การปรับปรุงพื้นที่ฝึกอบรมช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างออสเตรเลียและสิงคโปร์

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การยกระดับพื้นที่ฝึกอบรมทางทหารขนาดใหญ่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของออสเตรเลียจะช่วยรองรับบุคลากรจากกองทัพสิงคโปร์ได้หลายพันคนในแต่ละปี และถือเป็นก้าวสำคัญในความสัมพันธ์ด้านกลาโหมระหว่างสองประเทศที่มีมายาวนานหลายทศวรรษ เจ้าหน้าที่กล่าว

การปรับปรุงที่พื้นที่ฝึกอบรมอ่าวโชลวอเตอร์ รวมไปถึงพื้นที่ฝึกซ้อมทางอากาศและภาคพื้นดินร่วม สนามยิงปืนด้วยกระสุนจริงในเขตเมือง 2 แห่ง ซึ่งเป็นแห่งแรกในออสเตรเลีย สถานที่ทางการบริหารงานและการแพทย์ และค่ายที่พักซึ่งสามารถรองรับบุคลากรได้ถึง 2,000 คน ตามรายงานของกองทัพออสเตรเลีย

พื้นที่ฝึกอบรมที่ขยายขอบเขตในควีนส์แลนด์มีขนาดใหญ่กว่าประเทศสิงคโปร์ซึ่งมีพื้นที่ 720 ตารางกิโลเมตรถึงห้าเท่า นายเฮง ชี ห่าว รัฐมนตรีช่วยอาวุโสแห่งกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์ กล่าวในพิธีเฉลิมฉลองการเสร็จสิ้นโครงการในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 “นี่คือพื้นที่ฝึกอบรมคุณภาพสูงที่ช่วยให้ทั้งกองทัพสิงคโปร์และกองทัพออสเตรเลียสามารถฝึกฝนขีดความสามารถและความพร้อมในการปฏิบัติการได้อย่างเฉพาะเจาะจง” นายเฮงกล่าว ตามรายงานของข่าวประชาสัมพันธ์

นายเฮงกล่าวว่า โครงการพัฒนาร่วมกันนี้เป็น “อีกหนึ่งก้าวสำคัญทางประวัติศาสตร์” สำหรับกองทัพออสเตรเลียและกองทัพสิงคโปร์ “โครงการนี้สะท้อนถึงความไว้วางใจอันมั่นคงระหว่างสองประเทศ และช่วยยกระดับความสัมพันธ์ด้านกลาโหมทวิภาคี พร้อมทั้งเตรียมก้าวสู่การเฉลิมฉลองครบรอบ 60 ปีแห่งความสัมพันธ์ทางการทูต” ใน พ.ศ. 2568

เนื่องด้วยข้อจำกัดด้านพื้นที่ภาคพื้นดินและน่านฟ้าบนเกาะ สิงคโปร์จึงได้ร่วมมือกับประเทศเจ้าภาพอย่างออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกาในการจัดการฝึกซ้อมและฝึกอบรมทางทหาร เช่น กองทัพอากาศสาธารณรัฐสิงคโปร์มีหน่วยฝึกอบรมประจำการอยู่ในสหรัฐฯ จำนวนสามหน่วย ซึ่งรวมถึงเครื่องบินขับไล่ เอฟ-15 และ เอฟ-16 รวมทั้งเฮลิคอปเตอร์อาปาเช่ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสิงคโปร์

กองทัพสิงคโปร์ได้ใช้พื้นที่ฝึกซ้อมที่อ่าวโชลวอเตอร์มายาวนานถึง 34 ปี โดยโครงสร้างพื้นฐานใหม่ช่วยให้บุคลากรสิงคโปร์มากถึง 6,600 นายสามารถปฏิบัติภารกิจฝึกซ้อมได้นานถึงเก้าสัปดาห์ต่อปี จากเดิมที่ใช้เวลาเพียง 45 วัน เจ้าหน้าที่กล่าว

พิธีเปิดจัดขึ้นในขณะที่พื้นที่ฝึกอบรมรองรับทหารอากาศ ทหารเรือ และทหารบกจากออสเตรเลียและสิงคโปร์ รวมประมาณ 2,000 นาย สำหรับการฝึกซ้อมไทรเดนต์ที่จัดขึ้นทุกสองปี การฝึกซ้อมประกอบด้วยปฏิบัติการรบทางอากาศ ริมชายฝั่ง และในเขตเมือง พร้อมทั้งผสานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการทำงานร่วมกันของอากาศยานไร้คนขับและการทดลองร่วมกัน

ทั้งสองกองทัพยังคง “พัฒนาความซับซ้อนและความก้าวหน้าของการฝึกซ้อมและกิจกรรมที่ทำร่วมกัน” นายเกร็ก มอริอาร์ตี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “เราตระหนักถึงและเห็นคุณค่าของการสนับสนุนในการฝึกอบรมระหว่างกัน โดยการเข้าถึงนี้ช่วยยกระดับความสามารถในการเสริมสร้างความมั่นคงของเรา และส่งเสริมผลประโยชน์ร่วมกันในการรักษาเสถียรภาพในภูมิภาค”

ในช่วงต้นเดือนธันวาคม พ.ศ. 2567 ทั้งสองประเทศได้ประกาศแผนขยายการเข้าถึงสถานที่ทางกลาโหมของแต่ละฝ่าย รวมถึงการเยือนของบุคลากรออสเตรเลียไปยังฐานทัพอากาศและฐานทัพเรือของสิงคโปร์ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

“นี่ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ที่กว้างขวางและมีลักษณะพิเศษเฉพาะอยู่แล้วไปข้างหน้า” นายริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย กล่าว