การจัดตั้งกองกำลังป้องกันในภูมิภาคโอเชียเนียยิ่งย้ำถึงการพัฒนาความสามารถในการทำงานร่วมกันที่เติบโตขึ้น
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นหลายครั้งในประวัติศาสตร์ช่วยผลักดันให้เกิดโครงการริเริ่มต่าง ๆ ที่มุ่งเสริมสร้างความสามารถในการทำงานร่วมกันระหว่างพันธมิตรและหุ้นส่วน ขณะที่กองกำลังป้องกันในภูมิภาคโอเชียเนียเดินหน้าเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของชาติ
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 พล.ต. ฮิวจ์ แมกอัสลัน แห่งกองทัพนิวซีแลนด์ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการร่วมของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตำแหน่งระดับสูงสุดของเจ้าหน้าที่ทหารต่างชาติในกองทัพออสเตรเลีย ตามรายงานในข่าวประชาสัมพันธ์
ประกาศดังกล่าวเป็นการตอบแทนการแต่งตั้งในช่วงกลาง พ.ศ. 2567 ของ พล.จ. ไมเคิล แบสซิงธไวต์ แห่งกองทัพบกออสเตรเลีย ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลียคนแรกที่ได้รับตำแหน่งรองผู้บัญชาการกองกำลังร่วมของนิวซีแลนด์
การดำเนินการเหล่านี้เป็นผลมาจาก “ความร่วมมือทางทหารอย่างใกล้ชิดเป็นเวลากว่าศตวรรษ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก” พล.ร.ท. จัสติน โจนส์ ผู้บัญชาการฝ่ายปฏิบัติการร่วม กล่าวในแถลงการณ์ “การนำเจ้าหน้าที่ทหารระดับสูงของออสเตรเลียและนิวซีแลนด์มาเข้าร่วมในกองกำลังป้องกันของกันและกัน ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการยกระดับความสามารถในการทำงานร่วมกัน และเพิ่มขีดความสามารถในปฏิบัติการร่วม”
เส้นทางอาชีพทหาร 35 ปีของ พล.ต. แมกอัสลัน นั้นเต็มไปด้วยความร่วมมือกับเพื่อนร่วมงานชาวออสเตรเลียอย่างใกล้ชิดตลอดมา “ประสบการณ์การทำงานของผมร่วมกับกองทัพออสเตรเลียในปฏิบัติการต่าง ๆ ทั่วโลก รวมถึงในอิรักและติมอร์-เลสเต การมีส่วนร่วมในชุมชนข่าวกรองเชิงยุทธศาสตร์ และการทำงานในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการรับหน้าที่ใหม่ครั้งนี้” พล.ต. แมกอัสลันกล่าวในแถลงการณ์
การแต่งตั้งนี้ “มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างและเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับความไว้วางใจและมิตรภาพที่เรามีกับพันธมิตรชาวออสเตรเลียในระดับสูง” พล.อ.ท. โทนี เดวิส ผู้บัญชาการกองทัพนิวซีแลนด์ กล่าว “เรายังคงร่วมมือกันอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองที่เรามีอยู่ในภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิกในปัจจุบัน”
“ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์เป็นพันธมิตรตามสนธิสัญญามานานกว่า 70 ปี และทั้งสองประเทศมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพันธมิตรเพื่อรับมือกับความท้าทายทางภูมิยุทธศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงไป” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศของประเทศต่าง ๆ แถลงภายหลังการประชุมเมื่อต้น พ.ศ. 2567 ทั้งสองประเทศแสดง “ความกังวลอย่างยิ่ง” ต่อกิจกรรมที่บั่นทอนความมั่นคงในทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ ซึ่งกองทัพของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ดำเนินปฏิบัติการที่เสี่ยงอันตรายและรุกล้ำอาณาเขตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ รัฐมนตรีจากทั้งสองประเทศยังได้ยึดมั่นในจุดยืนของประเทศของตนที่คัดค้านการเปลี่ยนแปลงสถานภาพที่เป็นอยู่แต่เพียงฝ่ายเดียว ท่ามกลางภัยคุกคามของรัฐบาลจีนที่จะใช้กำลังเข้ายึดครองไต้หวัน
ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 บุคลากรจากออสเตรเลียและนิวซีแลนด์กว่า 1,500 คน ได้ฝึกซ้อมร่วมกันในภารกิจการฝึก ไดมอนด์รัน ที่พื้นที่ฝึกซ้อมอ่าวโชลวอเทอร์ของกองทัพออสเตรเลียในรัฐควีนส์แลนด์ กองทัพออสเตรเลียระบุว่า การซ้อมรบประกอบด้วยปฏิบัติการในเมือง ปฏิบัติการในหลุมขุด ปฏิบัติการส่งกำลังพลทางอากาศ การป้องกันการใช้อาวุธเคมี และการจัดส่งเสบียงทางภาคพื้นดินและทางทะเล
พล.จ. แบสซิงธไวต์ ได้เข้าประจำการที่กองทัพนิวซีแลนด์ในการฝึกอบรมร่วมที่อิรัก และในฐานะส่วนหนึ่งของภารกิจรักษาสันติภาพระหว่างประเทศในติมอร์-เลสเต “ประวัติความร่วมมือที่ยาวนานระหว่างกองทัพนิวซีแลนด์และกองทัพออสเตรเลียทำให้การแลกเปลี่ยนบุคลากรระหว่างกันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติ” พล.จ. แบสซิงธไวต์กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์
นอกจากนี้ กองทัพออสเตรเลียยังได้ขยายความร่วมมือกับกองทัพปาปัวนิวกินีอีกด้วย ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 พ.ท. โบนิเฟส อารุมะ แห่งกองทัพปาปัวนิวกินี ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองผู้บัญชาการกองพลน้อยที่ 3 ของกองทัพบกออสเตรเลีย ขณะเดียวกัน สมาชิกสองคนจากกองทัพปาปัวนิวกินีเพิ่งได้เป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศกลุ่มแรกจากหลักสูตรเจ้าหน้าที่ฝึกหัดเบื้องต้นของโรงเรียนนายทหารแห่งกองทัพออสเตรเลีย
“ซึ่งมีความสำคัญเนื่องจากหลักสูตรดังกล่าวเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของเราและกองกำลังป้องกัน” พ.อ. เซียเล ดิโร ฝ่ายประสานงานด้านกลาโหมของปาปัวนิวกินีประจำออสเตรเลีย กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “สิ่งนี้เป็นรากฐานสำคัญของทุกอย่าง ทั้งเห็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ การเรียนรู้ร่วมกันในค่านิยม วิธีคิด และทักษะต่าง ๆ รวมถึงการสร้างมิตรภาพที่ยั่งยืนตลอดชีวิต”