ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า พลเมืองชาวเมียนมาส่วนใหญ่ไม่ไว้วางใจแรงจูงใจของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในประเทศของตนที่กำลังเกิดสงคราม

วอยซ์ออฟอเมริกา

การสนับสนุนต่อรัฐบาลทหารของเมียนมาที่มองว่ามาจากรัฐบาลจีน ได้ก่อให้เกิดความไม่พอใจอย่างแพร่หลายในประเทศที่เต็มไปด้วยความขัดแย้งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นักวิเคราะห์กล่าว

ตั้งแต่กองทัพเมียนมายึดอำนาจจากรัฐบาลที่ได้รับการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 ผู้วิจารณ์ได้กล่าวหาพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าหนุนหลังรัฐบาลทหารเพื่อปกป้องโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาลจีนภายใต้โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง

ความไม่ไว้วางใจในรัฐบาลจีนยังมาจากความสัมพันธ์ที่ยาวนานของจีนกับกองทัพเมียนมา ตามรายงานของนักวิเคราะห์และนักเคลื่อนไหว “มีการรับรู้เป็นวงกว้างว่าจีนกำลังขัดขวางความก้าวหน้าในการปฏิวัติต่อต้านรัฐประหาร” นายลิน เฮท นักเคลื่อนไหวชาวเมียนมาที่หลบหนีออกจากประเทศหลังจากการรัฐประหาร กล่าว

ผลสำรวจในช่วงกลาง พ.ศ. 2567 จากสถาบันยุทธศาสตร์และนโยบายเมียนมาพบว่า ร้อยละ 54 ของผู้มีส่วนได้เสียหลักในเมียนมามีมุมมองเชิงลบต่อสาธารณรัฐประชาชนจีนในฐานะเพื่อนบ้าน โดยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 72 ในกลุ่มองค์กรภาคประชาสังคม ซึ่งผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า จีน “ไม่ดีเลย” หรือ “ไม่ใช่เพื่อนบ้านที่ดี” ร้อยละ 60 ขององค์กรทหารชาติพันธุ์และร้อยละ 54 ของกองกำลังป้องกันประชาชน ซึ่งเป็นหน่วยติดอาวุธของรัฐบาลแห่งชาติที่รวมตัวกันหลังจากการรัฐประหารเพื่อคัดค้านระบอบทหาร ก็แสดงความรู้สึกในทำนองเดียวกัน

“หลายคนเชื่อว่าจีนสนับสนุนการยึดอำนาจของทหารในขณะนั้น” นางนัน ลวิน หัวหน้าหลักสูตรการศึกษาจีนที่สถาบันยุทธศาสตร์และนโยบายเมียนมา ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยอิสระ กล่าว “แม้ว่าความรู้สึกเหล่านี้จะเริ่มลดลงในช่วงกลาง พ.ศ. 2564 แต่ก็กลับมาอีกครั้งเมื่อรัฐบาลจีนเริ่มติดต่อกับรัฐบาลทหารในระดับสูง”

นายเฮท มิน ลวิน ผู้เชี่ยวชาญด้านเมียนมาจากมหาวิทยาลัยยอร์กในแคนาดา ได้เน้นย้ำถึงความรู้สึกต่อต้านจีนที่เพิ่มขึ้นในเมียนมาตั้งแต่การเดินทางมาเยือนเนปิดอว์ของนายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศจีน ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งเขาได้พบกับผู้นำรัฐบาลทหารอย่าง มิน อ่อง หล่าย

“ตามประวัติศาสตร์แล้ว ผู้มีส่วนได้เสียทางการเมืองของเมียนมามักจะไม่ค่อยเป็นหนึ่งเดียวกัน” นายเฮต มิน ลวินกล่าว “ทว่าในระหว่างการเยือนของนายหวัง อี้ กองกำลังปฏิวัติทั้งหมดที่ต่อต้านระบอบทหารได้แสดงความรู้สึกต่อต้านจีนอย่างเป็นเอกฉันท์”

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลทหารได้จัดการประท้วงและการคว่ำบาตรเพื่อดึงความสนใจไปยังการแทรกแซงของรัฐบาลจีนในเมียนมา ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 มีการเรียกร้องให้คว่ำบาตรสินค้าที่ผลิตในจีน

นายลิน เฮทได้จัดการประท้วงที่หน้าสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตัน โดยกล่าวว่า การประท้วงครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อเรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนหยุดแทรกแซงกิจการของเมียนมาและเปลี่ยนนโยบายของตน ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำถึงความต้องการให้จีนเป็นเพื่อนบ้านที่ดี

“เราไม่จำเป็นต้องเกลียดชังจีนหรือชาวจีนเลย” นายลิน เฮทกล่าว “แต่ถ้ารัฐบาลจีนยังคงแทรกแซงกิจการของเมียนมาเหมือนที่เป็นอยู่ในขณะนี้ อาจจะต้องเผชิญกับการต่อต้านมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้จีนห่างเหินจากประชาชนชาวเมียนมามากขึ้น”