ทหารฟิลิปปินส์จะฝึกใช้งานระบบขีปนาวุธ ไทฟอน ร่วมกับเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ระบบขีปนาวุธพิสัยกลางที่กองทัพสหรัฐอเมริกาส่งไปยังฟิลิปปินส์เมื่อ พ.ศ. 2567 เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจใหม่ โดยทหารฟิลิปปินส์จะฝึกใช้งานระบบขีปนาวุธไทฟอน ก่อนการฝึกซ้อมร่วมที่กำลังจะมีขึ้นของพันธมิตรที่ยาวนานทั้งสองประเทศ
การฝึกอบรมนี้จะไม่มีการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง แต่จะเน้นไปที่ความสามารถขั้นสูงของไทฟอน โดยเฉพาะความสามารถของขีปนาวุธร่อน ทหารประมาณ 20 นายจากกรมทหารปืนใหญ่ของกองทัพบกฟิลิปปินส์จะร่วมฝึกกับกองกำลังเฉพาะกิจแบบหลายมิติที่ 1 ของกองทัพบกสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิกในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พ.อ. ลูอี้ เดมา-อาลา โฆษกกองทัพบกฟิลิปปินส์ กล่าว การฝึกอบรมจะมุ่งเน้นไปที่ด้านการส่งมอบน้ำหนักบรรทุกของระบบ ซึ่งจัดอยู่ในหมวดความสามารถพิสัยกลาง
“ตราบใดที่เรามีความสามารถพิสัยกลางอยู่ที่นี่ เราจะใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้อย่างเต็มที่ในการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ของเราด้วยเทคโนโลยีใหม่เหล่านี้” พ.อ. เดมา-อาลา กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงมะนิลา
สหรัฐฯ ได้ส่งระบบไทฟอน ซึ่งเป็นเครื่องยิงขีปนาวุธเคลื่อนที่แบบติดตั้งบนพื้นดินที่สามารถยิงขีปนาวุธสแตนดาร์ดมิสไซล์ 6 และขีปนาวุธโจมตีภาคพื้นดินโทมาฮอว์กไปยังฟิลิปปินส์เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซาลักนิบประจำปี ระบบยิงขีปนาวุธนี้ยังคงอยู่ในฟิลิปปินส์หลังการฝึกซ้อม และต่อมาได้ย้ายไปใกล้กับพื้นที่ที่ฟิลิปปินส์และสาธารณรัฐประชาชนจีนมีข้อพิพาทดินแดนที่ยืดเยื้อมานานบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้
จีนอ้างสิทธิ์พื้นที่ในทะเลที่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์เกือบทั้งหมด ซึ่งบางส่วนมีการอ้างสิทธิ์จากบรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม จีนได้เพิกเฉยต่อคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศใน พ.ศ. 2559 ที่ทำให้การอ้างสิทธิ์ในอธิปไตยของจีนเป็นโมฆะ และกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้ใช้กลวิธีที่ผิดกฎหมาย บีบบังคับ ก้าวร้าวและเป็นอันตราย เพื่อผลักดันการอ้างสิทธิ์ของตนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ การข่มขู่เหล่านี้รวมถึงการปิดกั้นและขับเรือชนเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ ตลอดจนการเล็งเลเซอร์และยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือและเรือประมงของฟิลิปปินส์ เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนใช้เครื่องสร้างคลื่นเสียงระยะไกลส่งคลื่นเสียงความดังสูงไปยังเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บและอาจสูญเสียการได้ยิน ตามรายงานของรัฐบาลฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์ได้ย้ำถึงสิทธิ์ของประเทศในการนำทรัพยากรไปใช้ภายในอาณาเขตของตน
“มาทำข้อตกลงกับจีนกันเถอะ หยุดอ้างสิทธิ์ในดินแดนของเรา หยุดกลั่นแกล้งชาวประมงของเราและปล่อยให้พวกเขาทำมาหากิน หยุดชนเรือของเรา หยุดใช้ปืนฉีดน้ำกับประชาชนของเรา หยุดยิงเลเซอร์ใส่เรา อีกทั้งหยุดพฤติกรรมที่ก้าวร้าวและบีบบังคับของคุณ แล้วเราจะส่งขีปนาวุธไทฟอน” กลับไปให้สหรัฐฯ นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ กล่าวในช่วงปลายเดือนมกราคม พ.ศ. 2568
ในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้ประกาศแผนการที่จะจัดหาระบบขีปนาวุธที่มีความสามารถพิสัยกลาง เนื่องจาก “เราเห็นถึงความเป็นไปได้และความสามารถในการปรับตัว” พล.ท. รอย กาลิโด ผู้บัญชาการทหารบกฟิลิปปินส์ กล่าว
ระบบไทฟอนจะมีการนำมาใช้ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกซ้อมการใช้กำลังร่วมในชื่อว่า “คาติฮัน” ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อประเมินความสามารถของกองทัพบกฟิลิปปินส์ในการเคลื่อนย้าย ทำการรบ และคงการสนับสนุนกองกำลังขนาดใหญ่ระหว่างการสู้รบ การฝึกซ้อมนี้เป็นการซักซ้อมเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกซ้อมร่วมแบบทวิภาคี ซาลักนิบ ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างกองทัพฟิลิปปินส์และกองทัพสหรัฐฯ
การฝึกซาลักนิบเป็นส่วนเสริมของการฝึกบาลิกาตันขนาดใหญ่ ซึ่งใน พ.ศ. 2568 จะมีการซักซ้อม “แผนป้องกันฟิลิปปินส์อย่างเต็มรูปแบบและครบถ้วน” พล.ร.อ. ซามูเอล เจ. ปาปาโร ผู้บัญชาการกองบัญชาการสหรัฐฯ ประจำภาคพื้นแปซิฟิก กล่าว