รัฐบาลจีนเดินหน้าขยายแผนการบีบบังคับกับประเทศเพื่อนบ้าน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนแสดงความไม่พอใจต่อระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา ซึ่งเป็นระเบียบที่จีนไม่ได้เป็นผู้กำหนดขึ้น การปฏิเสธที่จะยอมรับกฎหมายระหว่างประเทศที่ปกป้องเศรษฐกิจโลกและความมั่นคงของประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก นายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน แสดงให้เห็นถึงตัวอย่างของระบบเผด็จการที่ตนให้การสนับสนุน
กิจกรรมทางทหารเชิงบีบบังคับของพรรคคอมมิวนิสต์รัฐบาลจีนในและรอบ ๆ ช่องแคบไต้หวันในช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 เกิดขึ้นหลังจากการเดินทางไปต่างประเทศของนายไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน โดยเดินทางไปยังรัฐฮาวายและดินแดนกวมของสหรัฐฯ ระหว่างการเดินทางในภูมิภาคแปซิฟิก สาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตนและขู่ที่จะผนวกรวมไต้หวันที่ปกครองตัวเองโดยใช้กำลัง อีกทั้งยังคัดค้านความสัมพันธ์ของไต้หวันกับสหรัฐฯ และรัฐบาลของประเทศอื่น ๆ
กระทรวงการต่างประเทศของไต้หวันระบุว่า รัฐบาลจีนได้ส่งเรือของกองทัพเรือและกองกำลังรักษาชายฝั่งจำนวนมากมายังพื้นที่ใกล้ไต้หวัน ญี่ปุ่น และฟิลิปปินส์ เจ้าหน้าที่ระบุว่าการกระทำดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่าเส้นทางน้ำเชิงยุทธศาสตร์ต่าง ๆ รวมถึงช่องแคบไต้หวันอยู่ภายใต้การควบคุมของจีน โดยช่องแคบไต้หวันนี้เป็นเส้นทางการค้าระดับโลกมูลค่ากว่า 67.62 ล้านล้านบาท (ประมาณ 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี ตามรายงานของนิตยสารไทเปไทมส์
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การก่อกวนเส้นทางการค้าดังกล่าว เช่น การรุกรานหรือปิดล้อมช่องแคบโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน อาจส่งผลกระทบไปทั่วโลก การฝึกซ้อมทางทหารของพรรคคอมมิวนิสต์จีนครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สามที่ดำเนินการใกล้ไต้หวันใน พ.ศ. 2567
สหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรและหุ้นส่วนได้เดินทางผ่านช่องแคบไต้หวันด้วยเรือและอากาศยานเป็นกิจวัตร เพื่อยืนยันสถานะของช่องแคบดังกล่าวว่าเป็นน่านน้ำและน่านฟ้าสากล
“การเผชิญหน้าใด ๆ กับไต้หวันจะทำให้จำเป็นต้องควบคุมพื้นที่น่านน้ำโดยรอบให้ได้” นักวิเคราะห์จากศูนย์วิจัยมูลนิธิเฮอริเทจในสหรัฐฯ เขียน “ข้อมูลนี้ช่วยอธิบายถึงสาเหตุที่ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมาที่จีนได้เพิ่มการเข้ามีบทบาทในทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง นั่นก็เพราะจีนมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนทะเลจีนใต้ให้เป็นเสมือนทะเลสาบของจีน”
รัฐบาลจีนอ้างสิทธิ์อธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด โดยฝ่าฝืนคำตัดสินของศาลระหว่างประเทศเมื่อ พ.ศ. 2559 ที่ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์ในดินแดนดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้เพิ่มความพยายามในการคุกคามชาวประมงฟิลิปปินส์และเจ้าหน้าที่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลจีน
เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและกองกำลังพลเรือนติดอาวุธทางทะเลกว่า 100 ลำยังคงขัดขวางภารกิจเติมเสบียงไปยังด่านทหารชั้นนอกของฟิลิปปินส์ที่สันดอนโทมัสที่สอง และได้ขยายการคุกคามไปยังพื้นที่อื่น ๆ ภายในเขตน่านน้ำที่ฟิลิปปินส์ได้รับการยอมรับในระดับสากล ตามรายงานของนิตยสารฟอเรนโพลิซี
รัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญาของสหรัฐฯ มายาวนาน ได้เปิดตัวโครงการความโปร่งใสเชิงรุกเพื่อเปิดโปงความก้าวร้าวของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทะเลจีนใต้ ในขณะที่รัฐบาลฟิลิปปินส์ปฏิเสธที่จะยอมเสียอำนาจอธิปไตยของตนให้กับรัฐบาลจีน นักวิเคราะห์ระบุว่าโครงการนี้ได้ช่วยเสริมการสนับสนุนขีดความสามารถด้านความมั่นคงภายในประเทศและการเป็นหุ้นส่วนระหว่างประเทศเพื่อรักษาเสถียรภาพ
ขณะเดียวกัน พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงยัดเยียดการอ้างสิทธิ์ตามอำเภอใจของตนในเขตเศรษฐกิจพิเศษของอินโดนีเซีย มาเลเซีย และเวียดนาม ประเทศเหล่านี้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของรัฐบาลจีนที่ต้องการให้ยุติการขุดเจาะน้ำมันในน่านน้ำของตนเอง ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 รัฐบาลเวียดนามได้ประณาม “พฤติกรรมอันโหดร้าย” ของเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของจีนที่ขึ้นเรือประมงเวียดนามในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทและทำร้ายลูกเรือชาวเวียดนาม
ในทะเลจีนตะวันออก เรือของพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังคงล่วงล้ำน่านน้ำที่ญี่ปุ่นควบคุมอยู่ในบริเวณรอบหมู่เกาะเซ็งกะกุ กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นกล่าวหาว่ารัฐบาลจีนพยายามเปลี่ยนแปลงสถานะที่เป็นอยู่ด้วยการใช้กำลังหรือการบีบบังคับฝ่ายเดียว “รวมถึงการเข้าใกล้เรือประมงญี่ปุ่นในน่านน้ำที่เป็นอาณาเขตของญี่ปุ่น และการรุกล้ำเข้ามาโดยเรือติดอาวุธหนัก” กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นระบุ
นายสีได้กล่าวอ้างถึงวิสัยทัศน์เรื่อง “ชุมชนโลก” ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจและความรุ่งเรืองร่วมกัน แต่ประเทศเพื่อนบ้านที่ต่อต้านการบีบบังคับของรัฐบาลจีน พ.ศ. 2567 ดูเหมือนไม่เชื่อมั่นในคำกล่าวอ้างนี้