ทหารเกาหลีเหนืออาจเป็น “เหยื่อกระสุน” ในสงครามของรัสเซียกับยูเครน
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
จำนวนและขีดความสามารถที่แท้จริงของทหารเกาหลีเหนือที่ส่งไปเสริมกำลังในสงครามที่ผิดกฎหมายของรัสเซียต่อยูเครนยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่ผู้สังเกตการณ์ส่วนใหญ่มีมุมมองที่ไม่ดีนักเกี่ยวกับบทบาทของนักรบนำเข้าเหล่านี้
เจ้าหน้าที่คาดการณ์ว่ามีทหารเกาหลีเหนือประมาณ 11,000 นายที่ถูกส่งไปยังแคว้นคูร์สของรัสเซีย และเริ่มมีการยืนยันว่าบางส่วนได้เข้าร่วมในสนามรบแล้ว “พวกเขาเคลื่อนที่ไปยังคูร์สด้วยเหตุผลบางอย่าง” นางซาบรินา ซิงห์ รองโฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ กล่าวในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 “เราคาดการณ์ไว้ในทุกแง่มุมแล้วว่าพวกเขาจะมีส่วนร่วมในการปฏิบัติการรบ”
เกาหลีเหนือเริ่มส่งทหารไปยังรัสเซียในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 และในท้ายที่สุดอาจส่งกำลังเพิ่มขึ้นถึง 100,000 นายในอนาคต ตามรายงานของสำนักข่าวบลูมเบิร์ก
การประเมินขีดความสามารถของทหารเกาหลีเหนือมีหลากหลายมุมมอง ตามรายงานของบีบีซีนิวส์ ขณะที่หน่วยข่าวกรองเกาหลีใต้และยูเครนระบุว่าทหารจำนวนมากเป็นกำลังพลที่ดีที่สุดของรัฐบาลเกาหลีเหนือ นักวิเคราะห์ทางทหารกลับตั้งคำถามถึงคุณค่าของทหารเกาหลีเหนือในสงครามรัสเซียและยูเครนที่ยืดเยื้อมาถึงปีที่สามแล้ว ทหารเหล่านี้ต้องเผชิญกับอุปสรรคด้านภาษา ความท้าทายอื่น ๆ ในการทำงานร่วมกัน ตลอดจนสภาพภูมิประเทศที่ไม่คุ้นเคย
แม้ว่าเกาหลีเหนือจะมีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดกองทัพหนึ่งของโลกด้วยกำลังพลประจำการ 1.28 ล้านนาย ทว่าทหารเกาหลีเหนือไม่ได้เข้าร่วมการสู้รบมาตั้งแต่สงครามเกาหลีสิ้นสุดลงใน พ.ศ. 2496 กองกำลังของรัฐบาลเกาหลีเหนือถูกมองว่า “ได้รับการปลูกฝังมาอย่างหนักแน่น แต่มีความพร้อมไม่เพียงพอ” นายมาร์ก แคนเชียน ที่ปรึกษาอาวุโสของศูนย์เพื่อความมั่นคงและนานาชาติศึกษาในสหรัฐฯ กล่าวกับบีบีซีในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน
“ทหารรัสเซียส่วนมากคงจะพูดว่า ‘พวกเขามาทำอะไรที่นี่? ผมต้องคอยจูงมือพวกเขา ฉันเดินสะดุดศพของพวกเขาด้วย'” นายซิดนีย์ ซีเลอร์ อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองแห่งชาติของสหรัฐฯ ประจำเกาหลีเหนือ กล่าวกับเอ็นบีซีนิวส์
มีรายงานว่าทหารรัสเซียกว่า 1,000 นาย รวมถึงทหารรับจ้าง นักโทษ และทหารเกณฑ์จากชนบทที่ยากจน ถูกสังหารทุกวันในเหตุการณ์ความขัดแย้งนี้ ตามข้อมูลของเจ้าหน้าที่ทหารตะวันตก นักวิเคราะห์มองว่าการส่งกำลังทหารของรัฐบาลเกาหลีเหนือแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวังที่เพิ่มขึ้นของรัฐบาลรัสเซียท่ามกลางการสูญเสียในสนามรบ
“คงไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาไปรัสเซียเพื่อเสียชีวิต” นายชเว จองฮุน อดีตนายทหารยศร้อยโทของกองทัพบกเกาหลีเหนือและผู้นำกลุ่มนักเคลื่อนไหวในกรุงโซล เกาหลีใต้ กล่าวกับ Military.com “แต่ผมคิดว่าพวกเขาเป็นเพียงเหยื่อกระสุน เพราะพวกเขาจะถูกส่งไปยังจุดที่อันตรายที่สุดและจะต้องถูกสังหารอย่างแน่นอน”
นอกจากการส่งกำลังทหารแล้ว รัฐบาลเกาหลีเหนือยังจัดหาอาวุธให้รัฐบาลรัสเซียด้วย เช่น ปืนใหญ่วิถีโค้งอัตตาจรและเครื่องยิงจรวด เพื่อใช้ในสงครามที่ไร้เหตุอันสมควรนี้ ตามรายงานของเว็บไซต์เฟิร์สโพสต์ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มีรายงานว่ารัสเซียได้จ่ายเงินให้เกาหลีเหนือ 69,400 บาท (ประมาณ 2,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อทหารหนึ่งนายที่ส่งเข้าประจำการ พร้อมทั้งจัดหาเทคโนโลยีทางการทหารที่นักวิเคราะห์มองว่าอาจเพิ่มศักยภาพให้กับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ
พันธมิตรและหุ้นส่วนอย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ประณามการส่งกำลังพลของเกาหลีเหนือว่าเป็นการยกระดับความขัดแย้งครั้งใหญ่ ในช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน รัฐบาลสหรัฐฯ ได้อนุญาตให้ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่สหรัฐฯ จัดหาให้เป็นครั้งแรก เพื่อโจมตีเป้าหมายที่อยู่ลึกเข้าไปในรัสเซีย
“รัสเซียเป็นฝ่ายที่ยกระดับความขัดแย้งครั้งแล้วครั้งเล่ามาโดยตลอด” นายแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าว