มาเลเซียและเกาหลีใต้เสริมความสัมพันธ์ด้านอุตสาหกรรมกลาโหม
รอยเตอร์
มาเลเซียและเกาหลีใต้ตกลงที่จะร่วมมือกันในการจัดหาแร่ธาตุที่สำคัญจากแหล่งแร่สำรองของมาเลเซีย และเสริมสร้างความร่วมมือในอุตสาหกรรมกลาโหม ขณะที่มาเลเซียมุ่งพัฒนาเครื่องบินรบของกองทัพอากาศของตน
นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ยืนยันความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศที่จะบรรลุข้อตกลงการค้าเสรีภายใน พ.ศ. 2568 ตามแถลงการณ์จากสำนักงานของนายยุน
รัฐบาลเกาหลีใต้เชิญชวนให้รัฐบาลมาเลเซียแสดงความสนใจอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากมาเลเซียเริ่มโครงการเปลี่ยนเครื่องบินขับไล่น้ำหนักเบา ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากสัญญาใน พ.ศ. 2566 สำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ 18 ลำ มูลค่า 3.16 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 920 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามคำแถลงการณ์
ในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมสุดยอดเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ที่กรุงโซล ผู้นำทั้งสองประเทศให้คำมั่นที่จะขยายขอบเขตความร่วมมือในหลากหลายด้าน เนื่องในโอกาสครบรอบ 65 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตของมาเลเซียและเกาหลีใต้
“ผมหวังว่าความร่วมมือทวิภาคีจะขยายไปไกลกว่าการค้า การลงทุน และการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้คน โดยขยายไปจนครอบคลุมถึงด้านกลาโหม อุตสาหกรรมอาวุธ และด้านใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ไฮโดรเจนสีเขียวและแร่ธาตุที่สำคัญ” นายยุนกล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวยอนฮัป
นายอันวาร์ระบุถึงความร่วมมือในด้านใหม่ ๆ รวมถึงปัญญาประดิษฐ์ เทคโนโลยีดิจิทัล ตลอดจนความมั่นคงในภูมิภาค อุตสาหกรรมกลาโหม และความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
นายอันวาร์และนายยุนเน้นย้ำว่าความร่วมมือในอุตสาหกรรมกลาโหมเป็น “สัญลักษณ์ของความไว้วางใจซึ่งกันและกัน” ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสองประเทศ และตกลงที่จะผลักดันความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงเทคโนโลยีกลาโหม ตามแถลงการณ์จากสำนักงานของนายยุน
มาเลเซียและเกาหลีใต้ยังเห็นพ้องที่จะจัดตั้งรากฐานเชิงสถาบันเพื่อความร่วมมือในประเด็นด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมถึงโครงการดักจับและกักเก็บคาร์บอนที่ลงนามไปก่อนหน้านี้ ซึ่งมีกำหนดเปิดตัวใน พ.ศ. 2572
ผู้นำของมาเลเซียและเกาหลีใต้ยังแสดงความกังวลต่อความร่วมมือทางทหารที่แน่นแฟ้นขึ้นระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย พร้อมประณามการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวของเกาหลีเหนือ
พวกเขาเรียกร้องให้รัฐบาลเกาหลีเหนืองดเว้นการกระทำการเชิงยั่วยุเพิ่มเติม ปฏิบัติตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และมุ่งมั่นต่อ “การปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ตรวจสอบได้ และไม่สามารถย้อนกลับคืนได้” ของเกาหลีเหนือ