การส่งกองกำลังของเกาหลีเหนือไปช่วยรัสเซียต้องเผชิญกับการถูกประณามและเกิดข้อกังขา
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
การส่งทหารหลายพันนายของรัฐบาลเกาหลีเหนือไปช่วยรัสเซียในการทำสงครามอย่างผิดกฎหมายกับยูเครน เป็นสัญญาณให้เห็นถึง “ความสิ้นหวังของรัสเซีย” ตามรายงานของเจ้าหน้าที่และนักวิเคราะห์ด้านกลาโหม
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าวเพียงแค่ดึงความสนใจไปที่เศรษฐกิจที่กำลังตกต่ำของรัสเซียและความพยายามทางการทหารที่ล้มเหลวของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย นายมาร์ก รุตเต้ เลขาธิการองค์การนาโต เรียกการส่งทหารดังกล่าวในทันทีว่าเป็นสัญญาณของ “ความสิ้นหวังที่เพิ่มขึ้น” ของนายปูติน
สหรัฐอเมริการวมทั้งพันธมิตรและหุ้นส่วนจากหลายประเทศ รวมถึงญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการเพิ่มความตึงเครียดครั้งใหญ่และเป็นอันตรายต่อสงครามซึ่งเข้าสู่ปีที่สามแล้ว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เนื่องจากทหารรัสเซียประมาณ 1,200 นายเสียชีวิตทุกวัน และทหารของเกาหลีเหนือส่วนใหญ่ขาดประสบการณ์ กองกำลังของเกาหลีเหนือจํานวนเพียงเล็กน้อยที่ส่งไปยังรัสเซียจึงแทบจะไม่ช่วยภารกิจของนายปูตินเลย
“ทหารพวกนั้นยังเด็กเกินไปและคงจะไม่เข้าใจว่าหมายถึงอะไร พวกเขาจะคิดว่าเป็นเกียรติที่ได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในทหารที่ไปร่วมรบที่รัสเซีย” นายลี อุงกิล อดีตสมาชิกหน่วยที่ส่งไป ซึ่งได้รับการชื่นชมว่าเป็นกลุ่มหน่วยปฏิบัติการพิเศษ กล่าวกับดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส เขาแปรพักตร์ไปเกาหลีใต้ใน พ.ศ. 2550 “แต่ผมคิดว่าทหารส่วนใหญ่คงไม่ได้กลับบ้านอย่างปลอดภัย”
ด้วยสถานการณ์ที่ยากลำบากกว่านั้น กองกำลังเกาหลีเหนือไม่ได้รับการฝึกฝนร่วมกับกองกำลังรัสเซียอย่างเป็นทางการ กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรระบุ โดยชี้ให้เห็นว่า “กองกำลังจะต้องเผชิญกับความยากลำบากในการทำงานร่วมกัน เนื่องจากไม่ได้ทำการซ้อมรบร่วมกันมาก่อน”
จนถึงปัจจุบัน เกาหลีเหนือได้ให้คำมั่นว่าจะส่งทหาร 12,000 นายไปยังรัสเซีย โดยมีรายงานว่ามีประมาณ 8,000 นายที่ฝึกซ้อมในเขตคูร์สของรัสเซีย ซึ่งจำนวนนี้มีความใกล้เคียงกับจำนวนทหารรัสเซียที่เสียชีวิตในแนวหน้าเป็นประจำทุกสัปดาห์ ตามรายงานในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567 ของสถาบันศึกษาสงคราม ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยในสหรัฐฯ
รายงานดังกล่าวระบุว่าทหารเกาหลีเหนืออาจประสบอัตราการสูญเสียสูงในสงคราม ภายใต้ข้อตกลงด้านกลาโหมล่าสุด เกาหลีเหนือยังได้จัดหายุทโธปกรณ์และจรวดให้กับรัสเซีย
นายคิม จอง อึน ผู้นำเผด็จการของเกาหลีเหนือ “กำลังเสี่ยงอย่างมาก หากไม่มีจำนวนผู้เสียชีวิตมากมาย เขาจะได้รับสิ่งที่ต้องการในระดับหนึ่ง แต่หากมีทหารของเขาเสียชีวิตในการต่อสู้เป็นจำนวนมาก สถานการณ์จะเปลี่ยนไปอย่างมาก” นายอัน ชานอิล อดีตร้อยโทประจำกองทัพบกเกาหลีเหนือที่ปัจจุบันเป็นผู้อำนวยการสถาบันวิจัยเพื่อการศึกษาเกาหลีเหนือในกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กล่าวกับดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
ในขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนไม่พอใจที่เกาหลีเหนือส่งทหารไปยังแนวหน้าในรัสเซีย เนื่องจาก “ก่อให้เกิดความเสี่ยงใหม่สำหรับจีนและทดสอบขีดจำกัดในการมีอิทธิพลต่อเพื่อนบ้านที่มีอาวุธนิวเคลียร์” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์เดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล
“ความกังวลหลักสำหรับรัฐบาลจีนคือบทบาทการต่อสู้ของเกาหลีเหนืออาจจุดชนวนให้เกิดความร่วมมือทางการทหารที่มากขึ้นระหว่างสหรัฐฯ ยุโรปตะวันตก และพันธมิตรในเอเชียแปซิฟิก” ตามรายงานของหนังสือพิมพ์
“จีนกำลังเผชิญหน้ากับความจริงว่า กำลังสูญเสียอิทธิพลเหนือรัฐบาลเกาหลีเหนือ ขณะที่รัสเซียกำลังเพิ่มอิทธิพลขึ้น” นายเอริค บอลบาค นักวิจัยจากมูลนิธิเกาหลีที่สถาบันเยอรมนีเพื่อกิจการระหว่างประเทศและความมั่นคง กล่าวกับหนังสือพิมพ์
การส่งกำลังทหารของเกาหลีเหนืออาจกระตุ้นให้เกาหลีใต้เปลี่ยนแปลงนโยบายและให้ความช่วยเหลือทางทหารกับยูเครน
“เกาหลีใต้ได้ส่งสัญญาณถึงความพร้อมในการเพิ่มการสนับสนุนต่อยูเครนท่ามกลางรายงานข่าวกรองที่ต่อเนื่องจากยูเครนเกี่ยวกับการส่งกำลังทหารเกาหลีเหนือใกล้ชายแดนรัสเซียกับยูเครน” รายงานล่าสุดของสถาบันศึกษาสงครามระบุ โดยอ้างถึงคำแถลงการณ์ของนายโช แทยูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเกาหลีใต้