ความขัดแย้ง/ความตึงเครียดเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

รายงาน: ชาวทิเบตมากกว่า 700,000 คนถูกบังคับให้ต้องย้ายถิ่นฐาน

เรดิโอฟรีเอเชีย

นับตั้งแต่ พ.ศ. 2559 พรรคคอมมิวนิสต์จีนได้บังคับให้ชาวทิเบตมากกว่า 700,000 คนย้ายถิ่นฐานออกจากที่อยู่ของตนเอง ซึ่งส่งผลให้เกิดการว่างงาน อุปสรรคทางเศรษฐกิจ และการกีดกันทางสังคม ตามรายงานฉบับใหม่ของฮิวแมนไรตส์วอตช์

ในบรรดาผู้ที่ถูกกวาดล้างภายใต้มาตรการลดความยากจน พบว่ามีประชาชนกว่า 567,000 คนอาศัยอยู่กระจัดกระจายไปทั่วภูมิภาค และ 140,000 คนอาศัยอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ

รายงานประจำเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 เรื่อง “การให้ความรู้แก่มวลชนเพื่อเปลี่ยนแปลงแนวคิด: การบีบบังคับให้ชาวทิเบตในชนบทของจีนต้องย้ายถิ่นฐาน” นั้นอ้างอิงตามข้อมูลจากเอกสารของรัฐบาล การศึกษาภาคสนามเชิงวิชาการ และบทความข่าวกว่า 1,000 รายการที่เผยแพร่โดยสื่อที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนควบคุมอยู่ ในระหว่าง พ.ศ. 2559 ถึง พ.ศ. 2566

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนบีบบังคับชาวบ้านและคนเร่ร่อนให้ย้ายออกจากถิ่นฐานในชนบทไปยังเขตเมือง ยุทธวิธีสร้างความกดดันเหล่านี้ ได้แก่ การไปเยี่ยมบ้านหลาย ๆ ครั้ง การข่มขู่ที่จะลงโทษทางอาญาอย่างอ้อม ๆ และการเตือนว่าจะตัดระบบสาธารณูปโภคที่จำเป็น เช่น ไฟฟ้าและน้ำ หากประชาชนปฏิเสธที่จะย้ายออก

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังอ้างว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวจะช่วยเพิ่มโอกาสในการจ้างงานและยังช่วยเพิ่มรายได้อีกด้วย ตามรายงานของฮิวแมนไรตส์วอตช์

“พรรคคอมมิวนิสต์จีนระบุว่าการย้ายถิ่นฐานของชาวทิเบตเป็นไปโดยสมัครใจ แต่รายงานของสื่ออย่างเป็นทางการนั้นขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างนี้” นางมายา หวาง รักษาการผู้อำนวยการฝ่ายจีนของฮิวแมนไรตส์วอตช์ กล่าวในแถลงการณ์

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่อาวุโสของพรรคคอมมิวนิสต์จีนขู่ว่าจะลงโทษทางวินัยต่อเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่นที่ฝ่าฝืนไม่ทำตามเป้าหมายในการย้ายถิ่นฐาน

กลุ่มสิทธิมนุษยชนเรียกร้องให้รัฐบาลจีนระงับการย้ายถิ่นฐานในทิเบต และปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศเกี่ยวกับการย้ายถิ่นฐานและการบังคับขับไล่

ชาวทิเบตอาศัยอยู่ภายใต้การปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์จีนมานับตั้งแต่กองทัพปลดปล่อยประชาชนบุกเข้ายึดครองบ้านเกิดของพวกเขาในช่วงต้นทศวรรษ 1950 (พ.ศ. 2493-2502)

ชาวทิเบตคนหนึ่งที่ถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐานกล่าวว่า เขาบอกเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนว่าครอบครัวของเขาไม่ต้องการไปจากบ้านเกิด “แต่ทางการจีนกลับกล่าวหาว่าเราฝ่าฝืนคำสั่งระดับชาติ และตราหน้าเราว่าเป็นพวกแบ่งแยกดินแดน” ชายคนดังกล่าวซึ่งไม่เปิดเผยชื่อเพื่อความปลอดภัย กล่าว

“มีคำสั่งให้ย้ายถิ่นฐานอย่างกะทันหันและเราไม่สามารถฝ่าฝืนได้ ดังนั้นเราจึงต้องเร่งขายฝูงสัตว์ของเรา ซึ่งทำให้เราไม่เหลือสิ่งใดติดตัวเลย” คนเร่ร่อนชาวทิเบตกล่าว “ตั้งแต่เราย้ายมาอยู่ที่ลาซา เราก็ไม่เคยพบเจอกับความสุขอีกเลย”

บ้านที่พรรคคอมมิวนิสต์จีนจัดหาให้มีขนาดเล็กและแออัด โดยมีครอบครัวใหญ่อาศัยอยู่ในบ้านขนาด 2-3 ห้อง ทำให้บางคนต้องนอนในเต็นท์บนระเบียง คนเร่ร่อนกล่าว

งานวิจัยของฮิวแมนไรตส์วอตช์ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อคำกล่าวอ้างของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ว่า การบังคับย้ายถิ่นฐานส่งผลให้ชาวทิเบตมีรายได้สูงขึ้น กลุ่มสิทธิมนุษยชนกล่าวว่า อุปสรรคทางภาษา การไม่มีประสบการณ์ในทักษะที่จำเป็น และการเลือกปฏิบัติ ทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับผู้คนที่จะเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวหลังจากถูกกวาดล้าง

นางอีเลน เพียร์สัน ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชียของฮิวแมนไรตส์วอตช์ กล่าวว่า มีการย้ายถิ่นฐานทั่วทั้งทิเบตและในพื้นที่ที่มีประชากรชาวทิเบตในมณฑลกานซู เสฉวน และยูนนานของจีน

“ชาวทิเบตมีความเชื่อมโยงที่พิเศษกับผืนดินและวิถีชีวิตของพวกเขา และพวกเขาจะสูญเสียความเชื่อมโยงนั้นหากพวกเขาถูกบังคับให้ย้ายถิ่นฐาน” นางเพียร์สันกล่าว

แสดงความคิดเห็นที่นี่

ความเป็นส่วนตัวของคุณเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเรา หากคุณเลือกที่จะระบุที่อยู่อีเมลของคุณ เจ้าหน้าที่ของ ฟอรัม จะใช้เพื่อติดต่อกับคุณเท่านั้น เราจะไม่เปิดเผยหรือเผยแพร่ที่อยู่อีเมลของคุณ เฉพาะชื่อและเว็บไซต์ของคุณเท่านั้นที่จะปรากฏในความคิดเห็นของคุณ ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

บทความที่เกี่ยวข้อง

Back to top button