ภารกิจสันถวไมตรีของกองทัพเรืออินโดนีเซียช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์กับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้

กัสดี ดา คอสตา

อินโดนีเซียได้เริ่มต้นโครงการทางการทูตเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับประเทศหมู่เกาะแปซิฟิกใต้ผ่านการเดินทางเพื่อสันถวไมตรีทางเรือเป็นเวลา 48 วัน เรือพยาบาล เคอาร์ไอ ดร. วาฮิดิน ซูดีโรฮูโซโด-991 ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของกองทัพเรืออินโดนีเซีย ได้ออกเดินทางในช่วงต้นเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 มุ่งหน้าสู่ฟิจิ ปาปัวนิวกินี หมู่เกาะโซโลมอน และวานูอาตู การส่งเรือไปปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอินโดนีเซียในการรักษาเสถียรภาพและความร่วมมือในภูมิภาค อีกทั้งยังแสดงถึงศักยภาพของกองทัพเรือและการสนับสนุนด้านมนุษยธรรมที่กำลังเติบโตของอินโดนีเซีย

นี่เป็นครั้งแรกที่อินโดนีเซียปฏิบัติภารกิจนี้โดยมุ่งสู่หมู่เกาะแปซิฟิกใต้ และยังเป็นโอกาสที่จะได้แสดงศักยภาพของเรือพยาบาลซึ่งเปิดตัวครั้งแรกใน พ.ศ. 2565 เรือลำนี้ตั้งชื่อตามวีรบุรุษผู้บุกเบิกของชาติ และมีอุปกรณ์สำหรับการบริการทางการแพทย์ต่าง ๆ เช่น การผ่าตัดขนาดเล็กและการดูแลทางการแพทย์ทั่วไป ภารกิจนี้ยังถือเป็นการทดสอบสมรรถนะของเรืออีกด้วย พล.ร.อ. เดนิห์ เฮนดราตา ผู้บัญชาการกองเรืออินโดนีเซีย กล่าวในพิธีปล่อยเรือ

ในกลุ่มลูกเรือเกือบ 180 คนนั้นประกอบไปด้วยบุคลากรทางการแพทย์ นักดำน้ำ ทีมรักษาความปลอดภัย รวมถึงนักเรียนจากจังหวัดปาปัวของอินโดนีเซีย ตามแถลงการณ์ของกองทัพอินโดนีเซีย ระหว่างการแวะเทียบท่า เจ้าหน้าที่ทางการแพทย์จะจ่ายยารักษาโรคต่าง ๆ ให้กับผู้ป่วย เช่น ความดันโลหิตสูง การติดเชื้อทางผิวหนัง และโรคหอบหืด นอกจากนี้ ลูกเรือยังได้ทำการตรวจสุขภาพช่องปากและสายตา การสร้างสัมพันธ์กับชุมชน และการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐาน

การเดินทางครั้งนี้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลอินโดนีเซียในการส่งเสริมสันติภาพและความร่วมมือ มาร์เซลลัส ฮาเคง จายาวิบาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือและกัปตันเรือพาณิชย์ของอินโดนีเซีย กล่าวกับ ฟอรัม “ภารกิจนี้แสดงให้เห็นถึงหลักการ ‘เสรีภาพและความกระตือรือร้น’ ของอินโดนีเซีย ซึ่งอินโดนีเซียมีส่วนร่วมในการรักษาเสถียรภาพของภูมิภาคโดยไม่ฝักใฝ่อำนาจฝ่ายใดของโลก” จายาวิบาวากล่าว โดยเสริมว่าภารกิจนี้ยังสนับสนุนการมีส่วนร่วมของอินโดนีเซียในองค์กรระดับภูมิภาค เช่น การประชุมหมู่เกาะแปซิฟิก ซึ่งมีสมาชิกทั้งหมด 18 ประเทศ

จายาวิบาวาเน้นย้ำถึงความสำคัญของการที่อินโดนีเซียมีบทบาทเชิงยุทธศาสตร์ในภูมิภาคแปซิฟิกใต้ท่ามกลางการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น อินโดนีเซียใช้การทูตทางทะเลเพื่อส่งสัญญาณถึงความเป็นกลาง และมุ่งเน้นไปที่การสนับสนุนด้านมนุษยธรรม “อินโดนีเซียกำลังส่งเสริมบทบาทของตนในฐานะผู้มีบทบาทหลักในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก โดยมุ่งสร้างระเบียบระดับภูมิภาคที่ครอบคลุมและมุ่งเน้นสันติภาพ” จายาวิบาวากล่าว

นอกเหนือจากการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีแล้ว ภารกิจนี้ยังมุ่งแก้ปัญหาด้านสุขภาพที่เร่งด่วนหลายประการ มีประเทศรวมทั้งฟิจิและปาปัวนิวกินีที่ต้องเผชิญกับโรคติดต่อ เช่น มาลาเรีย วัณโรค และไข้เลือดออก ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานด้านการดูแลสุขภาพที่มีอยู่อย่างจำกัด “เรือลำนี้นำยารักษาโรค อุปกรณ์ทางการแพทย์ และเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการดูแลโดยตรง รวมถึงการฝึกอบรมบุคลากรด้านการดูแลสุขภาพในท้องถิ่น” จายาวีบาวากล่าว

การเดินทางไปปฏิบัติการครั้งนี้ยังสนับสนุนเป้าหมายของอินโดนีเซียในการเป็นศูนย์กลางทางทะเลระดับโลก นายโซเลมาน ปอนโต อดีตหัวหน้าหน่วยข่าวกรองยุทธศาสตร์ของกองทัพอินโดนีเซีย กล่าวกับ ฟอรัม ด้วยการส่งมอบความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับประชาชนต่อประชาชน อินโดนีเซียได้เสริมสร้างภาพลักษณ์ของตนเองในฐานะประเทศที่มีสันติภาพและพร้อมให้ความร่วมมือ

“การเข้าไปมีบทบาทของของอินโดนีเซียในแปซิฟิกใต้แสดงให้เห็นว่าเราคือประเทศอธิปไตยที่มุ่งมั่นต่อสันติภาพและเสถียรภาพของภูมิภาค” นายปอนโตกล่าว

กัสดี ดา คอสตา เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย