ในการฝึกมาลาบาร์ พ.ศ. 2567 ประเทศสมาชิกควอดได้ร่วมกันส่งเสริมระเบียบทางทะเลเพื่อภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ในช่วงกลางเดือนตุลาคม กองกำลังทางทะเลของออสเตรเลีย อินเดีย ญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้ปิดฉากการฝึกมาลาบาร์ พ.ศ. 2567 ด้วยการซ้อมรบในอ่าวเบงกอลเพื่อส่งเสริมการวางแผนร่วมกันและบูรณาการยุทธวิธีการสงครามขั้นสูงของพันธมิตรและหุ้นส่วน ซึ่งมีเป้าหมายในการรับรองถึงภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง

การฝึกซ้อมครั้งที่ 28 นี้เป็นการฝึกที่ครอบคลุมทั้งในขอบเขตของผิวน้ำ ใต้ผิวน้ำ อากาศ และข้อมูล โดยมีเรือเข้าร่วมทั้งหมด 8 ลำ และเครื่องบิน 12 ลำ การฝึกมาลาบาร์เริ่มขึ้นใน พ.ศ. 2535 ในฐานะการฝึกทวิภาคีระหว่างอินเดียและสหรัฐฯ ก่อนที่จะขยายความซับซ้อนและขนาดเมื่อออสเตรเลียและญี่ปุ่นเข้าร่วมในภายหลัง นับเป็นครั้งที่ห้าที่สมาชิกทั้งสี่ประเทศในการเจรจาความมั่นคงจตุภาคี หรือ ควอด ได้เข้าร่วมการฝึกนี้ด้วยกัน

“การฝึกมาลาบาร์ พ.ศ. 2567 ตอกย้ำความมุ่งมั่นของกองทัพเรืออินเดียที่มีต่อความมั่นคงทางทะเลและความร่วมมือระหว่างประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกันในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” พล.ร.ท. ราเจช เพนธาการ์ จากกองทัพเรืออินเดีย ซึ่งเป็นผู้บัญชาการแห่งกองบัญชาการกองทัพเรือภาคตะวันออก กล่าวในพิธีเปิด “ความพยายามร่วมของเรามุ่งเสริมสร้างความร่วมมือและความสัมพันธ์อันเป็นมิตรให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น พวกเราต่างมุ่งมั่นในการรักษาค่านิยมที่มีร่วมกันเพื่อบรรลุสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค”

การฝึกซ้อมนี้มุ่งเน้นที่การยกระดับความร่วมมือและขีดความสามารถในการปฏิบัติการ รวมถึงการหารือของผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการปฏิบัติการพิเศษ สงครามผิวน้ำ สงครามทางอากาศ และสงครามต่อต้านเรือดำน้ำ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมอินเดีย การซ้อมรบเน้นย้ำถึงขอบเขตในการเฝ้าระวังทางทะเล

สินทรัพย์ที่เข้าร่วม ได้แก่ เรือฟริเกต เอชเอ็มเอเอส สจ๊วต ชั้นอันแซก ของกองทัพเรือออสเตรเลีย เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล พี-8เอ โพไซดอน ของกองทัพอากาศออสเตรเลีย เรือพิฆาต ไอเอ็นเอส เดลี เรือฟริเกต ไอเอ็นเอส ทาบาร์ เรือลาดตระเวน ไอเอ็นเอส คามอร์ตา และ ไอเอ็นเอส เกดแมต รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมัน ไอเอ็นเอส ชัคตี ตลอดจนเรือดำน้ำและเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล พี-8ไอ ของกองทัพเรืออินเดีย กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้ส่งเรือพิฆาตชั้นมูราซาเมะ เจเอส อาริอาเกะ เข้าร่วม ในขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งเครื่องบิน พี-8 โพไซดอน และเรือพิฆาตติดตั้งจรวดนำวิถีชั้นอาร์ไลห์ เบิร์ก ยูเอสเอส ดีเวย์ รวมถึงกองเรือพิฆาตที่ 15 ร่วมฝึกด้วย นอกจากนี้ หน่วยปฏิบัติการพิเศษจากทั้ง 4 ประเทศเองก็ได้เข้าร่วมด้วย

“ผมรู้สึกตื่นเต้นที่ได้เข้าร่วมการฝึกนี้กับพันธมิตรของเรา ขณะที่กองทัพเรือของเราฝึกอบรมร่วมกันในมหาสมุทรอินเดีย เพื่อเสริมสร้างความพร้อมรบ การบูรณาการทางทะเล และการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ” พล.ร.อ. สตีฟ โคห์เลอร์ ผู้บัญชาการกองเรือภาคพื้นแปซิฟิกของกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “การฝึกมาลาบาร์เป็นตัวอย่างอันยอดเยี่ยมของการทำงานร่วมกันในทีมกองกำลังผสม ซึ่งมุ่งหวังที่จะป้องกันความขัดแย้งและเสริมสร้างความมุ่งมั่นร่วมกันของเราเพื่อภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง”

นอกจากนี้ การฝึกมาลาบาร์ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของกลุ่มควอดในการปกป้องเส้นทางการคมนาคมทางทะเลท่ามกลางความก้าวร้าวที่เพิ่มขึ้นของสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมถึงยุทธวิธีที่ผิดกฎหมายและการกระทำที่บีบบังคับ ก้าวร้าว และหลอกลวงในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ และยังอ้างว่าพื้นที่บางส่วนของทะเลจีนตะวันออกเป็นอาณาเขตของตน แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะมีญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ ที่ทำการอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่ก็ตาม ใน พ.ศ. 2559 ศาลระหว่างประเทศตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ในดินแดนของรัฐบาลจีนในทะเลจีนใต้ไม่อยู่บนพื้นฐานทางกฎหมาย แต่จีนได้เมินเฉยต่อการตัดสินดังกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์ทางทะเลกล่าวว่า การฝึกมาลาบาร์สะท้อนถึงโครงการริเริ่มของควอดในการสร้างความไว้วางใจระหว่างประเทศหุ้นส่วนและขยายความซับซ้อนของการฝึกซ้อมเพื่อพัฒนาการทำงานร่วมกันด้านปฏิบัติการ นายชรูติ ปันดาไล นักวิจัยแห่งสถาบัน สถาบันมาโนฮาร์พาร์ริการ์เพื่อการศึกษาและวิเคราะห์ด้านกลาโหมในกรุงนิวเดลี กล่าว

“หากเป้าหมายคือเพื่อป้องปรามความเสี่ยงที่เกิดจากจีน จำกัดอิทธิพลที่เป็นปฏิปักษ์ และสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อทะเลที่เสรีและเปิดกว้าง การพัฒนาความสามารถทางทะเลร่วมกันในภูมิภาคจึงเป็นสิ่งที่ประเทศทั้งสี่มุ่งหวัง” นายพันดาไลเขียนในนิตยสารเดอะ ดิโพลแมต เดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 “การฝึกมาลาบาร์เป็นย่างก้าวที่สำคัญในการบรรลุเป้าหมายดังกล่าว”

ญี่ปุ่นเข้าร่วมการฝึกมาลาบาร์ครั้งแรกใน พ.ศ. 2550 และ พล.ร.ท. คัตสึชิ โอมาจิ ชื่นชมความร่วมมือที่เพิ่มขึ้นระหว่างประเทศสมาชิกควอด

“ผมเชื่อว่าการฝึกมาลาบาร์จะช่วยเสริมสร้างสันติภาพและเสถียรภาพ ตลอดจนระเบียบทางทะเลที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกา ซึ่งจะนำไปสู่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” พล.ร.ท. โอมาจิกล่าว “ในปัจจุบัน ความร่วมมือระหว่างญี่ปุ่น สหรัฐฯ อินเดีย และออสเตรเลียเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิม และผมคาดหวังว่าความสัมพันธ์ระดับพหุภาคีระหว่างกองทัพเรือจะยิ่งแน่นแฟ้นมากขึ้นไปอีก”