การดำเนินการต่าง ๆ ค่อย ๆ เติมเต็มวิสัยทัศน์อันสูงส่งของการประชุมสุดยอดระหว่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ
เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น นายยุน ซอกยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ และนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา พบปะกันในการประชุมสุดยอดที่ไม่เคยมีมาก่อนใกล้กับกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ก็มีความคืบหน้าเกิดขึ้นมากมายในความสัมพันธ์ไตรภาคีที่เพิ่งเริ่มต้นขึ้นของทั้ง 3 ประเทศนี้
ในโอกาสครบรอบหนึ่งปีของการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2566 ประเทศประชาธิปไตยทั้ง 3 ประเทศกำลังเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านความมั่นคง รวมถึงการฝึกซ้อมทางกองกำลังและการแบ่งปันข้อมูลตามเวลาจริงเกี่ยวกับการยิงขีปนาวุธทิ้งตัวที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ ญี่ปุ่นและสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งเป็นชื่ออย่างเป็นทางการของเกาหลีใต้ เป็นพันธมิตรทวิภาคีที่ยาวนานกับสหรัฐฯ แม้ว่าจะมีความคล้ายคลึงทางการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงความใกล้ชิดทางภูมิศาสตร์ แต่ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ก็มีปฏิสัมพันธ์กันอย่างเป็นทางการน้อยมากก่อนการประชุมสุดยอดครั้งสำคัญที่แคมป์เดวิด ซึ่งเป็นบ้านพักของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในรัฐแมริแลนด์
ความเห็นพ้องไตรภาคีที่รอคอยมานานประกอบกับปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นตามมา เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการตอบสนองที่มีร่วมกันของพันธมิตรและหุ้นส่วนอินโดแปซิฟิกหลายรายที่มีต่อภัยคุกคามที่เกิดจากเกาหลีเหนือ สาธารณรัฐประชาชนจีน และรัสเซีย นอกเหนือจากการเริ่มต้นความสัมพันธ์ไตรภาคีแล้ว ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ยังได้ให้คำมั่นว่าจะส่งเสริมสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคด้วย
ข้อตกลงนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็น “ย่างก้าวสำคัญสู่อนาคตข้างหน้า” ดร. ซุงยุน ลี ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีและเอเชียตะวันออกที่ศูนย์วิลสัน กล่าวในการอภิปรายล่าสุดที่จัดโดยสถาบันวิจัยศูนย์วิลสันที่ตั้งอยู่ในสหรัฐฯ
ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2567 ทั้ง 3 ประเทศได้ออกบันทึกความร่วมมือเพื่อจัดทำความร่วมมือด้านความมั่นคงขึ้นอย่างเป็นทางการ เพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือและจีน บันทึกความร่วมมือนี้มีเป้าหมายเพื่อเสริมรากฐานของข้อตกลงแคมป์เดวิดให้แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงผู้นำในอนาคตขึ้นหรือไม่ก็ตาม ตามรายงานของเครือข่ายข่าววอยซ์ออฟอเมริกา สืบเรื่องจากแรงกระตุ้นของภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์และขีปนาวุธอย่างต่อเนื่องของเกาหลีเหนือ และการที่เกาหลีเหนือปรองดองทางทหารกับรัสเซียเพิ่มมากขึ้น นายมิโนรุ คิฮาระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น นายชิน วอนชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ และนายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับกรอบความร่วมมือด้านความมั่นคงไตรภาคีในกรุงโตเกียว บันทึกความร่วมมือดังกล่าวเรียกร้องให้มีการเจรจาระดับสูงอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงการฝึกซ้อมร่วมและการแลกเปลี่ยนอื่น ๆ
ผู้นำด้านกลาโหมทั้งสามประเทศเรียกร้องให้เกาหลีเหนือยุติการกระทำเชิงยั่วยุที่อาจทำให้ความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีเพิ่มขึ้นในทันที ทั้งสามยกย่องการฝึกฟรีดอมเอดจ์ครั้งแรก ซึ่งเป็นการฝึกในหลายขอบเขตที่จัดขึ้นในช่วงปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 โดยญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ได้พัฒนาขีดความสามารถร่วมกัน “เพื่อปกป้องเสรีภาพและรับรองสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก” กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุ เรือและอากาศยานจากทั้งสามประเทศได้เข้าร่วมในการฝึกซ้อมนี้
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐฯ ยังควรติดตามการกระทำของจีนอย่างใกล้ชิดด้วยเช่นกัน นายอีแวนส์ รีเวียร์ อดีตนักการทูตสหรัฐฯ และรักษาการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ด้านกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก กล่าว “ทั้งสามประเทศมีการตระหนักรู้เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับภัยคุกคามและความท้าทายที่พวกเขาเผชิญร่วมกัน” นายรีเวียร์กล่าวกับวอยซ์ออฟอเมริกา “ความพยายามของจีนในการข่มขู่ทางการเมือง การทหาร และเศรษฐกิจเริ่มเกิดถี่ขึ้นเรื่อย ๆ”