เงินทุนจากจีนสำหรับโครงการขุดคลองในกัมพูชาและโครงการอื่น ๆ อาจไม่เกิดขึ้นจริง
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
นายซุน จันทอล รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 ว่ารัฐวิสาหกิจของจีนจะเป็นผู้จัดหาเงินทุนให้ทั้งหมดสำหรับโครงการขุดคลองฟูนันเตโช รัฐบาลกัมพูชาได้กล่าวอวดอ้างว่าโครงการที่เชื่อมแม่น้ำโขงกับอ่าวไทยนี้จะเป็นสิ่งที่พลิกโฉมเศรษฐกิจของประเทศ
ในเดือนสิงหาคม นายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวในพิธีเปิดโครงการว่าจีนจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายของโครงการอันยิ่งใหญ่นี้เป็นจำนวนร้อยละ 49 ในวันเดียวกันนั้น บิดาของนายมาเนตและนายฮุน เซน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้โพสต์ในเฟซบุ๊กเพื่อร้องขอให้ญี่ปุ่นลงทุนในโครงการขุดคลองนี้
ต่อมาในอีกไม่กี่เดือน ผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่าจีนยังไม่ได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนเงินทุนสำหรับโครงการนี้ ซึ่งคาดว่ามีมูลค่า 5.81 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 1.70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือประมาณร้อยละ 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของกัมพูชา
เจ้าหน้าที่กัมพูชาและจีนได้ตอบโต้โดยยืนยันว่าความสัมพันธ์ระหว่างกัมพูชาและจีนกำลังก้าวหน้าไปได้ด้วยดี และมีหลายโครงการที่กำลังดำเนินอยู่
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวกับรอยเตอร์ว่า ความมุ่งมั่นที่ลดลงของจีนอาจทำให้โครงการนี้ล้มเหลว เนื่องจากยังมีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และความเป็นไปได้ของโครงการ
การลงทุนในต่างประเทศของจีนลดลงเนื่องจากเศรษฐกิจที่อ่อนแอลง แม้กระทั่งในกัมพูชา ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ จีนก็ลดการสนับสนุนลงด้วยเช่นกัน เช่น การถอนตัวจากคำสัญญาว่าจะมอบเงิน 3.41 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สำหรับสร้างสนามบินแห่งใหม่ในกรุงพนมเปญ
“การลดการมีส่วนร่วมดังกล่าวเกิดขึ้นพร้อมกับถนนสายด่วนที่สร้างโดยบริษัทไชนาโรดแอนด์บริดจ์จำกัด ซึ่งเชื่อมกรุงพนมเปญกับเมืองชายฝั่งสีหนุวิลล์ที่ยังไม่ได้รับการใช้งานอย่างเต็มที่ เนื่องจากผู้ขับรถยนต์และรถบรรทุกชาวกัมพูชาหลีกเลี่ยงค่าผ่านทางและเลือกใช้ถนนเส้นเก่าที่แออัด แต่ไม่เสียค่าใช้จ่าย” ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
ขณะเดียวกัน ดูเหมือนว่าจีนจะไม่ดำเนินตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้กับซีเรียผ่านโครงการโครงสร้างพื้นฐานหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน เคยสัญญากับนายบัชชาร อัลอะซัด อดีตผู้นำเผด็จการของซีเรีย ว่าจะลงทุนเพื่อฟื้นฟูซีเรียที่ถูกทำลายจากสงคราม อย่างไรก็ตาม หลังจากการล่มสลายของรัฐบาลเผด็จการของนายอัลอะซัดในช่วงปลาย พ.ศ. 2567 ซีเรียก็ไม่สามารถพึ่งพาจีนให้จีนเป็นผู้นำในการฟื้นฟูประเทศได้ ตามรายงานของเว็บไซต์เดฟเทคไทม์ส
ในเนปาล โครงการที่จีนจัดหาเงินทุนให้ก็ประสบปัญหาด้วยเช่นกัน เช่น จีนปฏิเสธที่จะปล่อยเงินช่วยเหลือที่เคยสัญญาไว้สำหรับการปรับปรุงทางหลวงอารานิโคเป็นเวลา 9 ปี เนปาลต้องจัดหาเงินทุนเองเพื่อปรับปรุงทางหลวงที่เชื่อมระหว่างกรุงกาฐมาณฑุกับพรมแดนระหว่างเนปาลและจีน
ก่อนที่ผู้นำเนปาลและจีนจะตกลงในกรอบความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางในช่วงปลาย พ.ศ. 2567 รัฐบาลจีนยืนกรานให้ข้อตกลงนี้ครอบคลุมถึงการกู้ยืมเงินที่อาจเกิดขึ้น ฝ่ายนิติบัญญัติของเนปาลกล่าวว่าเนปาลไม่สามารถรับภาระหนี้จากจีนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัตราดอกเบี้ยของจีนสูงกว่าผู้ให้กู้รายอื่น
ประเทศต่าง ๆ เช่น กานา ปากีสถาน ศรีลังกา และแซมเบีย ที่เป็นหนี้จีนทำให้เศรษฐกิจในประเทศอ่อนแอลง โดยที่รัฐบาลในประเทศเหล่านี้ผิดนัดชำระหนี้หรือมีความเสี่ยงที่จะผิดนัดชำระหนี้ นักวิเคราะห์กล่าวว่า ปล่อยเงินกู้อย่างเอารัดเอาเปรียบของจีนอาจทำให้ประเทศเหล่านี้ยอมเสียการครอบครองสินทรัพย์เชิงยุทธศาสตร์หรือยอมให้จีนมีอิทธิพลเหนือการดำเนินนโยบายภายในประเทศหรือนโยบายต่างประเทศ
ตั้งแต่ พ.ศ. 2565 มีมากกว่า 12 ประเทศที่ผิดนัดชำระหนี้ ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์ ในขณะที่สถาบันต่าง ๆ เช่น ธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศกำลังทำงานร่วมกับผู้ให้กู้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ รัฐบาลจีนกลับแสดงให้เห็นถึงความไม่เต็มใจที่จะปรับเปลี่ยนเงื่อนไขหนี้ของตน
นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐอเมริกา ได้เรียกร้องให้เร่งรัดกระบวนการบรรเทาหนี้ และกล่าวว่ากระบวนการทางการเงินของจีนขาดความโปร่งใส ตามรายงานของเดอะนิวยอร์กไทมส์ นอกจากนี้ นางเยลเลนยังเสนอให้มีการสร้างแหล่งเงินกู้ใหม่สำหรับประเทศที่ “มีความทะเยอทะยานสูง” ในโครงการพลังงานสะอาด