพรรคนั้นอาจเป็นสัญญาณว่าผู้นำพรรคหลายคนเริ่มต่อต้านอำนาจของนายสี นายสีอาจกำลังพยายามกำจัดผู้นำทหารที่สงสัยว่าเป็นภัยคุกคาม เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นปัญหาในอนาคต นางสาวเลการ์ดากล่าวกับเดอะดิโพลแมต

เมื่อไม่นานมานี้ นายสีได้ปลด พล.อ. เหอ เว่ยตง ซึ่งเป็นนายทหารที่มีตำแหน่งสูงเป็นอันดับสองของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเคยได้รับคำสั่งให้จากนายสีให้เป็นผู้วางแผนการรุกรานไต้หวัน

“ปัญหาที่น่ากังวลยิ่งกว่า ซึ่งเห็นได้ชัดจากความวุ่นวายภายในคือ นายสี จิ้นผิง และพรรคคอมมิวนิสต์จีนอาจยังไม่สามารถควบคุมกองทัพได้อย่างแท้จริง” ดร. ฟิลลิป ซอนเดอร์ส และ ดร. โจเอล วูธนาว แห่งมหาวิทยาลัยป้องกันประเทศในกรุงวอชิงตัน เขียนบทความในหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2568

“เรายังไม่อาจยืนยันได้อย่างชัดเจนว่า การปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับการทุจริต ซึ่งถือเป็นปัญหาที่ฝังรากลึกและรุนแรงภายในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ทั้งนี้ อาจเป็นผลมาจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์ หรือมีสาเหตุอื่นที่ยังไม่ถูกเปิดเผยอยู่เบื้องหลัง” ดร. ซอนเดอร์ส และ ดร. วูธนาว เขียน “อย่างไรก็ตาม ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นได้นำไปสู่ข้อกังขาอย่างจริงจังต่อศักยภาพและความน่าเชื่อถือของผู้บัญชาการภายใต้การนำของนายสี ซึ่งอาจส่งผลให้นายสีลดความมุ่งมั่นในการทำสงครามลง และเปิดโอกาสให้ทั้งไต้หวันและสหรัฐอเมริกาเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางกลาโหมของตนเอง”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button