การสนับสนุนของรัฐบาลจีนต่อรัฐบาลทหารเมียนมาทำให้เกิดความไม่พอใจและการต่อต้านรุนแรงยิ่งขึ้น
ดร. มีมี วินน์ เบิร์ด
การสนับสนุนของสาธารณรัฐประชาชนจีนต่อรัฐบาลทหารเมียนมาที่ป่าเถื่อน ไร้ความชอบธรรม และถูกต่อต้านอย่างรุนแรง ได้เผยให้เห็นถึงความสองมาตรฐานและการแทรกแซงอย่างรุนแรงของรัฐบาลจีนในภูมิภาคนี้มากยิ่งขึ้น ในช่วงกลางเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ได้ประชุมกับผู้นำของรัฐบาลทหารเมียนมา และได้ย้ำเตือนถึงการสนับสนุนของจีนต่อความพยายาม “ในการดำเนินตามแผนการดำเนินงาน 5 ข้อเพื่อสร้างสันติภาพและความมั่นคงของรัฐ” ตามรายงานของนิตยสารเดอะดิโพลแมต
นับตั้งแต่รัฐบาลทหารยึดอำนาจจากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยด้วยการทำรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564 จีนได้แสดงการสนับสนุนต่อรัฐบาลทหาร แม้จะอ้างว่ายึดมั่นในนโยบายการไม่แทรกแซงก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว จีนตีสองหน้ามาโดยตลอด โดยยังคงรักษาความสัมพันธ์กับกลุ่มต่อต้าน และมีรายงานว่าจีนยังได้จัดหาอาวุธ รวมถึงโดรนและขีปนาวุธพิสัยสั้นให้กับกลุ่มเหล่านี้ จีนพยายามทำตัวเป็นอำนาจภายนอกที่มีอิทธิพลเหนือเมียนมา
อย่างไรก็ตาม ในช่วงกลางเดือนกันยายน จีนได้ดำเนินการเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อกลุ่มต่อต้านที่สำคัญกลุ่มหนึ่งที่เคยได้รับการสนับสนุนอาวุธและความช่วยเหลืออื่น ๆ จากจีน นักวิเคราะห์ระบุว่า กลุ่มต่อต้านบางกลุ่มอาจมีอำนาจมากเกินไปและเป็นภัยคุกคามต่อการควบคุมของจีนในพื้นที่ชายแดนติดกับเมียนมา
การหันมาเข้าข้างรัฐบาลทหารเมียนมาที่ประชาชนส่วนใหญ่ในเมียนมาเกลียดชัง ถือเป็นการตีตัวออกห่างจากประชากรที่จีนเองพยายามจะเข้ามามีอิทธิพลครอบงำ นอกจากนี้ วิธีการของจีนยังเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อความสัมพันธ์ระยะยาวกับเมียนมา เนื่องจากเสี่ยงต่อการปลุกปั่นความไม่พอใจที่ฝังลึกอยู่ในประเทศ
ประชาชนชาวเมียนมามีทัศนคติเชิงลบต่อรัฐบาลจีนมาเป็นเวลานาน เนื่องจากนโยบายของจีนในการแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของเมียนมา ซึ่งสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม การดำรงชีวิต และวัฒนธรรมท้องถิ่น
ภายใต้แรงกดดันอย่างหนักจากจีน กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาเพิ่งประกาศเมื่อไม่นานมานี้ว่าจะยุติการปิดล้อมในภาคเหนือของเมียนมา และจะไม่พยายามขยายดินแดนหรือโจมตีเมืองมัณฑะเลย์หรือตองยี ซึ่งเป็นเมืองหลวงของรัฐฉาน ตามรายงานของเดอะอิรวดี ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวในเมียนมา
กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมายังกล่าวอีกว่าจะไม่พยายามสร้างรัฐแบ่งแยกดินแดนและจะยุติความร่วมมือทางการเมืองหรือทางทหารกับรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติหรือองค์กรระหว่างประเทศใด ๆ ที่ต่อต้านจีน ตามรายงานของเดอะอิรวดี รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติก่อตั้งขึ้นโดยกลุ่มผู้ร่างกฎหมายที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ซึ่งรอดพ้นจากการถูกจับกุมระหว่างการรัฐประหาร
การบีบบังคับกลุ่มต่าง ๆ เช่น กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา เป็นตัวอย่างของกลยุทธ์ที่กว้างขึ้นของจีนในการปกป้องผลประโยชน์ของตนในประเทศและภูมิภาค แม้ว่าจะต้องเหยียบย่ำความต้องการของประชาชนชาวเมียนมาก็ตาม กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น การปิดกั้นการค้าและการปิดด่านชายแดน รวมถึงการเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจในเขตโกก้าง ซึ่งเป็นฐานที่มั่นของกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมา สะท้อนให้เห็นถึงความเต็มใจของจีนในการสร้างความยากลำบากให้กับประชาชนในท้องถิ่นเพียงเพื่อรักษาอำนาจทางการเมืองและเศรษฐกิจ
แม้จีนจะพยายามบ่อนทำลายกองกำลังต่อต้าน แต่ปฏิบัติการ 1027 ของกลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพ ซึ่งตั้งชื่อตามวันเริ่มปฏิบัติการเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566 ได้สร้างแรงผลักดันที่สำคัญในการต่อต้านรัฐบาลทหาร ทำให้กองกำลังของรัฐบาลอ่อนแอลงอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ตามข้อมูลจากนักวิเคราะห์ กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธที่แข็งแกร่งที่สุดในพันธมิตรนี้
ปฏิบัติการ 1027 ระลอกที่สอง ซึ่งเริ่มในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 แสดงให้เห็นถึงความพร้อมรับมือของกองกำลังแนวร่วมการต่อต้านของเมียนมา และความสามารถในการปรับตัวต่อการต่อสู้เพื่อเสรีภาพ แม้จะถูกกดดันจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีอำนาจก็ตาม
สำหรับกองกำลังแนวร่วมการต่อต้านของเมียนมาแล้ว กุญแจสำคัญในการต่อต้านการบีบบังคับของจีนอยู่ที่ความสามัคคีและความร่วมมือ กลุ่มพันธมิตรสามภราดรภาพและกลุ่มอื่น ๆ ได้แสดงให้เห็นว่าการประสานงานที่ดีสามารถนำไปสู่ชัยชนะที่มีความหมายเหนือรัฐบาลทหารเมียนมาได้
แม้ว่าการสนับสนุนของจีนต่อรัฐบาลทหารเมียนมาอาจบีบบังคับกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาได้ชั่วคราว แต่ก็ไม่ได้กำหนดทิศทางของการต่อต้านในระยะยาว ในท้ายที่สุดแล้ว กลยุทธ์ของจีนที่สนับสนุนรัฐบาลทหารเมียนมาที่ถูกเกลียดชังและการบีบบังคับกลุ่มต่อต้านติดอาวุธในท้องถิ่นให้ยอมจำนนจะไม่จบลงด้วยดีสำหรับรัฐบาลจีน
จีนได้เข้าข้างฝ่ายที่กำลังพ่ายแพ้ เนื่องจากรัฐบาลทหารเมียนมามีแนวโน้มที่จะล่มสลายในที่สุด ซึ่งเป็นเพราะความไร้ประสิทธิภาพภายในที่เกิดจากการทุจริตอย่างแพร่หลายและความท้อแท้ของกองกำลัง ด้วยการสนับสนุนและช่วยเหลือรัฐบาลทหารเมียนมา จึงถือว่าจีนมีส่วนร่วมในการก่ออาชญากรรมและการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่รัฐบาลทหารเมียนมาได้กระทำ
อธิปไตยและอนาคตของเมียนมาต้องถูกกำหนดโดยประชาชนของประเทศเอง ไม่ใช่โดยอำนาจภายนอกที่มุ่งแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรและการควบคุมภูมิภาค
พ.ท. มีมี วินน์ เบิร์ด แห่งกองทัพบกสหรัฐฯ ผู้เกษียณอายุ เป็นศาสตราจารย์ที่ศูนย์เอเชียแปซิฟิก แดเนียล เค. อิโนะอุเอะ เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคง ในรัฐฮาวาย