ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดความร่วมมืออินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง

สหรัฐฯ ส่งคำเชิญถึงหุ้นส่วนที่มีหน้าที่รับผิดชอบ ยกเว้นจีน เพื่อเข้าร่วมการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิกครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

ประเทศหุ้นส่วน 29 ประเทศ ซึ่งมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา ได้เข้าร่วมการฝึกทางทหารริมออฟเดอะแปซิฟิก พ.ศ. 2567 ใกล้รัฐฮาวาย โดยเรือบนผิวน้ำ 38 ลำ เรือดำน้ำ 3 ลำ กองกำลังภาคพื้นดิน 14 แห่ง และอากาศยานประมาณ 170 ลำ จากประเทศที่มีหน้าที่รับผิดชอบ จะเข้าร่วมการฝึกซ้อมที่จัดขึ้นทุกสองปีนี้ ภายใต้หัวข้อ “หุ้นส่วน: การรวมพลังและการเตรียมพร้อม”

เป็นอีกครั้งที่สหรัฐอเมริกาไม่ได้เชิญสาธารณรัฐประชาชนจีน เนื่องจากรัฐบาลจีน “ไม่เต็มใจที่จะปฏิบัติตามกฎเกณฑ์หรือบรรทัดฐานและมาตรฐานระหว่างประเทศ” พล.ร.ท. จอห์น เวด ผู้บัญชาการกองเรือที่ 3 ของสหรัฐฯ และหน่วยปฏิบัติการเฉพาะกิจร่วมของการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก พ.ศ. 2567 อธิบายในการแถลงข่าวเปิดการฝึกซ้อมเมื่อปลายเดือนมิถุนายน

ใน พ.ศ. 2557 สหรัฐฯ ได้เชิญจีนโดยหวังว่า “จีนอาจหยุดการจัดกําลังทหารในทะเลจีนใต้และตระหนักว่าการเข้าร่วมการแข่งขันของมหาอํานาจนั้นไร้ประโยชน์” ตามรายงานของยูเอสเอ็นไอนิวส์ พ.ศ. 2557 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวออนไลน์ของสถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ

ในเวลานั้น ความพยายามของสหรัฐฯ ในการหยุดพฤติกรรมที่ไม่ดีของจีนมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะอนุญาตให้กองทัพเรือของกองทัพปลดปล่อยประชาชนสังเกตความสามารถและยุทธวิธีของสหรัฐฯ ในการปฏิบัติจริง ตามรายงานของยูเอสเอ็นไอนิวส์ กองทัพปลดปล่อยประชาชนได้ส่งเรือที่ได้รับเชิญสี่ลำและเรือสอดแนมที่ไม่ได้รับเชิญหนึ่งลำใน พ.ศ. 2557 สหรัฐฯ ได้เชิญจีนใน พ.ศ. 2559 เช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ใน พ.ศ. 2561 สหรัฐฯ ได้ “ยกเลิกคําเชิญ” ไปยังจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนยังคงจัดกําลังทหารให้กับเกาะเทียมในทะเลจีนใต้

พ.ท. คริสโตเฟอร์ โลแกน จากหน่วยนาวิกโยธิน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกาในสมัยนั้น กล่าวว่า “สหรัฐอเมริกามุ่งมั่นที่จะสร้างอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง” การจัดกําลังทางทหารอย่างต่อเนื่องของจีนบริเวณพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทในทะเลจีนใต้มีแต่จะเพิ่มความตึงเครียดและทําลายเสถียรภาพของภูมิภาค เพื่อเป็นการตอบสนองเบื้องต้นต่อการจัดกําลังทางทหารอย่างต่อเนื่องของจีนในทะเลจีนใต้ เราจึงได้ยกเลิกคําเชิญที่ส่งไปยังกองทัพเรือกองทัพปลดปล่อยประชาชนในการเข้าร่วมการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก พ.ศ. 2561 การกระทําของจีนไม่สอดคล้องกับหลักการและวัตถุประสงค์ของการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก

“เรามีหลักฐานที่แน่นหนาว่าจีนได้เคลื่อนกำลังระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือ ระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศ และอุปกรณ์รบกวนอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ไปยังพื้นที่ที่เป็นข้อพิพาทในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีในทะเลจีนใต้ การลงจอดของเครื่องบินทิ้งระเบิดของจีนบนเกาะวู้ดดี้ทําให้ความตึงเครียดเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน” พ.ท. โลแกนกล่าว

“แม้จีนจะยืนยันว่าเกาะเหล่านี้สร้างขึ้นเพื่อรับรองความปลอดภัยทางทะเล ความช่วยเหลือในการเดินเรือ การค้นหาและกู้ภัย การคุ้มครองการประมง และการทำงานอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ทางการทหาร แต่การติดตั้งระบบอาวุธเหล่านี้มีไว้สำหรับใช้งานเพื่อวัตถุประสงค์ทางทหารเท่านั้น”

“เราเชื่อว่าการเคลื่อนกำลังครั้งล่าสุดและการใช้พื้นที่เหล่านี้เป็นฐานทัพอย่างต่อเนื่องถือเป็นการละเมิดคำมั่นสัญญาที่นายสี ประธานาธิบดีจีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีน ได้ให้ไว้กับสหรัฐอเมริกาและทั่วโลกว่าจะไม่ใช้หมู่เกาะสแปรตลีเป็นฐานทัพ” พ.ท. โลแกนกล่าว

กระทรวงกลาโหมจีนตอบในแถลงการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561 ว่า “จีนมีอํานาจอธิปไตยที่ไม่อาจโต้แย้งได้ในหมู่เกาะและน่านน้ำใกล้เคียงในทะเลจีนใต้” ตามรายงานของยูเอสเอ็นไอนิวส์ “เป็นสิทธิอันชอบธรรมของจีนในฐานะรัฐอธิปไตยในการดำเนินกิจกรรมการก่อสร้างและจัดตั้งกองอำนวยการด้านกลาโหมที่จำเป็นในดินแดนของตนเอง อีกทั้งยังเป็นมาตรการที่จำเป็นในการปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศอย่างแน่วแน่ ตลอดจนรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับ “การจัดกําลังทหาร” และสหรัฐฯ ไม่มีสิทธิ์แสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องนี้”

ทว่าแถลงการณ์ของจีนขัดแย้งกับคําตัดสินใน พ.ศ. 2559 ของศาลระหว่างประเทศในกรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งปฏิเสธการอ้างสิทธิ์อธิปไตยของรัฐบาลจีนในพื้นที่ส่วนใหญ่ในทะเลจีนใต้ โดยได้ตัดสินว่าการอ้างสิทธิ์ดังกล่าวมิชอบกฎหมาย นอกจากนี้ คำตัดสินของศาลยังได้ตำหนิพฤติกรรมของพรรคคอมมิวนิสต์จีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งรวมถึงการสร้างเกาะเทียมในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกและในน่านน้ำฟิลิปปินส์

ตั้งแต่ พ.ศ. 2561 กิจกรรมของจีนยังคง “ไม่สอดคล้องกับหลักการ วัตถุประสงค์ และเจตนารมณ์ของการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก” ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา

ในกฎหมายให้อำนาจป้องกันประเทศ พ.ศ. 2562 รัฐสภาสหรัฐฯ ได้ห้ามจีน “เข้าร่วมการฝึกซ้อมริมออฟเดอะแปซิฟิกทางทะเล” โดยเด็ดขาด

กฎหมายระบุว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสามารถผ่อนผันได้หากตรวจสอบได้ว่าจีน “(1) ยุติกิจกรรมการฟื้นสภาพที่ดินในทะเลจีนใต้ทั้งหมด (2) ปลดอาวุธทั้งหมดออกจากพื้นที่ฟื้นสภาพที่ดินของตน และ (3) จัดทำบันทึกการดำเนินงานเพื่อสร้างเสถียรภาพในภูมิภาคอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาสี่ปี” ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมสหรัฐอเมริกา ทว่านับแต่นั้นมาจีนไม่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขใด ๆ และยังคงแสดงท่าทีแข็งกร้าวไม่เพียงในทะเลจีนใต้เท่านั้น แต่ยังรวมถึงทั่วโลกด้วย

เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 เหล่าผู้นำองค์การนาโตได้ประณามจีนที่ช่วยเอื้ออำนวยสงครามของรัสเซียกับยูเครน และแสดงความกังวลต่อความพยายามของรัฐบาลจีนในการกระชับความสัมพันธ์กับรัฐบาลรัสเซีย

“จีนได้กลายเป็นผู้สนับสนุนรายสำคัญของสงครามรัสเซียกับยูเครนผ่านความร่วมมือที่เรียกว่า “ไร้ขอบเขต” และการสนับสนุนครั้งใหญ่สำหรับฐานอุตสาหกรรมด้านกลาโหมของรัสเซีย” ตามรายงานของแถลงการณ์ที่ได้รับการอนุมัติจากสมาชิกนาโต 32 ประเทศ “ถือเป็นการเพิ่มภัยคุกคามจากรัสเซียต่อประเทศเพื่อนบ้านและความมั่นคงของยูโรแอตแลนติก  …  จีนไม่สามารถสนับสนุนสงครามที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรปสมัยใหม่ได้ โดยไม่ส่งผลเสียต่อผลประโยชน์และชื่อเสียงของตน

พล.ร.ท. เวดกล่าวว่า การฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิกพยายามกระชับความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันกับประเทศที่มีอุดมการณ์เดียวกัน เพื่อให้สามารถรับมือกับสถานการณ์ยากลำบากร่วมกันไม่ว่าจะเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติหรือความขัดแย้ง

“ด้วยความสัตย์จริง การฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิกไม่ได้เจาะจงที่ประเทศใดประเทศหนึ่งโดยเฉพาะ และไม่ได้ส่งข้อความถึงใคร” พล.ร.ท. เวดกล่าวกับผู้สื่อข่าว “เรามุ่งเน้นไปที่ขีดความสามารถของกําลังทางทะเลที่ยั่งยืนอย่างแท้จริง เพื่อรับรองสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่สําคัญ”

การฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก พ.ศ. 2567 จะดำเนินต่อไปจนถึงต้นเดือนสิงหาคม โดยมีสถานการณ์สงครามหลายพื้นที่ ได้แก่ สงครามปราบปรามเรือดำน้ำ สงครามผิวน้ำแบบใช้เรือหลายลำ การยกพลขึ้นบกในหลายประเทศ และการป้องกันกองเรือบรรทุกเครื่องบินจากกองกำลังจริงหลายทิศทาง

“การฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิกมีสภาพแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะตัว ทั้งยังมีความซับซ้อนและท้าทายสำหรับหลายชาติในการฝึกอบรมกองกำลังในด้านต่าง ๆ ซึ่งมีเป้าหมายระดับชาติร่วมกัน” น.ต. ทิโมที กิลล์ แห่งกองทัพเรือออสเตรเลีย ผู้ประสานงานการฝึกริมออฟเดอะแปซิฟิก กล่าว “ตลอดการวางแผน เราได้สร้างความร่วมมือที่แท้จริงบนพื้นฐานของความเข้าใจและความเคารพซึ่งกันและกัน และหวังว่าจะรักษาความสัมพันธ์นี้ต่อไปในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่”

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button