ผู้นำของรัฐบาลทหารเมียนมาออกกฎหมายเซ็นเซอร์ทางออนไลน์อย่างกว้างขวาง

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
รัฐบาลทหารเมียนมา ซึ่งเป็นที่รู้จักในทางลบเกี่ยวกับการปราบปรามเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ได้ออกกฎหมายความมั่นคงทางไซเบอร์ที่กำหนดให้มีข้อจำกัดอย่างกว้างขวางต่อกระแสข้อมูล ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ของรัฐเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2568
การควบคุมเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นที่มีอยู่เดิมนั้นโดยทั่วไปแล้วเกี่ยวข้องกับการตั้งข้อหาภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติที่มีการนิยามอย่างกว้างสำหรับเนื้อหาออนไลน์ นอกจากนี้ยังมีการปิดกั้นเว็บไซต์และแอปพลิเคชันในระดับเครือข่าย เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานทั่วไปเข้าถึงเนื้อหาที่รัฐบาลทหารไม่ต้องการให้เห็น มีการนำเทคโนโลยีจากสาธารณรัฐประชาชนจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรหลักของระบอบการปกครอง มาใช้ในการตรวจตราและเซ็นเซอร์
นับตั้งแต่ยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 รัฐบาลทหารเมียนมาได้ใช้ความรุนแรงโจมตีพลเรือนฝ่ายต่อต้านภายในประเทศ และปราบปรามการแสดงความคิดเห็นออนไลน์ที่สนับสนุนประชาธิปไตยหรือกระตุ้นให้เกิดการต่อต้านด้วยอาวุธ องค์กรฟรีดอมเฮาส์ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ได้อ้างถึงการกดขี่ของรัฐบาลทหารในรายงานประจำปีเกี่ยวกับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ข้อจำกัดด้านเนื้อหา และการละเมิดสิทธิของผู้ใช้งานใน 72 ประเทศทั่วโลก การสำรวจใน พ.ศ. 2567 จัดอันดับให้เมียนมาเป็นผู้ละเมิดสิทธิเสรีภาพทางออนไลน์แย่ที่สุดในโลก ซึ่งเทียบเท่ากับจีน
ในขณะเดียวกัน กลุ่มต่อต้านที่ประกอบด้วยพลเรือนที่สนับสนุนประชาธิปไตยและชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์ ได้เอาชนะกองกำลังของรัฐบาลทหารในหลายพื้นที่และยึดครองดินแดนบางส่วนไว้ได้
กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ซึ่งมีบทบัญญัติที่ครอบคลุมช่องทางการสื่อสารและผู้ให้บริการ เช่น เครือข่ายส่วนตัวเสมือน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถหลีกเลี่ยงข้อจำกัดของเครือข่ายได้ เครือข่ายส่วนตัวเสมือนช่วยให้ผู้ใช้งานเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ผ่านคอมพิวเตอร์ของบุคคลที่สาม ซึ่งเป็นการปิดบังเนื้อหาที่พวกเขากำลังเข้าถึง
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลทหารเมียนมาได้พยายามจำกัดการจราจรทางอินเทอร์เน็ต โดยเฉพาะในช่วงหลายเดือนหลังจากการรัฐประหาร กลุ่มต่อต้านรัฐประหารพึ่งพาสื่อสังคมออนไลน์อย่างมากในการจัดเตรียมการประท้วง เมื่อการต่อต้านอย่างสันติเปลี่ยนเป็นการต่อสู้ด้วยอาวุธ และสื่ออิสระถูกปิดตัวลงหรือถูกบังคับให้ทำงานใต้ดิน กองกำลังต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาได้เพิ่มการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์มากขึ้น
ภายใต้กฎหมายใหม่นี้ ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลอาจถูกปรับหรือถูกระงับการดำเนินงานได้ นอกจากนี้กฎหมายยังระบุให้ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาชื่อผู้ใช้งานและข้อมูลส่วนบุคคลอื่น ๆ ไว้เป็นระยะเวลานานสูงสุดสามปี และเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวต่อเจ้าหน้าที่หากมีการร้องขอ
อีกทั้งกฎหมายยังมีโทษปรับหรือจำคุกสำหรับผู้ใดก็ตามที่จัดตั้งเครือข่ายส่วนตัวเสมือนหรือให้บริการเครือข่ายส่วนตัวเสมือนโดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเป็นทางการ