ทรัพยากรส่วนรวมของโลกเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

เจ้าหน้าที่ยุโรประบุว่าเหตุการณ์สายเคเบิลข้อมูลขาดเชื่อมโยงกับเรือบรรทุกสินค้าที่ติดธงของจีน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

เจ้าหน้าที่กลาโหมของยุโรปและเจ้าหน้าที่รัฐกล่าวว่าเรือที่ติดธงของสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นผู้ต้องสงสัยหลัก หลังจากที่สายเคเบิลอินเทอร์เน็ตใต้น้ำสองเส้นขาดออกจากกันในช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567

เรือบรรทุกสินค้า ยี่เป็ง 3 ได้ออกจากท่าเรือในรัสเซียและแล่นข้ามสายเคเบิลทั้งสองเส้นในทะเลบอลติกในช่วงเวลาที่สายเคเบิลเหล่านั้นได้รับความเสียหาย สายเหล่านี้เชื่อมต่อระหว่างเดนมาร์กกับสวีเดน ลิทัวเนียกับฟินแลนด์ และเยอรมนี ข้อมูลการติดตามเรือเผยให้เห็นว่าเรือได้หยุดจอดและลอยอยู่ใกล้กับสายเคเบิล โดยในบางครั้งใช้เวลามากกว่าหนึ่งชั่วโมง ตามรายงานของเนชันแนลพับลิกเรดิโอในสหรัฐอเมริกา

การละเมิดนี้เกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษของสวีเดน และประเทศนี้รับหน้าที่เป็นผู้นำการสอบสวนร่วมกับเดนมาร์ก ฟินแลนด์ เยอรมนี และลิทัวเนีย

มากกว่าร้อยละ 95 ของข้อมูลทั่วโลกเดินทางผ่านสายเคเบิลไฟเบอร์ออปติกที่ตัดผ่านพื้นทะเล ซึ่งเป็นวิธีที่เร็วที่สุดและเชื่อถือได้มากที่สุดในการส่งข้อมูล “แค่เพียงสายเคเบิลหนึ่งเส้นสามารถรองรับผู้คนจำนวนมากที่กำลังดูวิดีโอหรือส่งข้อความพร้อมกันได้โดยไม่ทำให้ความเร็วลดลง” นายโรบิน ชาโตต อาจารย์ด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และวิทยาการคอมพิวเตอร์จากมหาวิทยาลัยควินนิพิแอคในรัฐคอนเนตทิคัต เขียนให้กับสำนักข่าวเดอะคอนเวอร์เซชัน

เศรษฐกิจโลกต้องพึ่งพาเครือข่ายใต้น้ำเหล่านี้ และการปกป้องโครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับความมั่นคงระหว่างประเทศ ภายใต้อนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการปกป้องสายเคเบิลโทรเลขใต้น้ำ พ.ศ. 2427 ระบุว่า “การทำลายหรือทำให้สายเคเบิลใต้น้ำได้รับความเสียหายโดยเจตนาหรือละเลยโดยประมาทในลักษณะที่อาจขัดขวางหรือหยุดการสื่อสารทางโทรเลขทั้งหมดหรือบางส่วน ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”

พันธมิตรด้านความมั่นคงของนาโตได้เตือนว่ารัสเซียอาจมุ่งเป้าไปที่โครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารของยุโรป เนื่องจากรัฐบาลรัสเซียยังคงดำเนินสงครามที่ไม่มีเหตุยั่วยุต่อยูเครน นายบอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเยอรมนี กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “ไม่มีใครเชื่อว่าสายเคเบิลเหล่านี้จะขาดออกจากกันโดยบังเอิญ [ในเดือนพฤศจิกายน] เราต้องสันนิษฐานเอาไว้ก่อน แม้เราจะยังไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นการกระทำของการก่อวินาศกรรมก็ตาม”

เจ้าหน้าที่บอกกับหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่ารัสเซียอาจเป็นผู้ลงมือตัดสายเคเบิล แต่ใช้เรือที่ติดธงของจีนเพื่อปกปิดความผิด อีกหลายคนเสนอว่าจีนอาจไม่รู้เรื่องแผนการนี้ หรือสายเคเบิลอาจเสียหายจากอุบัติเหตุ

จีนมักจะดำเนินการเคลื่อนไหวอย่างอุกอาจในน่านน้ำใกล้ชายฝั่งของตน โดยอ้างสิทธิ์ในดินแดนทางทะเลในเขตเศรษฐกิจพิเศษของประเทศอื่น ๆ ขัดขวางการสำรวจน้ำมันและก๊าซ และก่อกวนลูกเรือประมงและปฏิบัติการทางทหาร

อย่างไรก็ตาม การก่อวินาศกรรมในทะเลบอลติก “จะเป็นการกระทำที่น่าประหลาดใจมาก และไม่เคยมีมาก่อน” นายคริสเตียน บูเกอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางทะเลจากมหาวิทยาลัยโคเปนเฮเกน กล่าวกับผู้ประกาศข่าวฟรานซ์ 24

รัฐบาลจีนยอมรับว่าเรือบรรทุกสินค้าที่ติดธงของฮ่องกงได้ทำให้สายเคเบิลใต้น้ำสองเส้นและท่อก๊าซที่เชื่อมต่อเอสโตเนียและฟินแลนด์ได้รับความเสียหายใน พ.ศ. 2566 เจ้าหน้าที่สืบสวนพบว่าความเสียหายนั้นเกิดจากสมอเรือ และจีนกล่าวว่าเหตุการณ์นี้เป็นอุบัติเหตุ

มีรายงานว่าเรือที่จดทะเบียนกับบริษัทขนส่งในจีนมีความเชื่อมโยงกับรัสเซียในเรื่องการเป็นเจ้าของ

“การมีส่วนเกี่ยวข้องของเรือจีนลำอื่นในเหตุการณ์ที่สอง (ซึ่งยังไม่ได้รับการยืนยัน) อาจเพิ่มข้อสงสัยเกี่ยวกับคำอธิบายความเสียหายใน พ.ศ. 2566 มากยิ่งขึ้น” ตามรายงานของนิตยสารเดอะดิโพลแมตในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567

ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังตระหนักถึงความเสี่ยงต่อสายเคเบิลสื่อสารใต้ทะเลมากขึ้น ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เรือสัญชาติจีนสองลำได้ตัดสายเคเบิลสองเส้นที่ให้บริการอินเทอร์เน็ตไปยังเกาะหม่าจูของไต้หวัน

รัสเซียมีความเชื่อมโยงกับการตัดสายเคเบิลนอกหมู่เกาะสวาลบาร์ดของนอร์เวย์และเกาะเชทแลนด์ของสกอตแลนด์

นักวิเคราะห์กล่าวกับเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัลว่าประเทศในแถบสแกนดิเนเวียเตรียมพร้อมที่จะสืบสวนความเสียหายของสายเคเบิลในเดือนพฤศจิกายนหลังจากเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ รวมถึงการหายไปของสายเคเบิลตรวจสอบใต้ทะเลใน พ.ศ. 2564 และการระเบิดของท่อส่งก๊าซนอร์ดสตรีม ใน พ.ศ. 2565

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button