การลาดตระเวนและการรุกรานของจีนไม่สามารถข่มขู่ประเทศผู้อ้างสิทธิ์ในทะเลจีนใต้ได้

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ประเทศต่าง ๆ ในทะเลจีนใต้ยังคงไม่ยอมจำนนต่อความพยายามอย่างต่อเนื่องของจีน ในการบ่อนทำลายการอ้างสิทธิ์อาณาเขตทางทะเลที่ชอบด้วยกฎหมายของตน แม้ว่าพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะใช้ทั้งการข่มขู่และการเคลื่อนไหวเชิงรุก แต่กิจกรรมการประมง การลาดตระเวนเพื่อความมั่นคง และการสำรวจพลังงานนอกชายฝั่งยังคงดำเนินต่อไปใน พ.ศ. 2567
ข้อสรุปดังกล่าวมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลติดตามเรือที่ใช้ระบบกำหนดตำแหน่งบนพื้นโลกเพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวของเรือทั่วโลก ศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และกิจการระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในสหรัฐอเมริกา ได้ตรวจสอบข้อมูลจากระบบระบุตำแหน่งอัตโนมัติ ที่รวบรวมจาก 6 จุดพิพาทในทะเลจีนใต้ ภายใต้โครงการเพื่อความโปร่งใสทางทะเลในเอเชีย
วิดีโอจาก: กองกำลังเฉพาะกิจทะเลฟิลิปปินส์ตะวันตก/ไวรัลเพรส/รอยเตอร์
จีนอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้โดยไม่มีพื้นฐานทางกฎหมาย และเพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ที่ระบุว่าการอ้างสิทธิ์ของรัฐบาลจีนไม่มีผลทางกฎหมาย นอกจากนี้ จีนยังมีข้อพิพาทด้านอาณาเขตทางทะเลทับซ้อนกับบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม ทั้งนี้ การลาดตระเวนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจำนวนมากเกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศอื่น
การศึกษานี้ได้ตรวจสอบจำนวนวันที่เรือของพรรคคอมมิวนิสต์จีนออกลาดตระเวนบริเวณสันดอนลูโคเนีย ซาบินา สการ์โบโรห์ และสันดอนโทมัสที่สอง เกาะธิตู ตลอดจนพื้นที่ทางใต้ของสันดอนแวนการ์ด
ผลการศึกษาพบว่าใน พ.ศ. 2567 จำนวนวันลาดตระเวนของพรรคคอมมิวนิสต์มีถึง 1,939 วัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 1,652 วันในปีก่อนหน้า โดยการลาดตระเวนเพิ่มขึ้นใน 5 จาก 6 พื้นที่ ยกเว้นบริเวณสันดอนโทมัสที่สอง เนื่องจากผู้นำฟิลิปปินส์และจีนตกลงลดความตึงเครียดในบริเวณดังกล่าวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 ภายหลังจากเดือนมิถุนายนที่เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้สกัดกั้นเรือของฟิลิปปินส์ที่กำลังปฏิบัติภารกิจส่งเสบียงให้ทหารเรือที่ประจำการอยู่ที่สันดอนดังกล่าว ซึ่งตั้งอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนซึ่งมีอาวุธทั้งมีดและขวาน ยังได้ทำร้ายทหารเรือฟิลิปปินส์และสร้างความเสียหายให้กับเรือยางของฟิลิปปินส์
ต่อมากิจกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในบริเวณสันดอนซาบินา ซึ่งอยู่ในหมู่เกาะสแปรตลีย์ทางตะวันตกของเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ ได้เพิ่มขึ้นเช่นกัน เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้พุ่งชนและใช้ปืนฉีดน้ำยิงใส่เรือของฟิลิปปินส์ที่บริเวณสันดอนดังกล่าวในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ตามรายงานของซีเอ็นเอ็น
พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ใช้ฐานทัพบนเกาะเทียมและกองเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งของตนเป็นฐานปฏิบัติการลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ โดยปฏิบัติการดังกล่าวเริ่มเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงกลาง พ.ศ. 2566 และพุ่งสูงขึ้นใน พ.ศ. 2567 ตามรายงานของสถาบันควินซีเพื่อการดำเนินนโยบายรัฐอย่างมีความรับผิดชอบ ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ซึ่งเป็นสถาบันที่ตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
การละเมิดและการคุกคามของจีนยังคงดำเนินต่อไป เฮลิคอปเตอร์ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้บินเข้าใกล้เครื่องบินของสำนักงานประมงฟิลิปปินส์ในระยะเพียง 3 เมตรเหนือสันดอนสการ์โบโรห์ในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เหตุการณ์นี้ทำให้นักบินชาวฟิลิปปินส์ต้องเตือนว่า “คุณบินเข้ามาใกล้เกินไป คุณอยู่ในระยะอันตรายมาก” ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันหลังจากเครื่องบินขับไล่ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนยิงพลุสัญญาณต่อหน้าเครื่องบินของกองทัพอากาศออสเตรเลียในเขตน่านฟ้าสากลเหนือทะเลจีนใต้ ตามรายงานของบริษัทออสเตรเลียน บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชัน กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียระบุว่าเหตุการณ์นี้ “ไม่ปลอดภัยและไม่มีความเป็นมืออาชีพ” และได้ยื่นประท้วงไปยังรัฐบาลจีน
ขณะเดียวกัน เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนยังคงปรากฏตัวภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2568 ตามรายงานของเว็บไซต์ข่าว Philstar.com ในเดือนกุมภาพันธ์
การกระทำที่ก้าวร้าวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและการอ้างสิทธิ์เหนือดินแดนอย่างกว้างขวางสร้างความกังวลให้กับประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงนานาชาติที่ตระหนักถึงความสำคัญของทะเลจีนใต้ เส้นทางนี้มีมูลค่าการค้าทางทะเลมากกว่า 107 ล้านล้านบาท (ประมาณ 3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี การควบคุมช่องแคบและจุดยุทธศาสตร์ในทะเลจีนใต้จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความมั่นคงของภูมิภาค
“จีนอ้างว่าเรากำลังละเมิดดินแดนของพวกเขา” นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวกับดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส หลังจากที่รัฐบาลจีนออกมาประท้วงการสำรวจน้ำมันและก๊าซของมาเลเซียในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 “แต่นั่นไม่ใช่เรื่องจริง เราขอยืนยันว่า ที่นี่คืออาณาเขตของเรา”