อินโดนีเซียและสหรัฐฯ เตรียมความพร้อมผ่านการฝึกกะรัตครั้งที่ 30

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม
กองทัพอินโดนีเซียและกองทัพสหรัฐฯ ดำเนินการฝึกผสานความร่วมมือและความพร้อมทางเรือ หรือ กะรัต ครั้งที่ 30 ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 การฝึกซ้อมเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ในเมืองลัมปุง ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งรวมถึงการฝึกในทะเลและบนชายฝั่ง ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของกองทัพเรือหุ้นส่วนและร่วมกันตอบโต้ความท้าทายด้านความมั่นคงทางทะเลทั้งแบบดั้งเดิมและแบบใหม่
บุคลากรได้ฝึกซ้อมการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกที่ปรับใช้ทรัพย์สินทางทะเลและทางอากาศกับกองกำลังภาคพื้นดิน ดำเนินการฝึกยิงด้วยกระสุนจริงและการทำลาย สำเร็จหลักสูตรการเอาชีวิตรอดในป่า และฝึกอบรมสำหรับการปฏิบัติการในพื้นที่เขตเมือง การฝึกซ้อมนี้ยังรวมไปถึงการดูแลและการอพยพผู้ได้รับบาดเจ็บจากการรบ การค้นหาและให้ความช่วยเหลือทางทะเล ตลอดจนการลาดตระเวนและการเฝ้าระวัง
วิดีโอจาก: จ.อ. เจมส์ ฟินนีย์/กองทัพเรือสหรัฐฯ
“เราสามารถบรรลุความสำเร็จหลายประการในการฝึกอบรมนี้ เช่น ความรู้ของทหาร การเพิ่มความเป็นมืออาชีพ และการสร้างความไว้วางใจซึ่งกันและกันระหว่างกองทัพเรืออินโดนีเซียและกองทัพเรือสหรัฐฯ รวมถึงนาวิกโยธินสหรัฐฯ” พล.ร.ต. ยูส ซูรโยโน ฮาดี แห่งกองทัพเรืออินโดนีเซีย กล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวแอนทาราของอินโดนีเซีย
พล.ร.ต. ฮาดีเรียกการฝึกซ้อมครั้งนี้ว่าเป็นภารกิจเพื่อสร้างความมั่นใจ
การฝึกกะรัตได้จัดกิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ โดยมีบุคลากรมาช่วยทำความสะอาดชายหาด แจกจ่ายอาหารให้แก่ชาวบ้านในท้องถิ่น และปลูกต้นไม้มากกว่า 2,000 ต้น ตามรายงานของสำนักข่าวแอนทารา
เหล่าผู้เชี่ยวชาญได้แลกเปลี่ยนความรู้ด้านกฎหมาย สุขภาพ การสื่อสาร การลาดตระเวน และทักษะการบิน ควบคู่ไปกับขอบเขตในการเฝ้าระวังทางทะเล การดำน้ำ และการก่อสร้างใต้น้ำ การฝึกกะรัตรวมถึงการประยุกต์ใช้การแลกเปลี่ยนข้อมูลในทางปฏิบัติ และผู้เข้าร่วมได้แบ่งปันแนวปฏิบัติที่ดีที่สุด
ศูนย์ประสานงานรวมประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ร่วมจากอินโดนีเซียและสหรัฐฯ

ภาพจาก: จ.อ. อีวาน ดิแอซ/กองทัพเรือสหรัฐฯ
“หุ้นส่วนชาวอินโดนีเซียให้การต้อนรับเรา และเราได้ร่วมกันต่อยอดรากฐานที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 30 ปีที่แล้วในการฝึกกะรัตที่อินโดนีเซียเป็นครั้งแรก” น.อ. เทต โรบินสัน แห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าว “ลูกเรือและนาวิกโยธินจากทั้งสองประเทศได้แบ่งปันทักษะและยุทธวิธีที่จะนำไปปรับใช้ในกองทัพของทั้งสองประเทศต่อไปตลอดสามทศวรรษข้างหน้าหรือนานกว่านั้น และเมื่อใดที่ต้องนำทักษะเหล่านี้มาใช้ เราจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ การฝึกกะรัตเป็นวิธีหนึ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อพันธมิตรและหุ้นส่วน รวมถึงเพื่อรักษาอินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง”
การฝึกกะรัตที่อินโดนีเซียครั้งล่าสุดเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันกับที่ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียและรัฐบาลสหรัฐฯ ครบรอบ 75 ปี กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ได้มีการกระชับความสัมพันธ์ด้านความมั่นคงให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา โดยมีการนัดพบปะประจำปีหลายครั้งและเพิ่มความร่วมมือในด้านความมั่นคงบริเวณพรมแดน การเพิ่มทวีกำลังต่อต้าน ความมั่นคงทางไซเบอร์ การต่อต้านการก่อการร้าย ความมั่นคงทางทะเล ปฏิบัติการรักษาสันติภาพ รวมถึงความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการรับมือภัยพิบัติ
“เราได้เรียนรู้ว่าความผูกพันในหมู่ผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ภาคสนามหรือบนเรือนั้นสามารถเอาชนะอุปสรรคทางภาษาได้” พ.อ. ฌอน ไดแนน ผู้บังคับบัญชาหน่วยปฏิบัติการนอกประเทศนาวิกโยธินที่ 15 แห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ กล่าว “เราได้เรียนรู้ว่าทั้งสองมีขีดความสามารถที่แตกต่างกัน แต่เราก็มีความสามารถที่ทัดเทียมกัน”
ชุดการฝึกกะรัตของสหรัฐฯ ประกอบด้วยการฝึกกับกองทัพเรือทั่วทั้งภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ซึ่งได้แก่ บังกลาเทศ บรูไน กัมพูชา มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ศรีลังกา และไทย