ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

รายงานระบุว่าปัจจัยด้านประชากรและปรัชญาอาจขัดขวางเป้าหมายการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัยของนายสี

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การเปลี่ยนแปลงทางประชากรในจีนรวมถึงการลดลงของประชากรวัยหนุ่มสาว อาจเป็นอุปสรรคต่อความสามารถของสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในการสร้างและพัฒนากองทัพสมัยใหม่ตามที่เขาวาดหวังไว้ ตามข้อมูลจากรายงานฉบับใหม่

อัตราการเกิดที่ลดลงของจีน ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 1960 (พ.ศ. 2503-2512) ได้นำพาจีนไปสู่สังคมผู้สูงอายุมากขึ้น งานวิจัยหลายฉบับเปิดเผยว่า แม้ว่าจีนจะยกเลิกนโยบายลูกคนเดียวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแล้ว แต่อัตราการเกิดก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง และประชากรวัยหนุ่มสาวซึ่งเคยเป็นสัดส่วนสำคัญของประชากรทั้งหมดก็กำลังลดลงอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงด้านประชากรนี้ก่อให้เกิดความท้าทายต่อความสามารถในการสรรหาและรักษากำลังพลของกองทัพปลดปล่อยประชาชน ตามรายงานของแรนด์ คอร์ปอเรชัน เรื่อง “ปัจจัยที่กำหนดอนาคตของกองทัพจีน”

การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งขยายตัวอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในช่วง 40 ปีที่ผ่านมา กำลังชะลอตัวลงเนื่องจากแรงกดดันภายในประเทศ เช่น ปัญหาในภาคธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงการที่ชนชั้นนำของจีนเคลื่อนย้ายสินทรัพย์ออกนอกประเทศ ความท้าทายเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อความสามารถของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในการบรรลุเป้าหมายการปรับปรุงกองทัพให้ทันสมัย ตามที่นายมาร์ก โคซาด นักวิจัยอาวุโสด้านกลาโหมระหว่างประเทศ และนางเจนนี เวนเกอร์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส เขียนไว้ในรายงานเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2568

นายโคซาดและนางเวนเกอร์เขียนระบุว่า “สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนมีแนวโน้มที่จะจำกัดความสามารถของกองทัพปลดปล่อยประชาชนในการดึงดูดบุคลากรที่ ‘เหมาะสม’ เข้ามาเป็นกำลังพล ซึ่งอาจทำให้กองทัพต้องทบทวนเป้าหมายและสมมติฐานเกี่ยวกับการปรับปรุงให้ทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งว่ากองทัพจะสามารถนำรูปแบบปฏิบัติการแบบตะวันตกหรือกึ่งตะวันตกมาใช้ได้หรือไม่”

ความพยายามในการปรับปรุงกองทัพของกองทัพปลดปล่อยประชาชนเริ่มต้นในทศวรรษ 1980 (พ.ศ. 2523-2532) โดยได้มุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและการปฏิรูปสถาบัน รายงานของบริษัทแรนด์คอปอเรชันระบุว่ารูปแบบปฏิบัติการในอนาคตของกองทัพต้องการกำลังพลที่มีการศึกษาสูง มีศักยภาพสูง และมีทักษะทางเทคนิค อย่างไรก็ตาม กองทัพปลดปล่อยประชาชน “ประสบปัญหาในการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถระดับสูง โดยเฉพาะจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของจีน”

ปัญหาต่างๆ เช่น โรคอ้วน ปัญหาสายตา สมรรถภาพทางกายที่อ่อนแอ และภาวะซึมเศร้า ได้ลดสัดส่วนของเยาวชนที่ผ่านเกณฑ์สุขภาพและสมรรถภาพทางกายของกองทัพปลดปล่อยประชาชน กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้พยายามบรรเทาความท้าทายเหล่านี้โดยการออกมาตรการจูงใจให้การรับราชการทหารเป็นทางเลือกที่น่าสนใจขึ้น เช่น การเพิ่มค่าตอบแทน การชำระคืนเงินกู้เพื่อการศึกษา และการปรับปรุงมาตรฐานความเป็นอยู่

ผู้จัดทำรายงานพบว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนยังได้เปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ทหารชั้นประทวนที่เคยปลดประจำการสามารถกลับเข้าประจำการได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีข้อบ่งชี้ถึงปัญหาใหญ่ด้านการสรรหากำลังพล เช่น การทุจริต การบังคับเกณฑ์ทหาร การหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร และการปฏิเสธเข้ารับราชการ

รายงานระบุว่า “กองกำลังระดับแนวหน้าที่กองทัพปลดปล่อยประชาชนวาดหวังไว้อาจไม่สามารถเป็นจริงได้ เนื่องจากปัญหาด้านการดึงดูดบุคลากร ซึ่งดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่กองทัพไม่สามารถแก้ไขได้แม้จะพยายามมาอย่างต่อเนื่องก็ตาม”

พรรคคอมมิวนิสต์จีนยอมรับว่าระบบการเกณฑ์ทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชนไม่ได้สอดคล้องกับเป้าหมายการปรับปรุงสถาบันให้ทันสมัย ตามข้อมูลรายงานข่าว อย่างไรก็ตาม พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงมองว่าการเกณฑ์ทหารเป็นสายสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างประชาชนกับพรรค

นักวิเคราะห์ระบุว่ากองทัพปลดปล่อยประชาชนพยายามนำรูปแบบทางทหารที่คล้ายกับของสหรัฐอเมริกาและประเทศตะวันตกอื่น ๆ มาใช้ อย่างไรก็ตาม รูปแบบเหล่านี้ได้รับการออกแบบให้เหมาะสมกับลักษณะทางวัฒนธรรม การเมือง และสังคมของประเทศเหล่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศประชาธิปไตย มีลักษณะเน้นความเป็นปัจเจกบุคคล และมีโครงสร้างที่มีลำดับชั้นน้อยกว่าระบอบอำนาจนิยมของพรรคคอมมิวนิสต์จีน

“กองทัพปลดปล่อยประชาชนอาจต้องเผชิญกับความเป็นจริงเกี่ยวกับประเภทของกองทัพที่ตนสามารถสร้างขึ้นได้ ภายใต้โครงสร้างที่ใช้กำลังพลเกณฑ์เป็นหลัก” โคซาดและเวนเกอร์เขียนไว้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button