รัฐบาลฟิลิปปินส์เดินหน้าสร้างความร่วมมือพหุภาคีด้านความมั่นคงระดับภูมิภาคและระดับโลก

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ฟิลิปปินส์เร่งขยายความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างประเทศท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในทะเลจีนใต้ สาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยอย่างผิดกฎหมายในพื้นที่ส่วนใหญ่ของเส้นทางน้ำที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลจีนได้แสดงท่าทีที่ก้าวร้าวมากขึ้นภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลฟิลิปปินส์ รวมทั้งในอาณาเขตทางทะเลของประเทศอื่น ๆ แม้ว่าคำตัดสินที่มีอายุเกือบสิบปีของศาลระหว่างประเทศจะตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ของจีนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นโมฆะ ยุทธวิธีของจีนรวมถึงการพุ่งชนเรือและการใช้ปืนฉีดน้ำ เลเซอร์ อาวุธเสียงรบกวน พลุไฟ และการใช้ความรุนแรงเพื่อขัดขวางการลาดตระเวนทางทหาร การทำประมง การสำรวจน้ำมันและก๊าซ และการวิจัยด้านสิ่งแวดล้อมในน่านน้ำและน่านฟ้าของฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนามได้รายงานการบุกรุกและการคุกคามที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งรวมถึงในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้
วิดีโอจาก: กองทัพฟิลิปปินส์
ในฟิลิปปินส์ ทะเลถือเป็นเส้นทางสำคัญของ “การยังชีพ ความมั่นคง และอัตลักษณ์แห่งชาติ” นายออร์แลนโด อ็อกซาเลส จากสถาบันสแตรตเบส อัลเบิร์ต เดล โรซาริโอเพื่อการศึกษานโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์ ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในกรุงมะนิลา เขียนให้กับหนังสือพิมพ์มะนิลาสแตนดาร์ด
“ประเทศของเรา ซึ่งมีเกาะนับพันที่กระจายอยู่ตามเส้นทางการค้ายุทธศาสตร์และอุดมไปด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทางทะเล มีทั้งโอกาสและความเสี่ยง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะสามารถนำทางผ่านเส้นทางน้ำที่ซับซ้อนและวุ่นวายของภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศได้ดีเพียงใด” นายอ็อกซาเลสเขียนระบุ “ข่าวดีก็คือ เราไม่จำเป็นต้องทำสิ่งนี้เพียงลำพัง”
การเจรจาด้านกลาโหมครั้งล่าสุดกับนิวซีแลนด์เน้นย้ำถึงการเคลื่อนไหวของฟิลิปปินส์ในการขยายความร่วมมือ โดยคาดว่าจะสร้างข้อตกลงภายในช่วงปลาย พ.ศ. 2568 เพื่อจัดให้มีการฝึกซ้อมด้านความมั่นคงทวิภาคีในแต่ละประเทศ
“ตอนนี้เรากำลังอยู่ในช่วงของการสร้างพันธมิตรและกระชับพันธไมตรี” นายกิลแบร์โต เตโอโดโร จูเนียร์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าวเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 “ดังนั้น ข้อตกลงสถานะของกองกำลังเยือนจึงเป็นส่วนสำคัญของโครงการริเริ่มทั้งในสองประเทศและหลายประเทศ เพื่อต่อต้านการให้ข้อมูลแต่เพียงฝ่ายเดียวของจีนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายระหว่างประเทศ”
ข้อตกลงเหล่านี้ยังช่วยเสริมสร้างการบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติและมาตรการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ซึ่งประเทศหมู่เกาะแห่งนี้ต้องการ “ความช่วยเหลือด้านการเคลื่อนย้ายให้มากที่สุด” ในช่วงวิกฤต นายเตโอโดโรกล่าวเสริม

ภาพจาก: จ.อ. โมนิกา วอล์คเกอร์/กองทัพเรือสหรัฐฯ
ผู้นำญี่ปุ่นและฟิลิปปินส์ได้ลงนามในข้อตกลงการเข้าถึงแบบทวิภาคีในช่วงกลาง พ.ศ. 2567 ที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการฝึกซ้อมกองกำลังป้องกันร่วมในแต่ละประเทศ คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติของรัฐบาลฟิลิปปินส์เรียกข้อตกลงนี้ว่า “การแสดงเจตนารมณ์ที่ชัดเจนในการปกป้องผลประโยชน์แห่งชาติของเรา พร้อมทั้งส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างสองประเทศที่ยืนหยัดเพื่อความมั่นคงและสันติภาพในภูมิภาค”
ฟิลิปปินส์ยังมีข้อตกลงกองกำลังเยือนกับออสเตรเลียและพันธมิตรตามสนธิสัญญาที่ยาวนานอย่างสหรัฐอเมริกา และกำลังดำเนินการหารือข้อตกลงที่คล้ายคลึงกับประเทศอื่น ๆ รวมถึงแคนาดาและฝรั่งเศส
“เราจำเป็นต้องร่วมมือกัน” นายเตโอโดโรกล่าว ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะฟิลิปปินส์สตาร์ “กองทัพฟิลิปปินส์ต้องฝึกซ้อมร่วมกับกองทัพอื่น ๆ เพราะมุมมองด้านความขัดแย้งกำลังเปลี่ยนไป”
ในขณะเดียวกัน กองทัพเรือและกองทัพอากาศของรัฐบาลฟิลิปปินส์ก็ได้ร่วมกับออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ในการจัดกิจกรรมความร่วมมือทางทะเลพหุภาคีครั้งที่ 6 ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 การปฏิบัติการนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นร่วมกันในการรักษาอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง และ “การรักษาสิทธิเสรีภาพในการเดินเรือและการบิน การใช้ทะเลและน่านฟ้าสากลอย่างถูกกฎหมาย” พล.อ. โรมิโอ บราวเนอร์ จูเนียร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ กล่าว