ฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้เสริมสร้างความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์
ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
ฟิลิปปินส์และเกาหลีใต้ ซึ่งต่างก็เผชิญกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีท่าทีเป็นศัตรูมากขึ้น ได้ยกระดับความสัมพันธ์เป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ โดยรวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือด้านกลาโหมและความมั่นคงอย่างแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ และนายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้ประกาศยกระดับความสัมพันธ์หลังจากการพูดคุยในกรุงมะนิลาเมื่อเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567
ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ พันธมิตรภายใต้สนธิสัญญาสหรัฐฯ ทั้งสองประเทศตกลงที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกองกำลังรักษาชายฝั่งของตน นายยุนยังได้ให้คำมั่นว่าจะสนับสนุนการปรับปรุงกองทัพฟิลิปปินส์ให้ทันสมัยอีกด้วย
นายมาร์กอสและนายยุนได้หารือเกี่ยวกับข้อพิพาทด้านดินแดนในทะเลจีนใต้และความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี
นายมาร์กอสกล่าวว่า “เมื่อสภาพแวดล้อมทางภูมิรัฐศาสตร์มีความซับซ้อนมากขึ้น เราจึงต้องร่วมมือกันเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของประชาชน และส่งเสริมระเบียบที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานของกติกาที่ควบคุมโดยกฎหมายระหว่างประเทศ”
เรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้ใช้ปืนฉีดน้ำแรงดันสูงและดำเนินการเดินเรืออย่างไม่ปลอดภัยต่อเรือฟิลิปปินส์ในทะเลจีนใต้หลายครั้ง ส่งผลให้ทหารเรือฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บและเรือขนส่งเกิดความเสียหาย ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2567 รัฐบาลฟิลิปปินส์ได้กล่าวหาว่าเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือของรัฐบาลฟิลิปปินส์ ขณะกำลังส่งเสบียงให้ชาวประมงที่สันดอนแห่งหนึ่งในน่านน้ำที่มีข้อพิพาท ตามรายงานของรอยเตอร์
นายยุนได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของสันติภาพและเสถียรภาพในทะเลจีนใต้ โดยระบุว่าเขาและนายมาร์กอส “ยืนยันว่าชุมชนระหว่างประเทศจะไม่มีวันยอมรับโครงการนิวเคลียร์และการยั่วยุที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของเกาหลีเหนือ รวมถึงความร่วมมือทางทหารที่ไม่ชอบธรรมกับรัสเซีย”
นายยุนกล่าวว่า การเปิดเผยเกี่ยวกับโรงงานนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเมื่อไม่นานมานี้น่าจะเป็นความพยายามที่จะดึงความสนใจ ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2567
ฟิลิปปินส์เป็นจุดหมายแรกจากการเดินทางเป็นเวลา 6 วันของนายยุนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งรวมถึงการเยือนสิงคโปร์และลาว โดยนายยุนมีกำหนดเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียนที่ลาวด้วย