ความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่นกับฟิลิปปินส์แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นจากมอบอุปกรณ์สำหรับตำรวจ

มาเรีย ที. เรเยส

ญี่ปุ่นได้เสริมสร้างความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์กับฟิลิปปินส์ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ด้วยการมอบอุปกรณ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์เพื่อใช้ในการต่อสู้กับการค้ายาเสพติดและการค้ามนุษย์ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

การมอบอุปกรณ์นี้ “ทำให้ความมุ่งมั่นร่วมกันของเรามีความมั่นคงและความเข้าใจที่ลึกซึ้งเกี่ยวกับบทบาทของเราในฐานะผู้รักษาสันติภาพและตัวแทนของความจริงและความยุติธรรม” พล.จ. เบนจามิน เซมบราโน ผู้อำนวยการกองพิสูจน์หลักฐานของสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าว

“ความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับผลกระทบจากสถานการณ์ด้านความมั่นคงและอาชญากรรมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ส่งผลต่อญี่ปุ่น” รวมถึงบทบาทของกลุ่มอาชญากรรมข้ามชาติในกรณีการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ เป็นปัจจัยที่ผลักดันให้เกิดการริเริ่มนี้ ตามรายงานของสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงมะนิลา

การบริจาคนี้รวมถึงอุปกรณ์สแกนและทำแผนที่ด้วยเลเซอร์ 3 มิติสำหรับการสืบสวนทางนิติวิทยาศาสตร์ และได้รับการจัดหาผ่านสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ ตามรายงานของสำนักข่าวฟิลิปปินส์

ญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพให้กับกองทัพและกองกำลังรักษาชายฝั่งของฟิลิปปินส์ และเป็นผู้สนับสนุนความพยายามในการสร้างสันติภาพในฟิลิปปินส์มานานกว่ายี่สิบปี ท่ามกลางการจลาจล โดยเฉพาะในเขตปกครองตนเองบังซาโมโร

ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงการเข้าถึงแบบทวิภาคี ซึ่งเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือด้านความมั่นคง

การสนับสนุนของญี่ปุ่นในการเสริมสร้างความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายของฟิลิปปินส์รวมถึงการฝึกอบรมในการจัดการตำรวจ การควบคุมอาวุธปืน การระบุตัวตนทางลายนิ้วมืออัตโนมัติ และการสืบสวนสถานที่เกิดเหตุ รัฐบาลญี่ปุ่นได้บริจาคยานพาหนะลาดตระเวน 100 คันเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยสาธารณะและการต่อต้านการก่อการร้าย

กองกำลังรักษาชายฝั่งญี่ปุ่นและสำนักงานปราบปรามยาเสพติดฟิลิปปินส์ได้แลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดตั้งแต่ พ.ศ. 2549 ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 หน่วยงานทั้งสองได้ตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือในการต่อสู้กับปัญหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด

ความร่วมมือครั้งล่าสุดนี้เสริมสร้างการตอบรับมือกับภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น ยาเสพติด อาชญากรรมที่มีการจัดระเบียบระหว่างประเทศ และกลุ่มหัวรุนแรงสุดโต่ง ตามรายงานของสถานทูตญี่ปุ่น

“เราจะเสริมสร้างความสามารถของเราในการรวบรวมหลักฐานที่สำคัญเพื่อสร้างเหตุการณ์และนำผู้กระทำผิดมาสู่กระบวนการยุติธรรม” พล.จ. เซมบราโนกล่าว

วิธีการนิติวิทยาศาสตร์ที่ทันสมัยมีความจำเป็น “เพื่อรับมือกับความท้าทายจากภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่ซับซ้อนมากขึ้น” นายดาเนียเล มาร์เคซี ผู้จัดการโครงการของสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติในฟิลิปปินส์ กล่าว

เครื่องสแกน 3 มิติสามารถ “จับภาพหลักฐานที่สำคัญและสร้างเหตุการณ์ใหม่ได้ในรูปแบบเสมือน” และมีความสามารถในการวิเคราะห์วิถีกระสุน รูปแบบคราบเลือด และหลักฐานอื่น ๆ ที่สามารถย้อนกลับไปตรวจสอบได้ในรูปแบบดิจิทัลหลังจากที่ยกเลิกการกักบริเวณสถานที่เกิดเหตุไปแล้ว นายมาร์เคซีกล่าว

“สิ่งนี้ช่วยให้การสืบสวนมีประสิทธิภาพและความละเอียดมากขึ้น ลดการพึ่งพาวิธีการแบบเดิม พร้อมรับประกันว่าหลักฐานที่รวบรวมจะผ่านการตรวจสอบในศาลทั้งในประเทศและระดับสากล” นายมาร์เคซีกล่าวเสริม