การแพร่ขยายอาวุธเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

การฝึกซ้อมทิ้งระเบิดร่วมกันและการพัฒนาอาวุธยุทโธปกรณ์ขัดแย้งกับแถลงการณ์ของนายสีเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การฝึกซ้อมร่วมกันระหว่างรัฐบาลจีนและรัฐบาลรัสเซียที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ใกล้กับญี่ปุ่นในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ทำให้เกิดการประณามและตั้งคำถามต่อการกล่าวอ้างก่อนหน้านี้ของนายสี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ต่อต้านการแพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์

การฝึกซ้อมทางทหารที่เกิดขึ้นในทะเลจีนตะวันออกและทะเลญี่ปุ่นยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัสเซีย ซึ่งรัสเซียได้ข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์ในการทำสงครามที่ไม่มีเหตุยั่วยุกับยูเครน การแสดงถึงความกระหายสงครามนี้ยังเน้นย้ำถึงความขัดแย้งระหว่างจุดยืนของนายสีที่ต่อต้านอาวุธนิวเคลียร์กับการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ในอดีตในยุครัฐบาลของตน

หัวรบนิวเคลียร์ในคลังอาวุธของพรรคคอมมิวนิสต์จีนเพิ่มขึ้นจากประมาณ 200 หัวที่ใช้งานได้ใน พ.ศ. 2563 เป็นมากกว่า 500 หัว และคาดว่าจะเกิน 1,000 หัวภายใน พ.ศ. 2573 ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาใน พ.ศ. 2567

แม้ว่าอาวุธนิวเคลียร์ของพรรคคอมมิวนิสต์จีนจะตามหลังรัสเซียและสหรัฐฯ แต่รัฐบาลจีนยังไม่ตอบรับขอบเขตของการขยายอาวุธนี้ ไม่ประกาศเป้าหมายสุดท้าย หรือมีส่วนร่วมในการพูดคุยเรื่องการควบคุมอาวุธอย่างจริงจัง ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ

ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 นายสีได้ประณามอาวุธนิวเคลียร์ร่วมกับผู้นำโลกหลายคน รวมทั้งเรียกร้องให้นายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ทบทวนการคุกคามที่จะใช้หัวรบนิวเคลียร์กับยูเครนและขอให้ประชาคมโลก “ร่วมกันต่อต้านการใช้หรือการข่มขู่ว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์” ตามรายงานของสำนักข่าวที่ดำเนินการโดยภาครัฐของสาธารณรัฐประชาชนจีน

กว่าห้าปีก่อนหน้านั้น นายสีกล่าวไว้ว่า “อาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งเปรียบเสมือนดาบของดาโมเคลสที่แขวนอยู่เหนือมนุษยชาติ ไม่ควรนำมาใช้โดยเด็ดขาดและควรทำลายทิ้งเพื่อให้โลกปราศจากอาวุธนิวเคลียร์”

สนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ พ.ศ. 2511 มีจุดมุ่งหมายเพื่อป้องกันการแพร่ขยายอาวุธดังกล่าว สนับสนุนการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ และส่งเสริมการปลดอาวุธนิวเคลียร์ 191 ประเทศทั่วโลกได้ลงนามในสนธิสัญญานี้ รวมถึงจีน รัสเซีย และสหรัฐฯ

รัฐบาลจีนอ้างว่าการฝึกซ้อมร่วมกับรัฐบาลรัสเซียในช่วงสองวันซึ่งเป็นการฝึกซ้อมการบินด้วยเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ครั้งแรกของทั้งสองประเทศนั้นไม่ได้ “มุ่งเป้าไปยังประเทศที่สาม”

ทว่ารัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่าแม้การฝึกซ้อมจะไม่ได้ละเมิดน่านฟ้าของญี่ปุ่น แต่ถือว่าเป็นการคุกคามที่สมควรส่งเครื่องบินขับไล่ไปตรวจสอบเครื่องบินของพรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัสเซีย ส่วนเกาหลีใต้ก็ส่งเครื่องบินขับไล่เพื่อเป็นการป้องกันเช่นกัน ทะเลญี่ปุ่น ซึ่งเรียกอีกชื่อว่า ทะเลตะวันออก เป็นทะเลที่แยกญี่ปุ่นออกจากคาบสมุทรเกาหลี

ญี่ปุ่นได้วิจารณ์พรรคคอมมิวนิสต์จีนและรัสเซียเกี่ยวกับการแสดงอำนาจที่สร้างความกังวลอย่างมาก ตามรายงานของนิตยสารนิวส์วีค เครื่องบินขับไล่ เครื่องบินสอดแนม และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศได้บินร่วมกับเครื่องบินทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ เอช-6 ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน และเครื่องบินทิ้งระเบิด ทู-95 ของรัสเซีย ตามรายงานของเจ้าหน้าที่กลาโหมญี่ปุ่น

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button