ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยึดแนวทาง “สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง” เพื่อต่อต้านสาธารณรัฐประชาชนจีน

วอยซ์ออฟอเมริกา
ญี่ปุ่นและสหรัฐอเมริกาจะร่วมกันใช้แนวทาง “สันติภาพผ่านความแข็งแกร่ง” เพื่อต่อต้านการดำเนินการที่ก้าวร้าวของสาธารณรัฐประชาชนจีนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ผู้นำของญี่ปุ่นและสหรัฐฯ กล่าวในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568
“การเสริมความเข้มแข็งให้กับพันธมิตรญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งและแน่วแน่เพื่อบรรลุเป้าหมายอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” ถือเป็นกุญแจสำคัญ “ในการขับเคลื่อนผลประโยชน์แห่งชาติของทั้งสองประเทศอย่างสอดประสานกัน และสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในอินโดแปซิฟิกให้กลายเป็นจริง” นายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวหลังการพบปะกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.
วิดีโอจาก: จ.อ. มานูเอล ซาโมรา/กองทัพอากาศสหรัฐฯ
“นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นและผมจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อรักษาสันติภาพและความมั่นคง และผมขอย้ำเรื่องสันติภาพผ่านความแข็งแกร่งทั่วทั้งอินโดแปซิฟิก” นายทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กล่าว “เราตกลงที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้นเพื่อต่อต้านการคุกคามทางเศรษฐกิจของจีน”
เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนลาดตระเวนในบางส่วนของทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศอื่น ๆ เรือเหล่านั้นยังมีพฤติกรรมใช้ความรุนแรงต่อเรือส่งกำลังบำรุงและเรือประมงของฟิลิปปินส์ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ และเกิดการปะทะกับเรือของญี่ปุ่นบริเวณหมู่เกาะเซ็งกะกุซึ่งอยู่ภายใต้การบริหารของญี่ปุ่น
นายอิชิบะสนับสนุนให้ญี่ปุ่นกระชับความร่วมมือกับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ยาวนาน เพื่อรักษาพันธมิตรด้านความมั่นคงพหุภาคีในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ยังมีแผน “ส่งเสริมความร่วมมือหลายขั้นและสอดประสานกัน” ผ่านความร่วมมือการเจรจาความมั่นคงจตุภาคี หรือ ควอด ซึ่งประกอบด้วย ออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ตลอดจนผ่านความร่วมมือระดับไตรภาคีกับออสเตรเลีย ฟิลิปปินส์ และเกาหลีใต้ “เพื่อบรรลุเป้าหมายอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” ตามข้อมูลแถลงการณ์ร่วม
นอกจากนี้ ผู้นำทั้งสองประเทศยังแสดงจุดยืนคัดค้านความพยายามของจีนในการเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ในปัจจุบันของทะเลจีนตะวันออก และการอ้างสิทธิ์ทางทะเลที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายในทะเลจีนใต้ อีกทั้งยังแสดงการสนับสนุนให้ไต้หวันมี “บทบาทในองค์กรระหว่างประเทศอย่างมีความหมาย” รวมถึงคัดค้านการกระทำยั่วยุของจีนในช่องแคบไต้หวัน
รัฐบาลจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน และข่มขู่ที่จะผนวกรวมเกาะไต้หวันที่ปกครองคนเองแห่งนี้โดยใช้กำลัง
ในแถลงการณ์ร่วม ผู้นำญี่ปุ่นและสหรัฐฯ เน้นย้ำถึง “พันธสัญญาที่แน่วแน่” ของสหรัฐฯ ในการปกป้องญี่ปุ่นด้วยขีดความสามารถที่หลากหลาย รวมถึงขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์ ทั้งสองยังได้ “เน้นย้ำถึงการคัดค้านอย่างหนักแน่นต่อการกระทำใด ๆ ที่มุ่งบ่อนทำลายการบริหารหมู่เกาะเซ็งกากุอย่างสงบสุขและยาวนานของญี่ปุ่น”