แนวร่วมที่นำโดยสหรัฐฯ ช่วยรักษาความมั่นคงทางทะเลในทะเลแดง

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
กลุ่มกบฏฮูตีในเยเมนได้โจมตีเรือกว่า 70 ลำในทะเลแดงโดยไม่เลือกเป้าหมายตั้งแต่เดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งการโจมตีดังกล่าวส่งผลกระทบต่อการค้าเป็นมูลค่ากว่า 34 ล้านล้านบาท (ประมาณ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญต่อเอเชีย ยุโรป และตะวันออกกลาง
แนวร่วมที่นำโดยสหรัฐฯ ซึ่งได้รับมอบหมายให้รักษาความมั่นคงทางทะเลในภูมิภาคนี้ ได้สกัดกั้นขีปนาวุธและโดรนที่มุ่งเป้าไปยังเรือต่าง ๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า จำนวนเรือที่ผ่านช่องแคบบาบุลมันดับ ซึ่งเชื่อมต่อทะเลแดงกับอ่าวเอเดน มีจำนวนคงที่อยู่ที่ประมาณ 1,000 ลำต่อเดือน พล.ร.ท. จอร์จ วิโกฟ ผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ กองเรือที่ 5 และกองกำลังทางทะเลแบบผสมผสาน กล่าวในการสัมภาษณ์เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งจัดโดยสถาบันวิจัยนโยบายการต่างประเทศและยุทธศาสตร์และสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ
พล.ร.ท. วิโกฟกล่าวว่า มีเรือประมาณ 2,000 ลำแล่นผ่านช่องแคบทุกเดือนในช่วงก่อนเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 พล.ร.ท. วิโกฟเรียกสถานการณ์ปัจจุบันว่า “การรักษาเสถียรภาพที่ไม่อาจยอมรับได้”
วิดีโอจาก: จ.อ. อารอน เลา/กองทัพเรือสหรัฐฯ
ปฏิบัติการผู้พิทักษ์ความเจริญรุ่งเรืองมีสมาชิกมากกว่า 20 ประเทศที่แสดงความมุ่งมั่นต่อความมั่นคงทางทะเล ภารกิจของปฏิบัติการนี้ยังรวมถึงการแบ่งปันข้อมูลผ่านศูนย์ข้อมูลทางทะเลร่วม ซึ่งให้การประเมินภัยคุกคามในภูมิภาคแก่บริษัทเดินเรือ
“ทหารเรือของเราได้รับมอบหมายให้ทำงานที่ยากลำบากอย่างยิ่ง” พล.ร.ท. วิโกฟกล่าว “พวกเขารู้ว่าตนเองจะต้องเผชิญหน้าอย่างแน่นอน พวกเขาหันหัวเรือเข้าหาความขัดแย้งและเดินหน้าเข้าหา … พวกเขาคือกองทัพเรือที่ได้รับการฝึกอบรมและมียุทโธปกรณ์ครบครันที่สุดในประวัติศาสตร์ และเรากำลังมองเห็นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ … ระบบอาวุธทั้งหมด ทั้งด้านการป้องกันและโจมตี ถูกนำไปใช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ กัน”
กลุ่มกบฏฮูตีได้ทำสงครามกลางเมืองในเยเมนมานานกว่าสิบปี และอ้างว่ากำลังดำเนินการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในกาซา อย่างไรก็ตาม การโจมตีเรือสินค้าของพลเรือนและเรือทหารอย่างไม่เลือกหน้านั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนสงครามระหว่างฮามาสและอิสราเอล กลุ่มกบฏฮูตีที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่านนี้เป็นผู้ลงมือโจมตีเรืออย่างน้อย 25 ลำในทะเลแดงระหว่าง พ.ศ. 2559 ถึงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2566 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามเริ่มต้นขึ้น พล.ร.ท. วิโกฟกล่าวว่า ทหารเรือจากเกือบ 120 ประเทศตกเป็นเป้าหมายในการโจมตีครั้งล่าสุด
การโจมตีเหล่านี้สร้างความหายนะต่อประชากรที่อ่อนแอ กีดขวางการส่งความช่วยเหลือไปยังเยเมน ซึ่งเป็นสถานที่ที่องค์การสหประชาชาติกล่าวว่ามีผู้คนเกือบ 18 ล้านคนต้องเผชิญกับภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง รวมถึงประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคทะเลแดงด้วย ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของผู้คนประมาณ 30 ล้านคนที่เสี่ยงต่อการขาดสารอาหาร
พล.ร.ท. วิโกฟกล่าวว่า กลุ่มกบฏฮูตี “คุกคามการขนส่งและเรือที่ส่งความช่วยเหลือ”
ในขณะที่อุตสาหกรรมการเดินเรือทั่วโลกส่วนใหญ่ได้แบกรับต้นทุนของการเบี่ยงเส้นทางเดินเรือนับพันกิโลเมตรเพื่อหลีกเลี่ยงทะเลแดง ประเทศต่าง ๆ เช่น อียิปต์ จอร์แดน และซาอุดีอาระเบียกำลังเผชิญกับการหยุดชะงักทางเศรษฐกิจต่อการเดินเรือและการท่องเที่ยว
“ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้าของโลกนั้นชัดเจนมาก” พล.ร.ท. วิโกฟกล่าว กลุ่มกบฏฮูตี “กำลังหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความไม่สงบอย่างรุนแรง พวกเขาไม่ได้สนใจประชาชนที่พวกเขาอ้างว่าตัวเองเป็นตัวแทนด้วยซ้ำไป”
พล.ร.ท. วิโกฟกล่าวว่าการรักษาความมั่นคงทางทะเลยังต้องอาศัยการทูตด้วย
“ทั่วทั้งโลกได้รับผลกระทบจากปัญหานี้” พล.ร.ท. วิโกฟกล่าว “และแน่นอนว่าเราอาจลองใช้เรือรบจำนวนหนึ่ง ทหารเรือจำนวนหนึ่ง และกลุ่มคนอีกจำนวนหนึ่งที่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อรักษาความมั่นคงทางทะเล แต่การดำเนินการเช่นนี้จำเป็นต้องอาศัยแนวทางแบบร่วมมือกันทั่วทั้งโลก และยิ่งมีผู้มีบทบาทเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่สามารถเข้ามามีบทบาทในส่วนของการทูตในเรื่องนี้ ก็จะยิ่งเป็นผลดีกับเรามากขึ้น”