ทรัพยากรส่วนรวมของโลกเรื่องเด่นโอเชียเนีย

การแบ่งปัน ข่าวกรอง ด้านสิ่งแวดล้อม

สหรัฐฯ สนับสนุนความพยายามด้านการอนุรักษ์และความยั่งยืนทั่วโลกผ่านการให้ข้อมูลอย่างเปิดเผยและไม่มีค่าใช้จ่าย

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

แ ผนการพัฒนาท่าเทียบเรือบนเกาะคานตอนของคิริบาสกำลังอยู่ในภาวะหยุดชะงัก ออสเตรเลียได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินโครงการดังกล่าวให้เสร็จสิ้น ทว่าข้อมูลที่ล้าสมัยเกี่ยวกับภูมิประเทศใต้ทะเลรอบหมู่เกาะที่ห่างไกลก็เป็นอุปสรรคต่อการขนส่งวัสดุสำหรับการพัฒนาตามแผน ลูกเรือจำเป็นต้องมีแผนที่ภูมิประเทศใต้ทะเลและข้อมูลเกี่ยวกับความลึกของมหาสมุทรเพื่อให้สามารถนำส่งเสบียงได้อย่างปลอดภัย น.อ. แดเนียล ไซมอน อดีตเจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติ ซึ่งประสานงานกับกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิก กล่าว “การสำรวจคาดว่าจะเสร็จสิ้นในอีกหนึ่งหรือสองปีข้างหน้า” น.อ. ไซมอนกล่าว

การเข้ามามีบทบาทของเรนเนียร์ ซึ่งเป็นเรือขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ไปประจำการยังภูมิภาคดังกล่าวเพื่อทำการถ่ายภาพและทำแผนที่พื้นทะเล ประเมินสุขภาพแนวปะการัง และรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับสัตว์ทะเล ตามคำขอของกระทรวงข้อมูลข่าวสาร การสื่อสาร และการขนส่งของคิริบาส เรนเนียร์ได้ดำเนินการสำรวจใต้ทะเลรอบเกาะคานตอน โดยใช้ระบบโซนาร์หลายลำแสงเพื่อสร้างแผนที่พื้นทะเลความละเอียดสูงและแสดงลักษณะต่าง ๆ ของพื้นทะเล นี่เป็นการสำรวจเกาะครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1950 (พ.ศ. 2493-2502) น.อ. ไซมอนกล่าว ผลการสำรวจที่ได้แบ่งปันกับคิริบาสจะช่วยปรับปรุงแผนที่เดินเรือและสนับสนุนการจัดการทรัพยากร ตามรายงานขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ

ความร่วมมือของหน่วยงานนี้ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่มีคุณค่าในขณะที่คิริบาสกำลังพัฒนาการทำแผนที่ใต้ทะเลและแผนที่เดินเรือรอบแนวปะการัง 33 แห่ง ซึ่งกระจายอยู่บนพื้นที่เกือบ 3.5 ล้านตารางกิโลเมตร ข้อมูลใต้ทะเลเช่นนี้ช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและการเดินเรือสำหรับประเทศเกาะที่พึ่งพามหาสมุทรในการขนส่งและการค้า สนับสนุนการควบคุมดูแลและปกป้องระบบนิเวศ รวมถึงส่งเสริมการเติบโตอย่างยั่งยืน

อุปสรรคหลักในการได้มาซึ่งภาพอย่างละเอียดของทะเลโดยรอบคือค่าใช้จ่ายและแรงงาน นายติออน อูเรียม ผู้ประสานงานระดับชาติด้านอุทกศาสตร์และการทำแผนที่ของคิริบาส กล่าวกับนิตยสารไฮโดร อินเตอร์เนชันแนลของเนเธอร์แลนด์ นอกจากนี้ นายอูเรียมยังเน้นถึงความจำเป็นในการเพิ่มการรับรู้เกี่ยวกับการสำรวจ เช่น การสำรวจที่ดำเนินการโดยเรือ เรนเนียร์ ซึ่งมีส่วนช่วยในการวางแผนเศรษฐกิจในระยะยาว “คำกล่าวที่ว่า ‘เราไม่สามารถจัดการสิ่งที่เราวัดไม่ได้’ มีความหมายสำคัญโดยเฉพาะในบริบทของคิริบาส” นายอูเรียมกล่าว องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ได้เน้นย้ำข้อความนี้โดยการจัดเวิร์กช็อปสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐของคิริบาส เกี่ยวกับการจัดการข้อมูลภายใต้กรอบการทำงานขององค์การสหประชาชาติ เพื่อรับรองว่าข้อมูลดังกล่าวจะสามารถเข้าถึงได้ทั่วโลก

ข้อมูลการทำแผนที่ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ช่วยให้นักวิทยาศาสตร์แสดงภาพภูเขาใต้น้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง เทคโนโลยีที่ล้ำหน้าทำให้ค้นพบว่าภูเขาใต้น้ำแห่งนี้สูงกว่าที่เคยประมาณการไว้ประมาณ 1,000 เมตร สำนักงานสำรวจและวิจัยมหาสมุทรแห่งองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ

การแบ่งปันข้อมูลกับการเก็บงำข้อมูล

มหาสมุทรครอบคลุมประมาณร้อยละ 70 ของพื้นผิวโลก มีอิทธิพลต่อสภาพอากาศและรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ สนับสนุนพันธุ์สัตว์ทะเลที่เป็นแหล่งอาหารสำหรับผู้คนนับพันล้าน และขนส่งสินค้าประมาณร้อยละ 90 ของสินค้าทั่วโลก นอกจากนี้ยังมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการค้าโลกด้วยมูลค่ากว่า 84 ล้านล้านบาท (ประมาณ 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี เนื่องจากทะเลทั่วโลกกำลังเผชิญกับภัยคุกคามจากมลพิษ การทำประมงเกินขนาด และภัยคุกคามอื่น ๆ ข้อมูลตามเวลาจริงจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำความเข้าใจสุขภาพของมหาสมุทร มองเห็นถึงสภาพที่กำลังเปลี่ยนแปลง และกำหนดมาตรการในการปกป้องทรัพยากรที่สำคัญเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหน่วยงานที่เก็บข้อมูลเกี่ยวกับมหาสมุทรอย่างต่อเนื่องจากแหล่งต่าง ๆ เช่น ดาวเทียม การสำรวจผิวน้ำและใต้ทะเล ทุ่น เซ็นเซอร์ไร้คนขับ และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ เทคโนโลยีกำลังก้าวหน้าอย่างรวดเร็วจนทำให้นักวิจัยสามารถรวบรวมข้อมูลได้มากกว่าทั้งหมดที่เคยรวบรวมได้ในช่วงศตวรรษที่ 20 ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี ตามรายงานของการวิจัยที่เผยแพร่ในวารสาร ฟรอนเทียร์ส อิน มารีน ไซเอนซ์

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลต้องสามารถเข้าถึงได้ ใช้งานร่วมกันได้ และนำกลับมาใช้ใหม่ได้ เพื่อให้สามารถบรรลุผลลัพธ์ตามที่ต้องการ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ซึ่งผลิตข้อมูลจำนวนมากในทุก ๆ วัน ได้อัปโหลดข้อมูลเหล่านั้นไปยังระบบคลาวด์ผ่านโครงการเผยแพร่ข้อมูลแบบเปิด ทำให้ข่าวกรองด้านสิ่งแวดล้อมสามารถเข้าถึงได้ง่ายสำหรับทุกคนที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต โครงการต่าง ๆ เช่น ศูนย์ข้อมูลสิ่งแวดล้อมแห่งชาติขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลในอดีตได้ น.อ. ไซมอนยกตัวอย่างเรนเนียร์เป็นกรณีศึกษา “เมื่อเรือลำดังกล่าวออกจากท่าเรือและเริ่มเปิดใช้งานเซ็นเซอร์ ข้อมูลจะส่งตรงไปยังระบบคลาวด์ และพร้อมให้ผู้คนสามารถเข้าถึงได้ทันที”

ฐานข้อมูลมหาสมุทรโลก ซึ่งเป็นโครงการขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ภายใต้การดูแลของคณะกรรมาธิการสมุทรศาสตร์ระหว่างรัฐบาล ถือเป็นฐานข้อมูลขนาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับฐานข้อมูลเกี่ยวกับมหาสมุทรที่ไม่มีข้อจำกัด เป็นรูปแบบเดียวกัน และมีการควบคุมคุณภาพ ซึ่งเป็นผลจากความพยายามกว่า 20 ปีในการบูรณาการงานวิจัย พร้อมกับการรวบรวมข้อมูลที่มีระยะเวลายาวนานถึง 250 ปี นอกจากนี้ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังเผยแพร่ข้อมูลการสังเกตการณ์จากดาวเทียมสำหรับการพยากรณ์ทางอุตุนิยมวิทยาและสิ่งแวดล้อมอย่างเต็มรูปแบบ ไม่เสียค่าใช้จ่าย และเปิดให้ประชาชนเข้าถึงได้ เนื่องจากไม่มีหน่วยงานใดสามารถติดตามสภาพอากาศ ภูมิอากาศ มหาสมุทร และชายฝั่งของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงลำพัง องค์กรดังกล่าวจึงสร้างความร่วมมือกับองค์กรต่าง ๆ เช่น องค์การยุโรปเพื่อการใช้ประโยชน์จากดาวเทียมอุตุนิยมวิทยาและสำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเพื่อการแลกเปลี่ยนและยืมดาวเทียม ข้อตกลงดังกล่าวช่วยรับรองการเข้าถึงข้อมูลสำหรับสหรัฐฯ พันธมิตรและหุ้นส่วน รวมถึงทุกภูมิภาคของโลกในกรณีที่เกิดความล้มเหลวทางเทคโนโลยี นอกจากนี้ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังส่งเสริมร่วมมือกับองค์กรวิจัยอวกาศของอินเดีย ศูนย์อวกาศแห่งชาติของเวียดนาม และหุ้นส่วนอื่น ๆ ทั่วโลก ตามรายงานของแผนกกิจการระหว่างประเทศและระหว่างหน่วยงานของบริการดาวเทียม

หลายประเทศทั่วโลกได้ดำเนินการวิจัยทางทะเล ซึ่งช่วยเสริมสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับมหาสมุทรในระดับโลก อย่างไรก็ตาม โครงการของสาธารณรัฐประชาชนพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งถือเป็นหนึ่งในโครงการที่ใหญ่ที่สุดในโลก กลับมีปัญหาที่เด่นชัดในด้านของการขาดความโปร่งใส เรือที่มักเป็นเจ้าของและดำเนินการโดยองค์กรที่เกี่ยวข้องกับรัฐและทหารของจีน จะมุ่งเน้นปฏิบัติการสำรวจในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกและทะเลจีนใต้ รัฐบาลจีนอ้างสิทธิ์เหนือพื้นที่ประมาณร้อยละ 90 ของทะเลจีนใต้ แม้ว่าใน พ.ศ. 2559 ศาลระหว่างประเทศได้ตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวเป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายก็ตาม การปกปิดข้อมูลของพรรคคอมมิวนิสต์จีนบดบังธาตุแท้ของการวิจัย นักวิเคราะห์จากสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้เขียนไว้ในรายงานเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 ชื่อ “การสำรวจท้องทะเล: ปฏิบัติการวิจัยสองแง่ของจีนในมหาสมุทรอินเดีย”

รายงานระบุว่า เรือสำรวจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีพฤติกรรมปลอมแปลงข้อมูลตำแหน่งหรือปิดระบบระบุตัวตนอัตโนมัติ ซึ่งเป็นระบบที่ใช้ส่งข้อมูลระบุตัวตนและตำแหน่งของเรือเพื่อความปลอดภัยทางทะเลเป็นระยะเวลานาน เรือของรัฐบาลจีนยังดำเนินการวิจัยอย่างผิดกฎหมาย เช่น การสำรวจน้ำมันและก๊าซภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศอื่น ๆ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประเทศเหล่านั้นมีสิทธิอธิปไตยและอำนาจตามกฎหมายเหนือทรัพยากรทางทะเล นอกจากนี้ จีพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังใช้เรือเหล่านี้เป็นเครื่องมือข่มขู่เพื่อสนับสนุนข้ออ้างกรรมสิทธิ์ทางทะเลที่ผิดกฎหมาย ตามรายงานของสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ นักวิจัยกล่าวหาว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนรวบรวมข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับประเทศอื่น ๆ แต่กลับไม่แบ่งปันข้อมูลดังกล่าวกับนักวิทยาศาสตร์ที่ร่วมมือกันทำวิจัย ตามรายงานของยูนิเวอร์ซิตีเวิลด์นิวส์ ซึ่งเป็นสื่อด้านการศึกษาระดับอุดมศึกษา

แม้พรรคคอมมิวนิสต์จีนจะมีประวัติ “กระหายการแสวงหาข้อมูล” จากหลากหลายสาขาการวิจัย แต่กลับไม่เต็มใจแบ่งปันข้อมูลดังกล่าว ดร. อีธาน อัลเลน ผู้เชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมและความมั่นคงด้านสภาพภูมิอากาศจากศูนย์เอเชียแปซิฟิก แดเนียล เค. อิโนะอุเอะ เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงในโฮโนลูลู รัฐฮาวาย กล่าวกับ ฟอรัม แม้ว่าความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ภูมิอากาศในช่วงที่ผ่านมาอาจเป็นสัญญาณที่ดี แต่ ดร. อัลเลนก็กล่าวว่า “โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับกระบวนการวิทยาศาสตร์ของสหรัฐฯ และชาติตะวันตกที่ค่อนข้างเปิดกว้างแล้ว ดูเหมือนว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนมองว่าข้อมูลเป็นทรัพยากรที่ต้องกักเก็บไว้มากกว่าที่จะกระจายสู่สาธารณะ”

หน้าจอคอมพิวเตอร์บนเรือ โอเคอานอส เอ็กซ์พลอเรอร์ ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ แสดงข้อมูลแผนที่ที่รวบรวมได้ระหว่างการสำรวจในมหาสมุทรแปซิฟิก ลีอา คิม/องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ

การทำแผนที่ในความลึกที่ไม่เคยสำรวจ

การทำแผนที่พื้นทะเลไม่เพียงแต่สร้างโอกาสทางเศรษฐกิจให้กับประเทศต่าง ๆ
และช่วยปรับปรุงการเดินเรือและความปลอดภัยสำหรับนักเดินเรือ แต่การทำความเข้าใจพื้นทะเลที่ดียิ่งขึ้นยังช่วยเสริมสร้างการปกป้องสิ่งแวดล้อม การบริหารจัดการทรัพยากร การเตรียมความพร้อมรับมือภัยพิบัติ และการบรรเทาผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศอีกด้วย

แผนที่รายละเอียดสูงสามารถระบุและให้ข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่อยู่อาศัยทางทะเล ที่สามารถรองรับสิ่งมีชีวิตใต้มหาสมุทรได้ เช่น ภูเขาใต้น้ำ ร่องลึกใต้สมุทร และหุบเขาใต้มหาสมุทร ซึ่งองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ได้ทำแผนที่ครอบคลุมพื้นที่หลายล้านตารางกิโลเมตร ความรู้เกี่ยวกับระดับความลึกของมหาสมุทรมีความสำคัญต่อการศึกษาภาวะความเป็นกรดของมหาสมุทร ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงทางเคมีที่เกิดจากคาร์บอนและส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล การมีแผนที่พื้นมหาสมุทรที่ถูกต้องและแม่นยำสามารถช่วยระบุพื้นที่ที่มีแนวโน้มเกิดแผ่นดินไหวโดยที่ความปั่นป่วนอาจก่อให้เกิดสึนามิได้ ซึ่งจะทำให้สามารถพัฒนาระบบเฝ้าระวังและระบบเตือนภัยล่วงหน้าได้ดียิ่งขึ้น ลักษณะขรุขระของพื้นมหาสมุทรส่งผลต่อกระแสน้ำในมหาสมุทร ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและเป็นปัจจัยสำคัญของแบบจำลองภูมิอากาศ งานวิจัยยังชี้ให้เห็นว่าการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรูปร่างและระดับความลึกของพื้นมหาสมุทรสามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่นักวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับความสามารถของมหาสมุทรในการดูดซับคาร์บอน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับความท้าทายทางสภาพภูมิอากาศ

มหาสมุทรของโลกมีความเชื่อมโยงอย่างใกล้ชิดกับแหล่งน้ำจืด ชั้นบรรยากาศ ธารน้ำแข็ง และองค์ประกอบอื่น ๆ ซึ่งทำให้การทำความเข้าใจเกี่ยวกับมหาสมุทรเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ดร. อัลเลนกล่าว “แต่เรายังมีความรู้อย่างจำกัดเกี่ยวกับสิ่งที่มีอยู่ในมหาสมุทรส่วนที่ลึกที่สุด” ดร. อัลเลนกล่าวเสริม “มีสิ่งมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมนี้เป็นพัน อาจถึงหมื่น หรืออาจถึงแสนสายพันธุ์โดยที่เราไม่รู้อะไรเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นเลย สิ่งมีชีวิตเหล่านั้นมีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งมีชีวิตอื่นในมหาสมุทรอย่างไร เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อาหารอย่างไร และบทบาทของสิ่งมีชีวิตเหล่านี้คืออะไร เรายังมีความเข้าใจในเรื่องนี้น้อยมาก”

ปัจจุบันมีแผนที่เพียงประมาณร้อยละ 26 ของพื้นมหาสมุทร ตามข้อมูลจากซีเบด พ.ศ. 2573 ซึ่งเป็นองค์กรนานาชาติที่มีเป้าหมายในการจัดทำแผนที่มหาสมุทรของโลกให้ครบถ้วนภายในสิ้นทศวรรษนี้ และเปิดให้ทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลได้ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนหลายสิบรายที่สนับสนุนซีเบด พ.ศ. 2573 องค์การแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2560 โดยมูลนิธินิปปอนของญี่ปุ่นและโครงการแผนที่ความลึกน้ำทั่วไปของมหาสมุทร ซึ่งมีอายุเก่าแก่กว่า 120 ปี โดยองค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ มีบทบาทในการทำแผนที่น่านน้ำทั้งหมดของสหรัฐฯ และสนับสนุนการรวบรวมข้อมูลเพื่อบรรจุลงในแผนที่ความลึกน้ำทั่วไปของมหาสมุทรที่เปิดให้เข้าถึงได้โดยเสรี

นักดำน้ำขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ กำลังเก็บกู้เครื่องมือประมงที่ถูกทิ้งร้างออกจากจากแนวปะการังที่เกาะปะการังมิดเวย์ องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ

“ความจำเป็นในการร่วมมือ”

องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังมีบทบาทในการต่อสู้กับการทำประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจโลกหลายหมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี คุกคามความมั่นคงทางอาหาร และส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเล สำนักงานบังคับใช้กฎหมายขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ดำเนินงานเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในระดับนานาชาติเพื่อการต่อต้านการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม โดยให้การสนับสนุนด้านนโยบายและกรอบการทำงาน รวมถึงฝึกอบรมประเทศหุ้นส่วน เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย เกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การเก็บรวบรวมข้อมูล และมาตรการจำกัดการเข้าเทียบท่าของเรือที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมผิดกฎหมาย

งานวิจัยด้านภูมิอากาศต้องอาศัยข้อมูลการสังเกตการณ์ขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ เช่น ระดับน้ำทะเล อุณหภูมิของมหาสมุทร ภาวะความเป็นกรดของมหาสมุทร และการปล่อยคาร์บอน ซึ่งได้รับการนำมาใช้เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการพยากรณ์ผลกระทบของโลกที่กำลังร้อนขึ้น ขณะเดียวกัน องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังส่งเสริมพื้นที่คุ้มครองทางทะเล ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการฟื้นตัวของระบบนิเวศต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยทำหน้าที่กักเก็บคาร์บอนและรักษาความหลากหลายทางชีวภาพผ่านการอนุรักษ์ทรัพยากร เช่น แนวปะการังและแหล่งประมง องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ กำลังเป็นผู้นำในการผลักดันให้มีการจัดตั้งเขตอนุรักษ์ทางทะเลแห่งชาติเพื่อขยายความคุ้มครองให้กับอนุสรณ์สถานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะแปซิฟิกห่างไกล ซึ่งตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัฐฮาวายในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนกลาง “เกาะปะการัง สันดอน ตลิ่ง แนวปะการัง ภูเขาใต้ทะเล และน่านน้ำเปิดโดยรอบหมู่เกาะแปซิฟิกที่อยู่ห่างไกลเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตทางทะเลในเขตร้อนที่มีความหลากหลายและโดดเด่นที่สุดในโลก แต่สถานที่เหล่านี้กำลังเผชิญกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ชนิดพันธุ์ต่างถิ่นรุกราน และขยะในมหาสมุทร” องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ระบุ “แหล่งที่อยู่อาศัยที่หลากหลายและแนวปะการังที่สมบูรณ์ของภูมิภาคนี้เป็นที่หลบภัยของปลา สัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง นกทะเล เต่าทะเล และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเลหลายชนิด ซึ่งมีหลายชนิดที่ไม่สามารถพบได้ในที่อื่น ๆ ของโลก

นักวิจัยขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ยังให้ความร่วมมือในระดับนานาชาติด้านการสร้างแบบจำลองและพยากรณ์อากาศ เช่น การทำงานร่วมกับระบบสังเกตการณ์มหาสมุทรแบบบูรณาการในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตก โครงการติดตาม กำจัด และลดผลกระทบของขยะในมหาสมุทร ตั้งแต่ขยะพลาสติกไปจนถึงเครื่องมือประมง ซึ่งเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนจากทั่วโลก ข้อมูลเกี่ยวกับแนวปะการังสนับสนุนความพยายามด้านการอนุรักษ์ในระดับนานาชาติ ขณะที่องค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ทำงานร่วมกับประเทศต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเครื่องมือและแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการปกป้องระบบนิเวศ ข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมจำนวนมากขององค์การบริหารมหาสมุทรและชั้นบรรยากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ได้มาจากการเก็บรวบรวมภายในน่านน้ำของสหรัฐฯ เนื่องจากเป็นขอบเขตอำนาจและจุดมุ่งเน้นเน้นขององค์กร “แต่เรื่องมลพิษ ปลา และพายุล่ะ? สิ่งเหล่านี้ไม่มีพรมแดนทางภูมิรัฐศาสตร์” น.อ. ไซมอนกล่าว “เรามีข้อมูลมากมาย มีผลิตภัณฑ์มากมาย และมีบริการมากมายที่ครอบคลุมเกินกว่าขอบเขตของเขตเศรษฐกิจพิเศษของเรา”

สำหรับ ดร. อัลเลน ศาสตราจารย์จากศูนย์เอเชียแปซิฟิก แดเนียล เค.
อิโนะอุเอะ เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคง การพึ่งพาซึ่งกันและกันเช่นนี้สะท้อนให้เห็นถึงประเด็นสำคัญเกี่ยวกับความร่วมมือทางวิทยาศาสตร์ “เราอาศัยอยู่บนโลกที่มีขนาดเล็กมาก” ดร. อัลเลนกล่าว “เราทุกคนหายใจโดยใช้อากาศร่วมกัน เราทุกคนดื่มน้ำจากแหล่งเดียวกัน เราควรเริ่มร่วมมือกันเพื่อทำให้อากาศของเราสะอาดขึ้นและน้ำของเราสามารถดื่มได้ การร่วมมือในระดับที่ใหญ่ขึ้น ลึกซึ้งขึ้น และเป็นสากลมากขึ้นกว่าที่เคยมีมานั้น กลายเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button