ทหาร “ตัวหมากสังเวย” ของเกาหลีเหนือได้รับคำสั่งให้ไปปฏิบัติภารกิจอันเปล่าประโยชน์ในสงครามที่ผิดกฎหมายของรัสเซีย

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ทหารเกาหลีเหนือที่ขาดการเตรียมพร้อมถูกส่งตัวไปสนับสนุนสงครามที่รัสเซียรุกรานยูเครนโดยไม่มีเหตุอันสมควร และกำลังประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ โดยในช่วงเวลาสัปดาห์เดียวในปลายเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บประมาณ 1,000 นาย
ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนผู้บาดเจ็บล้มตายนี้ได้มาจากสำนักงานที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ และกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่า ทหารเกาหลีเหนือจะถูกใช้เป็น “ตัวหมากสังเวย” ในการสู้รบในแคว้นคูร์สของรัสเซีย ทหารเกาหลีเหนือเหล่านี้ถูกส่งไปยังแนวรบที่มีการป้องกันอย่างแน่นหนา โดยปราศจากการวางแผน การประสานงาน หรืออุปกรณ์ที่เหมาะสม
วิดีโอที่เผยแพร่โดยหน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครนแสดงให้เห็นว่าทหารเกาหลีเหนือพยายามบุกเข้าโจมตีด้วยการเดินเท้าแทนที่จะใช้ยานเกราะ และไม่ได้รับการสนับสนุนจากรถถังหรือปืนใหญ่ ทหารเหล่านี้แตกกระจายด้วยความตื่นตระหนกเมื่อโดรนโจมตีเคลื่อนที่เข้าประชิด
“ยุทธวิธีคลื่นมนุษย์ที่เราเห็นนี้ไม่ได้ผลมากนัก” นายจอห์น เคอร์บี้ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวในช่วงปลายเดือนธันวาคม “เห็นได้ชัดเจนว่าผู้นำทหารรัสเซียและเกาหลีเหนือปฏิบัติต่อทหารเหล่านี้ราวกับเป็นตัวหมากสังเวย และสั่งให้พวกเขาบุกโจมตีแนวป้องกันของยูเครนอย่างไร้ความหวัง”
ทหารเกาหลีเหนือเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของหน่วยสตอร์มคอร์ปส์ ซึ่งถือว่าเป็นหน่วยรบพิเศษที่ได้รับการฝึกฝนอย่างดีที่สุดและถูกปลูกฝังอย่างหนักที่สุดของรัฐบาลเกาหลีเหนือ แต่พวกเขายังคงไม่มีความพร้อมสำหรับการรับมือกับโดรนโจมตีและไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศ ตามรายงานของเดอะนิวยอร์กไทมส์ ทหารเหล่านี้ขาดประสบการณ์การรบ และหลายคนดูเหมือนจะขาดสารอาหาร
ข้อมูลจากหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครนระบุว่าทหารเกาหลีเหนือยังประสบปัญหาขาดแคลนเสบียงและน้ำดื่มด้วย ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
สหรัฐฯ ยังได้รับรายงานเกี่ยวกับกรณีที่ทหารเกาหลีเหนือฆ่าตัวตายเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกจับโดยกองกำลังยูเครน “ซึ่งน่าจะเกิดจากความกลัวว่าครอบครัวของพวกเขาในเกาหลีเหนือจะถูกลงโทษ” นายเคอร์บี้กล่าว
หน่วยปฏิบัติการพิเศษยูเครนยังได้เผยแพร่ข้อความบางส่วนจากสมุดบันทึกที่เก็บกู้ได้จากศพของทหารเกาหลีเหนือ โดยในสมุดบันทึกนั้นมีคำแนะนำพื้นฐานเกี่ยวกับวิธีหลบหลีกโดรนและปืนใหญ่ในแนวหน้า การหลบหลีกโดรนจำเป็นต้องใช้เพื่อนร่วมทีมเป็นตัวล่อ ในขณะที่ทหารคนอื่น ๆ ยิงไปที่โดรนที่ไม่มีคนควบคุม ส่วนการหลบหนีปืนใหญ่ ทหารได้รับคำสั่งให้กระจายตัวเป็นกลุ่มเล็ก ๆ และหลบหนีหรือซ่อนตัวในหลุมจากการระเบิด
มีการส่งทหารเกาหลีเหนือประมาณ 11,000 นายไปยังแคว้นคูร์ส ซึ่งเป็นที่ที่กองกำลังยูเครนได้ปฏิบัติการตอบโต้มาตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 โดยกลุ่มทหารชุดแรกเดินทางถึงในเดือนตุลาคม นายวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ได้สั่งการให้รุกรานยูเครนโดยมิชอบด้วยกฎหมายมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565 นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีเหนือยังได้ส่งกระสุนปืนใหญ่ จรวดต่อต้านรถถัง ปืนใหญ่อัตตาจร และเครื่องยิงจรวดเป็นจำนวนรวมกันมากกว่า 13,000 ตู้คอนเทนเนอร์ให้กับรัสเซีย
พันธมิตรและหุ้นส่วน เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ต่างประณามการส่งทหารของเกาหลีเหนือว่าเป็นการยกระดับสถานการณ์ให้เลวร้ายลงอย่างมาก
“ยังคงน่ากังวลอย่างยิ่งที่นายปูตินตัดสินใจใช้ทหารต่างชาติในแผ่นดินรัสเซียเพื่อปกป้องดินแดน ซึ่งถือเป็นความเคลื่อนไหวทางประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมานานหลายทศวรรษ” นายเคอร์บี้กล่าว