ทรัพยากรส่วนรวมของโลกโอเชียเนีย

ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ยังคงเสริมขีดความสามารถด้านมนุษยธรรมและการตอบสนองต่อภัยพิบัติเมื่อก้าวสู่ทศวรรษที่ห้า

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เรือพยาบาล ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ซึ่งได้รับการขนานนามว่า “มหัศจรรย์ทางการแพทย์เหนือน้ำ” กำลังจะครบรอบ 40 ปีใน พ.ศ. 2568 นี้ และจะครบรอบ 40 ปีนับตั้งแต่เข้าประจำการในกองทัพเรือสหรัฐอเมริกาใน พ.ศ. 2569

เรือลำนี้เป็นกำลังสำคัญในการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรมและการตอบสนองต่อภัยพิบัติของกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นอินโดแปซิฟิก ซึ่งแต่เดิมไม่ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อเป็นเรือพยาบาล บริษัทเนชันแนล สตีล แอนด์ ชิปบิลดิง จำกัด ในนครซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สร้างเรือลำนี้ขึ้นใน พ.ศ. 2519 เพื่อใช้เป็นเรือบรรทุกน้ำมัน เอสเอส เวิร์ท ต่อมาบริษัทดัดแปลงเรือเป็นเรือพยาบาลและเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2528 จากนั้นเรือลำนี้ได้เข้าประจำการภายใต้ชื่อ ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2529

ในระหว่างความร่วมมือแปซิฟิก พ.ศ. 2567-1 ซึ่งเป็นภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ศัลยแพทย์จากกองทัพเรือสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตรได้ดำเนินการผ่าตัด 74 ครั้งร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศเจ้าภาพบนเรือพยาบาล ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี และที่โรงพยาบาลในหมู่เกาะมาร์แชลล์ ไมโครนีเซีย ปาเลา และหมู่เกาะโซโลมอน
วิดีโอจาก: จ.อ. เจค็อบ วอยต์เซล/กองทัพเรือสหรัฐฯ/ดีเฟนซ์เฮลธ์เอเจนซี

เรือลำนี้เริ่มภารกิจฝึกอบรมและภารกิจด้านมนุษยธรรมครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2530 โดยออกปฏิบัติการในฟิลิปปินส์และพื้นที่อื่นในอินโดแปซิฟิก ทีมแพทย์จากกองทัพฟิลิปปินส์ ทหารอากาศ ทหารเรือ ทหารบกของสหรัฐฯ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยบริการสาธารณสุขของสหรัฐฯ ได้ให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยนับพันราย รวมถึงผู้ป่วยใน 1,000 ราย ตลอดระยะเวลาการออกไปปฏิบัติภารกิจระยะเวลา 5 เดือนที่เรือเมอร์ซีเทียบท่าที่ท่าเรือ 7 แห่ง ถือเป็นภารกิจแรกซึ่งในภายหลังได้กลายเป็นภารกิจด้านมนุษยธรรมที่ดำเนินการร่วมกับพันธมิตรและหุ้นส่วนในอินโด-แปซิฟิกอย่างต่อเนื่อง

มีการดำเนินภารกิจช่วยเหลือด้านภัยพิบัติเป็นครั้งแรกหลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและสึนามิในมหาสมุทรอินเดีย นอกชายฝั่งเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2547 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตประมาณ 230,000 คนและทำลายชุมชนเป็นวงกว้าง มีการส่งเรือเมอร์ซีเข้าร่วมปฏิบัติการความช่วยเหลือแบบรวมเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งให้การรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยมากกว่า 107,000 ราย

ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด ความร่วมมือแปซิฟิก ซึ่งเป็นโครงการนำโดยกองทัพเรือสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2549 นี่ถือเป็นภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติแบบพหุภาคีที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยมุ่งเน้นความร่วมมือกับประเทศเจ้าภาพและหุ้นส่วนเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันและการรับมือภัยพิบัติ รวมถึงเพิ่มเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ถือเป็นศูนย์กลางของภารกิจดังกล่าว

น.ต. ชาร์ล็อตต์ ฮิวจ์ส แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ พูดคุยกับผู้ป่วยเด็กบนเรือพยาบาล ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ระหว่างปฏิบัติภารกิจความร่วมมือแปซิฟิกในไมโครนีเซีย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567
ภาพจาก: จ.อ. เซเรีย มาร์ติน/กองทัพเรือสหรัฐฯ

เรือลำนี้มีเตียงรองรับผู้ป่วย 1,000 เตียง ห้องผ่าตัด 12 ห้อง เตียงผู้ป่วยวิกฤต 80 เตียง ห้องเอกซเรย์ คลินิกทันตกรรม ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ ร้านขายยา ศูนย์ตรวจวัดสายตา อุปกรณ์ถ่ายภาพทางการแพทย์ขั้นสูง และธนาคารเลือดที่สามารถเก็บพลาสมาได้สูงสุด 5,000 ถุง รวมถึงสามารถรองรับบุคลากรได้มากถึง 1,300 คน

ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี คือ “มหัศจรรย์ทางการแพทย์เหนือน้ำซึ่งกลายเป็นที่พึ่งพิงแห่งความหวังสำหรับชาวปาเลาจำนวนมาก” หนังสือพิมพ์ไอส์แลนด์ไทมส์รายงานหลังจาก ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี เสร็จสิ้นภารกิจความร่วมมือแปซิฟิกในประเทศปาเลาในช่วงต้น พ.ศ. 2567

ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ยังสามารถผลิตน้ำสะอาดได้ถึง 200,000 แกลลอนต่อวัน มีเครื่องผลิตออกซิเจน และสามารถบรรทุกเชื้อเพลิงเรือจำนวน 42,000 บาร์เรล และเชื้อเพลิงอากาศยาน 90,000 แกลลอน

ทหารเสนารักษ์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ ตรวจสอบภาพเอกซเรย์ระหว่างที่ ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี จอดเทียบท่าที่รัฐชูค ประเทศไมโครนีเซีย เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2567
ภาพจาก: จ.อ. เซเรีย มาร์ติน/กองทัพเรือสหรัฐฯ

“เรือเหล่านี้มักได้รับการมองในแง่ของจำนวนเตียงและการดูแลผู้บาดเจ็บ แต่แท้จริงแล้ว เรือเหล่านี้ควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบจัดเตรียมยุทธศาสตร์ระดับโลกที่ช่วยให้สามารถกระจายเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยังพื้นที่ที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนปฏิบัติการที่หลากหลาย” น.ต. ไมค์ แอกแมน แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ เขียนในวารสารโพรซีดิงส์ของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567

ตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี และความร่วมมือแปซิฟิกได้บรรลุหมุดหมายสำคัญหลายครั้ง เช่น ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2558 กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกความร่วมมือแปซิฟิกบริเวณชายฝั่งฟิลิปปินส์เป็นครั้งแรก โดยเรือส่งกำลังบำรุงของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้จอดที่อ่าวซูบิกเพื่อเติมเชื้อเพลิงให้ ยูเอสเอ็นเอส เมอร์ซี ซึ่งกำลังเดินทางไปเวียดนามเพื่อปฏิบัติภารกิจใน 7 ประเทศ นั่นเป็นครั้งแรกที่เรือของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติที่นำโดยสหรัฐฯ จากอดีตฐานทัพเรือของสหรัฐฯ

หนึ่งปีต่อมา แปซิฟิกพาร์ทเนอร์ชิปมาเยือนมาเลเซียเป็นครั้งแรก ซึ่งผู้นำพลเรือนและทหารในท้องถิ่นได้ร่วมมือกับเจ้าหน้าที่จากออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ เพื่อเสริมสร้างความพร้อมและความสามารถในการรับมือภัยพิบัติในระดับภูมิภาค

ในระหว่างภารกิจแปซิฟิกพาร์ทเนอร์ชิป พ.ศ. 2567-1 ซึ่งกินระยะเวลาสี่เดือน ปฏิบัติการในห้าจุดหมาย และสิ้นสุดในต้น พ.ศ. 2567 หลังจากแวะที่รัฐชูคในไมโครนีเซีย โดยสหรัฐฯ และพันธมิตรได้แจกจ่ายแว่นสายตาตามใบสั่งแพทย์จำนวน 7,667 อัน แว่นกันแดดอย่างน้อย 7,440 อัน ให้บริการทางทันตกรรมราว 6,850 รายการ และดำเนินการผ่าตัด 300 ครั้ง

ดังนั้นขอให้มิตรภาพสุดพิเศษนี้ … เป็นมิตรภาพที่ยั่งยืนและยาวนานไปหลายทศวรรษทั้งในหมู่เกาะและในประเทศต่าง ๆ” นายอเล็กซานเดอร์ นาร์รูห์น ผู้ว่าการรัฐชูก กล่าวในพิธีปิดภารกิจความร่วมมือแปซิฟิก “ขอให้นี่เป็นการปฏิบัติภารกิจด้วยความจริงใจ เพื่อที่เราจะได้เสริมสร้างความมั่นคง ความสามัคคี เสถียรภาพ ความร่วมมือ และมิตรไมตรีในภูมิภาค”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button