ไต้หวันตั้งข้อหากัปตันเรือจีนฐานทำลายสายเคเบิลใต้น้ำ

รอยเตอร์
อัยการไต้หวันได้ตั้งข้อหากัปตันเรือจีนในเดือนเมษายน พ.ศ. 2568 ฐานจงใจทำลายสายเคเบิลใต้น้ำที่เชื่อมระหว่างเกาะหลักของไต้หวันกับเกาะเผิงหู ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ล่าสุดในบรรดาเหตุการณ์ที่สร้างความวิตกให้แก่เจ้าหน้าที่และเพิ่มความตึงเครียดกับจีน
เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวกัปตันเรือบรรทุกสินค้า “หงไท่ 58” ซึ่งจดทะเบียนในโตโก หลังจากผู้ให้บริการสายเคเบิลรายงานความเสียหายซึ่งคาดว่าเกิดจากสมอเรือ ลูกเรืออีกเจ็ดคนก็ถูกควบคุมตัวเช่นกัน แต่อัยการระบุว่าจะไม่ตั้งข้อหา
นี่นับเป็นครั้งแรกที่ไต้หวันตั้งข้อหาเกี่ยวกับความเสียหายต่อสายเคเบิลใต้น้ำ ใน พ.ศ. 2568 ไต้หวันรายงานเหตุขัดข้องของสายเคเบิลทางทะเลแล้วห้าครั้ง เทียบกับสามครั้งต่อปีใน พ.ศ. 2566 และ พ.ศ. 2567
รายงานของหนังสือพิมพ์โฟกัสไต้หวันระบุว่า สายเคเบิลใยแก้วนำแสงที่ได้รับความเสียหายจากเรือ หงไท่ 58 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์นั้น ใช้สำหรับการสื่อสารทางโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ สายเคเบิลดังกล่าวอยู่ในเขตห้ามทอดสมอที่รัฐบาลกำหนดไว้
อัยการระบุว่าเรือ หงไท่ 58 ลอยอยู่ในบริเวณดังกล่าวเป็นเวลาหลายวัน โดยแล่นในลักษณะสลับไปมารอบบริเวณสายเคเบิลที่เสียหาย ตามรายงานของหนังสือพิมพ์โฟกัสไต้หวัน ตำแหน่งของสายเคเบิลดังกล่าว รวมถึงสายเคเบิลใต้น้ำเส้นอื่น ๆ รอบไต้หวัน ยังปรากฏอยู่ในแผนที่เดินเรืออิเล็กทรอนิกส์ของเรือด้วย อัยการระบุ
เจ้าหน้าที่ระบุว่ากัปตันเรือได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาและอ้างความบริสุทธิ์ แต่ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าของเรือ
ข้อหาทำให้การทำงานของสายเคเบิลใต้น้ำเสียหายจนไม่สามารถทำงานได้ตามปกตินั้นมีโทษจำคุกสูงสุดถึง 7 ปี
กองกำลังรักษาชายฝั่งและกองทัพเรือของไต้หวันได้เพิ่มมาตรการในการปกป้องสายเคเบิลใต้น้ำที่มีความสำคัญ โดยรวมถึงการเฝ้าติดตามเรือที่มีความเชื่อมโยงกับจีนเกือบ 100 ลำ ซึ่งจดทะเบียนในประเทศอื่นที่ไม่ใช่ประเทศของเจ้าของเรือ เจ้าหน้าที่กล่าว
รัฐบาลจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตนและข่มขู่ว่าจะผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตนโดยใช้กำลัง ไต้หวันได้ประณามกลยุทธ์พื้นที่สีเทาของจีน ซึ่งมุ่งกดดันไต้หวันโดยไม่เผชิญหน้าโดยตรง