การซ้อมรบทางทหารโดยไม่แจ้งล่วงหน้าของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่บริเวณรอบเกาะไต้หวันก่อให้เกิดการประณามจากนานาชาติ
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม รายงานข่าวภายนอก
กองกำลังของพรรคคอมมิวนิสต์จีนได้ส่งเครื่องบิน 153 ลำในการซ้อมรบทางทหารเมื่อกลางเดือนตุลาคม พ.ศ. 2567 รอบเกาะไต้หวันที่ปกครองตนเอง ไต้หวันระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าวเป็นอันตรายต่อความมั่นคงในภูมิภาค และดำเนินการโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า
พรรคคอมมิวนิสต์จีนกล่าวว่า การซ้อมรบที่เกิดขึ้นภายในวันเดียวโดยไม่มีการแจ้งล่วงนี้นี้เป็นการเตือนถึง “การกระทำแบ่งแยกดินแดน” ซึ่งเป็นการซ้อมรบที่จัดขึ้นหลังจากมีการกล่าวสุนทรพจน์ของนายไล่ ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีไต้หวัน ไปเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ รัฐบาลจีนอ้างว่าไต้หวันเป็นดินแดนของตน และข่มขู่ที่จะผนวกรวมเกาะนี้โดยใช้กำลัง ขณะที่รัฐบาลไต้หวันยืนยันว่า มีเพียงประชาชนของไต้หวันเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์ตัดสินอนาคตของตนเอง
“การซ้อมรบใด ๆ ก็ตามที่ไม่มีการแจ้งล่วงหน้าจะก่อให้เกิดความไม่สงบต่อสันติภาพและเสถียรภาพทั่วทั้งภูมิภาค” นายโช จุงไท นายกรัฐมนตรีไต้หวัน กล่าว “การซ้อมรบของจีนไม่เพียงกระทบกับเพื่อนบ้านของไต้หวัน แต่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสิทธิในการเดินทางระหว่างประเทศและพื้นที่ทางอากาศและทางทะเล และยังดึงดูดความสนใจจากประเทศอื่น ๆ ด้วย”
กระทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า มีเครื่องบินของพรรคคอมมิวนิสต์จีน 28 ลำได้บินข้ามเส้นแบ่งกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นเส้นแบ่งพรมแดนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่ รัฐบาลจีนไม่ยอมรับเส้นแบ่งนี้
นอกจากนี้ พรรคคอมมิวนิสต์จีนยังได้จัดการซ้อมรบทางทหารนอกชายฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ของไต้หวัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของฐานทัพอากาศที่สำคัญ และทางตะวันตกเฉียงใต้บริเวณใกล้กับหมู่เกาะปราตาส ซึ่งอยู่ในทะเลจีนใต้
กระทรวงกลาโหมไต้หวันพบเรือของกองทัพเรือจีน 14 ลำ และเรือ “ทางการ” ของจีน 12 ลำ ซึ่งหมายถึงเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งและหน่วยงานต่าง ๆ
การซ้อมรบครั้งนี้ได้รับการประณามจากสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร โดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เรียกการซ้อมรบดังกล่าวว่าเป็น “การกระทำที่ขาดความรับผิดชอบ ไม่เหมาะสม และบ่อนทำลายความมั่นคง”
กระทรวงการต่างประเทศของออสเตรเลียเรียกร้องให้พรรคคอมมิวนิสต์จีนหยุดกระทำการข่มขู่ โดยระบุว่า “ข้อพิพาทควรได้รับการแก้ไขผ่านการเจรจา ไม่ใช่ด้วยการคุกคาม ใช้กำลัง หรือบีบบังคับ”
ญี่ปุ่นได้แสดงความกังวลต่อรัฐบาลจีนเกี่ยวกับการซ้อมรบดังกล่าว และสหราชอาณาจักรเรียกร้องให้ทุกฝ่ายอดกลั้นและหลีกเลี่ยงการกระทำที่บ่อนทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน
ไต้หวันรายงานว่าในช่วงห้าปีที่ผ่านมา มีกิจกรรมทางทหารของจีนเกิดขึ้นใกล้กับเกาะไต้หวันเป็นประจำเกือบทุกวัน รวมถึงการซ้อมรบขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่าสี่ครั้งนับตั้งแต่ พ.ศ. 2565
อย่างไรก็ตาม การซ้อมรบเหล่านี้ได้สร้างความเป็นหนึ่งเดียวกันให้กับนานาชาติในการสนับสนุนรัฐบาลไต้หวัน นางกวน ปี้หลิง หัวหน้าสภากิจการทางทะเลของไต้หวันซึ่งเป็นผู้ดูแลกองกำลังรักษาชายฝั่ง กล่าว
“แม้ว่าจีนจะตั้งใจใช้การซ้อมรบเพื่อกดดันไต้หวันและประชาคมนานาชาติ แต่กลับทำให้เกิดการรวมพลังกันจากนานาชาติมากขึ้นเพื่อต่อต้านพฤติกรรมการขยายอิทธิพลของจีน” นางกวนโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ “ความสัมพันธ์ข้ามช่องแคบไต้หวันไม่ใช่แค่เรื่องระหว่างสองฟากฝั่งอีกต่อไป แต่กลายเป็นประเด็นสำคัญในความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก”
กระทรวงยุติธรรมของไต้หวันรายงานว่าพบรายงานทางออนไลน์ที่เป็นเท็จ เช่น ข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับการตอบโต้ของกองทัพไต้หวัน โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าข้อความเหล่านี้เป็น “การชักจูงความคิด” จาก “กองทัพแฮกเกอร์ต่างชาติ” ที่ขโมยหรือเจาะระบบเข้าสู่เพจของสื่อสังคมออนไลน์
“จีนแผ่นดินใหญ่ควรเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีอารยธรรมของโลก เป็นเพื่อน ไม่ใช่ศัตรู และเป็นที่ชื่นชอบ ไม่ใช่เป็นที่หวาดกลัว” นายหลัว เหวินเจีย หัวหน้ามูลนิธิการแลกเปลี่ยนข้ามช่องแคบไต้หวันซึ่งดูแลความสัมพันธ์ประจำวันระหว่างรัฐบาลไต้หวันและจีน กล่าว
มีการนำข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์มาใช้ในรายงานนี้