กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ร่วมมือกันทำภารกิจการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติสำหรับผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่น

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
กองทัพฟิลิปปินส์และหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกาได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ หลังจากพายุไต้ฝุ่นคราโธนถล่มฟิลิปปินส์ในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2567 โดยมีฝนตกเกือบ 70 เซนติเมตรและลมกระโชกแรงถึง 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในสี่ภูมิภาคทางเหนือ
พายุไต้ฝุ่นจูเลียนในฟิลิปปินส์คร่าชีวิตผู้คนไป 5 รายและส่งผลกระทบต่อประชาชนประมาณ 317,000 คนในหมู่บ้าน 950 แห่ง รวมถึงทำให้มีประชาชนต้องพลัดถิ่นอีก 1,900 คน ตามรายงานของสภาการจัดการและลดความเสี่ยงภัยพิบัติแห่งชาติของฟิลิปปินส์ ความเสียหายต่อโครงสร้างพื้นฐานมีมูลค่ารวมถึง 543 ล้านบาท (ประมาณ 16.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ตามรายงานของสำนักข่าวฟิลิปปินส์
เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ความเสียหายต่อภาคการเกษตรมีมูลค่าเกือบ 338 ล้านบาท (ประมาณ 10.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยรวมถึงความเสียหายต่อข้าว ข้าวโพด สัตว์เลี้ยง สัตว์ปีก อุปกรณ์ชลประทาน และสิ่งก่อสร้างในฟาร์มบนพื้นที่ 17,344 เฮกตาร์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อเกษตรกรประมาณ 33,000 คน
องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐอเมริกาเปิดเผยว่าการรับมือเบื้องต้นนั้น รวมถึง “การมอบเงินสนับสนุนจำนวน 16.6 ล้านบาท (ประมาณ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้แก่หุ้นส่วนด้านมนุษยธรรมในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือในด้านการคุ้มกันฉุกเฉิน ที่พักพิง และความช่วยเหลือด้านน้ำ สุขาภิบาล และสุขอนามัย”
“เราจะยังคงให้การสนับสนุนด้านโลจิสติกส์เพื่อสนับสนุนความพยายามบรรเทาทุกข์ที่นำโดยรัฐบาลฟิลิปปินส์” องค์กรเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศแห่งสหรัฐฯ กล่าวในสื่อสังคมออนไลน์
บุคลากรของกองกำลังนาวิกโยธินปฏิบัติการนอกประเทศที่ 3 ได้เดินทางออกจากโอกินาวา ประเทศญี่ปุ่น เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ หลังจากนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ สั่งการให้กองบัญชาการสหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกตอบสนองต่อคำขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ นาวิกโยธินสหรัฐฯ ได้ประสานงานกับกองทัพฟิลิปปินส์เพื่อดำเนินการขนส่งทางอากาศและให้ความช่วยเหลืออื่น ๆ ผ่านโครงการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในการจัดการภัยพิบัติและการสนับสนุนพลเรือนในต่างประเทศของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
นาวิกโยธินสหรัฐฯ ขนส่งบุคลากรและเสบียงด้วยเครื่องบิน เคซี-130เจ เฮอร์คิวลิส โดยได้เข้าร่วมกับบุคลากรจากหน่วยนาวิกโยธินปฏิบัติการนอกประเทศที่ 15 ของกองกำลังปฏิบัติการนอกประเทศทางทะเลที่ 1 และกองกำลังหมุนเวียนทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่กำลังฝึกอบรมอยู่ในฟิลิปปินส์ เสบียงต่าง ๆ ประกอบไปด้วย อาหาร แผ่นผ้าใบ และชุดที่พักอาศัย
บุคลากรจากกองกำลังหมุนเวียนทางทะเลได้ส่งมอบอาหารและเสบียงอื่น ๆ ไปยังเมืองบาสโกบนเกาะบาตันทางตอนเหนือ พ.อ. สจ๊วร์ต เกล็นน์ ผู้บัญชาการกองกำลัง กล่าวกับหนังสือพิมพ์สตาร์แอนด์สไตรป์ กองกำลังอยู่ในระหว่างภารกิจที่มีระยะเวลาหกเดือน ซึ่งถือเป็นภารกิจที่ “ยิ่งใหญ่และยาวนานที่สุด” เมื่อพายุไต้ฝุ่นได้ถล่มลงมา พ.อ. เกล็นน์ กล่าว
นาวิกโยธินสหรัฐฯ จำนวนสามสิบนายได้บรรทุกเสบียงบรรเทาทุกข์เกือบ 45,000 กิโลกรัมที่ฐานทัพอากาศวิลลามอร์ในกรุงมะนิลา เพื่อนำส่งไปยังเมืองลาวัก ซึ่งอยู่ห่างออกไป 350 กิโลเมตรทางตอนเหนือบนเกาะลูซอนของฟิลิปปินส์ พ.อ. เกล็นน์ กล่าว บุคลากรจากฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ที่สนามบินพลเรือนในเมืองลาวักเตรียมเสบียงเพื่อขนส่งไปทางเหนือด้วยอากาศยานใบพัดกระดก เอ็มวี-22บี ออสเปรย์
“เราขอขอบคุณรัฐบาลสหรัฐฯ อย่างยิ่งสำหรับการตอบสนองอย่างรวดเร็วและการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในช่วงเวลาสำคัญนี้ ความช่วยเหลือของสหรัฐฯ ถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อการฟื้นฟูและดูแลชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่นครั้งใหญ่นี้” นายกิลแบร์โต เตโอโดโร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์ กล่าว
กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ได้ส่งเครื่องบิน ซี-130 เพื่อส่งมอบเสบียงบรรเทาทุกข์ โดยได้ร่วมมือกับมูลนิธิจีเอ็มเอ คาปูโซของภาคเอกชน ตามรายงานของสำนักข่าวฟิลิปปินส์
“กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ยังคงมุ่งมั่นในภารกิจการส่งมอบการขนส่งทางอากาศอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เพื่อสนับสนุนความพยายามด้านมนุษยธรรมของประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ไม่เปลี่ยนแปลงในการให้บริการประชาชนชาวฟิลิปปินส์” พ.อ. มาเรีย คอนซูเอโล คาสติลโล หัวหน้าฝ่ายกิจการสาธารณะของกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ กล่าว ตามรายงานของสำนักข่าว
การฝึกซ้อมใหญ่ของกองกำลังปฏิบัติการนอกประเทศทางทะเลที่ 3 รวมถึงการบรรเทาภัยพิบัติด้วย นาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าว การฝึกอบรมรับมือวิกฤตช่วยเสริมสร้างความพร้อมในการปฏิบัติงานและความสามารถในการทำงานร่วมกัน กองทัพฟิลิปปินส์และสหรัฐฯ ร่วมมือกันเป็นประจำในการฝึกอบรมเพื่อบรรเทาภัยพิบัติ รวมถึงการฝึกซ้อมต่าง ๆ เช่น การฝึกบาลิกาตันระดับพหุภาคีและการฝึกกะมันดักระดับทวิภาคี