อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

เจ้าหน้าที่กล่าวว่าสายลับจีนทำการสอดแนมกองบัญชาการทางทหารของฟิลิปปินส์

เอเจนซ์ ฟรานซ์-เพรส

นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวว่าตนรู้สึก “กังวลมาก” และเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มความระมัดระวังต่อไปหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาชาวจีน 6 คนในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568 ว่ามีการสอดส่องฐานทัพทหารและปฏิบัติการทางทหารของฟิลิปปินส์

พล.อ. โรมิโอ บราวเนอร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าวว่าเป็นการเร็วเกินไปที่จะสรุปว่าการสอดแนมนี้ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถระบุตัวผู้รับข้อมูลข่าวกรองได้ “นี่อาจจะเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีอีกหลายคนที่อาจจะถูกจับได้ขณะทำกิจกรรมเหล่านี้” พล.อ. บราวเนอร์ กล่าว “ยังมีอีกหลายคน”

“เรารู้สึกกังวลมากกับการที่มีใครก็ตามทำการสอดแนมเช่นนี้ในกองทัพของเรา” นายมาร์กอส กล่าว

การจับกุมเกิดขึ้นท่ามกลางการเผชิญหน้าที่เพิ่มขึ้นระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนและฟิลิปปินส์ในเรื่องของแนวปะการังและน่านน้ำในทะเลจีนใต้ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ รวมถึงในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลฟิลิปปินส์ จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลดังกล่าวว่าเป็นดินแดนของตน แม้จะมีคำตัดสินจากศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ที่ไม่ยอมรับการอ้างสิทธิ์โดยพลการ

ผู้ต้องสงสัยสองคนถูกจับกุมที่กรุงมะนิลาในช่วงปลายเดือนมกราคม หลังจากที่เจ้าหน้าที่กล่าวว่าพวกเขากำลังสอดส่องเรือของกองทัพเรือฟิลิปปินส์และเรือของรัฐบาลอื่น ๆ ที่จัดส่งเสบียงไปยังกองทหารรักษาการณ์ในหมู่เกาะสแปรตลี พวกเขาบันทึกกิจกรรมต่าง ๆ ที่ฐานทัพเรือ สถานีกองกำลังรักษาชายฝั่ง ฐานทัพอากาศ และอู่ต่อเรือในจังหวัดปาลาวัน ซึ่งเป็นแผ่นดินสำคัญที่อยู่ใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีที่สุดโดยใช้โดรนและกล้องพลังงานแสงอาทิตย์ความละเอียดสูง นายเจมี่ ซานติอาโก ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าว

ผู้ต้องสงสัยมีภาพของเรือขนาดเล็กของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ เรือลาดตระเวน บีอาร์พี เรมอน อัลคาเรซ ของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ และเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ ตามรายงานของยูเอสเอ็นไอนิวส์ สื่อตีพิมพ์ของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

ผู้ต้องสงสัยกล่าวว่าพวกเขาเป็นผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ทางทะเลหรือเป็นสมาชิกขององค์กรที่ถูกต้องตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่กล่าว “เราพิจารณาว่าพวกเขาเป็นภัยคุกคามที่อันตรายต่อความมั่นคงของประเทศชาติ เพราะแน่นอนว่าหากคนอื่นได้รับข้อมูลนี้ไป อาจจะเป็นภัยร้ายแรงต่อเจ้าหน้าที่ในฐานทัพและต่อเจ้าหน้าที่ที่อยู่บนเรือของเรา” พล.อ. บราวเนอร์ กล่าว

ผู้ต้องสงสัยอีกสองคนถูกจับกุมอีกที่หนึ่งในกรุงมะนิลาและอีกหนึ่งคนในเมืองดูมาเกเตในช่วงกลางเดือนมกราคม นายซานติอาโก กล่าว การจับกุมนี้เกิดขึ้นหลังจากการจับกุมนายเติ้ง หยวนชิง วิศวกรซอฟต์แวร์ชาวจีน และผู้ร่วมงานชาวฟิลิปปินส์สองคนที่ต้องสงสัยว่าเป็นสายลับในค่ายทหารและตำรวจ ซึ่งสถานทูตจีนในกรุงมะนิลาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว

นายเติ้งถูกตั้งข้อหาว่าได้ทำแผนที่และสำรวจโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญและพื้นที่ยุทธศาสตร์ เช่น กองบัญชาการทางทหาร ท่าเรือ ห้างสรรพสินค้า ระบบการสื่อสารและพลังงาน ท่าเรือส่งสินค้า และสนามบิน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะฟิลิปปินส์สตาร์

นายเจเรมี โลต็อก หัวหน้าหน่วยอาชญากรรมทางไซเบอร์ของสำนักงานสอบสวนแห่งชาติ กล่าวว่าพยานรายหนึ่งให้การกับเจ้าหน้าที่ว่านายเติ้งนัดพบกับผู้ต้องสงสัยที่ถูกควบคุมตัวอีกห้าคนเป็นประจำทุกเดือน โดยดำเนินการตามคำสั่งของ “ชาวต่างชาติ” นิรนามจากจีน

อุปกรณ์ที่ยึดมาจากผู้ต้องสงสัยมีทั้งวิดีโอจากโดรนและกล้องวิดีโอที่มีความละเอียดสูงในระดับทหารที่ดัดแปลงมาให้เหมือนกับกล้องวงจรปิดของพลเรือน เจ้าหน้าที่กล่าว “นี่อาจจะเป็นสาเหตุที่ก่อนหน้านี้เรือต่าง ๆ มักจะรู้ตัวเมื่อเราส่งเรือกองกำลังรักษาชายฝั่งและเรือสนับสนุนทางทหารออกไป” พล.อ. บราวเนอร์ กล่าว

ผู้ต้องสงสัยบางคนได้อาศัยอยู่ในฟิลิปปินส์ตั้งแต่ พ.ศ. 2545 และไม่มีประวัติอาชญากรรม นางดานา ซานโดวาล โฆษกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง กล่าว

นายเอดูอาร์โด อาโญ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าวว่าการจับกุมเหล่านี้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการ “เพิ่มความระมัดระวังอย่างต่อเนื่องและใช้มาตรการต่อต้านข่าวกรองเชิงรุก”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button