อินโดแปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้างเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่ากองกำลังฟิลิปปินส์ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายและแสดงให้เห็นถึง “ความอดกลั้นอย่างน่าทึ่ง” ในการเผชิญหน้ากับกองทัพจีน

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

กองกำลังฟิลิปปินส์ที่ประจำการอยู่ที่ด่านทหารชั้นนอกในทะเลจีนใต้ได้ปฏิบัติตามกฎการปะทะและแสดงถึง “ความอดกลั้นอย่างน่าทึ่ง” โดยการแสดงอาวุธแต่ไม่ทำการยิงในระหว่างการเผชิญหน้ากับกองทัพจีน เจ้าหน้าที่ทหารและผู้เชี่ยวชาญกล่าว

พล.อ. โรมิโอ บราวเนอร์ จูเนียร์ ผู้บัญชาการกองทัพฟิลิปปินส์ ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาของจีนที่ว่าทหารบนเรือบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร เล็งอาวุธไปที่เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนที่เข้ามาใกล้ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดยยืนยันว่าทหารเพียงแค่ถืออาวุธขณะที่เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนเข้ามาใกล้ด่านทหารชั้นนอก ซึ่งเป็นเรือของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ที่จงใจทำให้เกยตื้นไว้ “การกระทำดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของกฎการปะทะ” พล.อ. บราวเนอร์กล่าว ตามรายงานของรอยเตอร์

น.ท. เลียม คอนเนล อัยการทหารกองทัพเรือสหรัฐฯ กล่าวว่าทหารที่ประจำการบนเรือ เซียร์รา มาเดร ปฏิบัติอย่างถูกต้องตามกฎหมายและแสดงให้เห็นถึง “ความอดกลั้นอย่างน่าทึ่ง” ที่ไม่ทำการยิงปืน “หากเป็นความจริง การที่กองทัพฟิลิปปินส์ยกหรือเล็งอาวุธนั้นสอดคล้องกับการตอบโต้อย่างระมัดระวังเพื่อพยายามลดความตึงเครียด อีกทั้งยังสอดคล้องกับหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศว่าด้วยการป้องกันตนเอง” น.ท. คอนเนลกล่าวกับ ฟอรัม

ลูกเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนไล่ตามเรือเสบียงของฟิลิปปินส์สองลําอย่างก้าวร้าวใกล้กับเรือบีอาร์พี เซียร์รา มาเดร ของกองทัพเรือฟิลิปปินส์ และยึดเรือเหล่านี้ชั่วคราว ทําลายเรือ รวมถึงยึดปืนไรเฟิลและยุทโธปกรณ์อื่น ๆ
วิดีโอจาก: ARMED FORCES OF THE PHILIPPINES

ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน กองทัพจีนได้พยายามขัดขวางภารกิจเติมเสบียงให้กับเรือ เซียร์รา มาเดรอีกครั้ง และได้ยึดเรือยางท้องแข็งของฟิลิปปินส์สองลำ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่กองทัพเรือฟิลิปปินส์ได้รับบาดเจ็บ ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส ลูกเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้ยึด ทำลาย และทิ้งเรือยางท้องแข็งดังกล่าวหลังจากยึดเอาสิ่งของภายในไป ซึ่งรวมถึงปืนไรเฟิล ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับเรือสมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่เกยตื้นอยู่บริเวณสันดอนโทมัสที่สอง ซึ่งอยู่ภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ “พวกเขาไม่มีสิทธิ์หรืออำนาจตามกฎหมายใดในการจี้ปล้นขณะที่เราออกปฏิบัติการ และทำลายเรือของฟิลิปปินส์ที่ปฏิบัติการภายในเขตเศรษฐกิจพิเศษของเรา” พล.อ. บราวเนอร์กล่าว

ทางการฟิลิปปินส์เรียกร้องให้จีนคืนอาวุธและยุทโธปกรณ์อื่น ๆ พร้อมทั้งชดเชยความเสียหายต่อเรือยางท้องแข็ง ตามรายงานของดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส พล.อ. บราวเนอร์เปรียบเทียบการกระทำนี้ว่าคล้ายกับการกระทำอันเป็นโจรสลัด

สาธารณรัฐประชาชนจีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่เกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ รวมถึงบริเวณสันดอนโทมัสที่สองและน่านน้ำโดยรอบ แม้ว่าศาลอนุญาโตตุลาการแห่งองค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น จะมีคำตัดสินใน พ.ศ. 2559 ที่ทำให้การอ้างสิทธิ์อธิปไตยของรัฐบาลจีนเป็นโมฆะก็ตาม เพื่อบังคับใช้การอ้างสิทธิ์โดยมิชอบด้วยกฎหมายนี้ เรือกองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้พุ่งชน ปิดกั้น และยิงปืนฉีดน้ำแรงดันสูงใส่เรือเติมเสบียงของฟิลิปปินส์บ่อยขึ้นเรื่อย ๆ นอกจากนี้ จีนยังได้ออกระเบียบข้อบังคับสำหรับกองกำลังรักษาชายฝั่งในช่วงกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2567 โดยอ้างว่าสามารถควบคุมเรือและลูกเรือต่างชาติที่ “รุกล้ำ” เข้ามาในพื้นที่ที่จีนอ้างสิทธิ์อย่างผิดกฎหมายว่าเป็นอาณาเขตทางทะเลของตน

การเผชิญหน้าและระเบียบข้อบังคับใหม่ของจีนได้เพิ่มความตึงเครียดในทะเลจีนใต้ ซึ่งมีพื้นที่บางส่วนที่มีการอ้างสิทธิ์จากบรูไน มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนามด้วยเช่นกัน

การเผชิญหน้ากันในช่วงกลางเดือนพฤษภาคมเกิดขึ้นหลังจากกองทัพเรือฟิลิปปินส์ทิ้งเสบียงทางอากาศไปยังเรือเซียร์รา มาเดร โทรทัศน์ของรัฐบาลจีนแสดงภาพเรือจีนใกล้กับเรือเซียร์รา มาเดร ตามรายงานของสำนักข่าวฟิลิปปินส์ ลูกเรือบนเรือจีนยึดเสบียงที่ปล่อยลงมา แต่โยนกลับไปหลังจากพบว่าพัสดุนั้นเป็นอาหาร ไม่ใช่วัสดุก่อสร้าง พล.อ. บราวเนอร์กล่าวกับสำนักข่าว ทางรัฐบาลฟิลิปปินส์กําลังซ่อมแซมเรือเซียร์รา มาเดรอยู่ และรัฐบาลจีนพยายามขัดขวาง

เจ้าหน้าที่ฟิลิปปินส์กล่าวว่าเรือจีนเข้ามาใกล้เรือเซียร์รา มาเดร ในระยะ 10 เมตร “เรามีสิทธิ์ที่จะป้องกันตนเอง” พล.อ. บราวเนอร์กล่าว พร้อมเสริมว่าฟิลิปปินส์จะยังคงอ้างสิทธิ์อธิปไตยของตนในพื้นที่นี้ต่อไป ตามรายงานของรอยเตอร์

การป้องกันตนเองทางทะเลได้รับความสนใจมากขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์การโจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงโดยกลุ่มกบฏฮูตีในเยเมน ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ได้รายงานว่า สหราชอาณาจักรและสหรัฐฯ ได้ยิงโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏฮูติ โดยอ้างถึงเสรีภาพในการเดินเรือและการป้องกันตนเองเพื่อสนับสนุนเสรีภาพดังกล่าวว่าเป็นเหตุผลในการยิงโจมตี รายงานยังระบุว่า มุมมองดังกล่าวเป็นขยายการตีความคำว่า “การโจมตี” เกินกว่ากรอบกฎหมายปัจจุบัน

น.ท. คอนเนล ซึ่งเป็นอาจารย์ด้านการทหารที่ศูนย์เอเชียแปซิฟิก แดเนียล เค. อิโนะอุเอะ เพื่อการศึกษาด้านความมั่นคงในฮาวาย กล่าวว่าสิทธิ์ในการป้องกันตนเองนั้นสามารถใช้ได้ไม่ว่าเรือเซียร์รา มาเดร จะอยู่ที่ใด “แต่ก็เป็นเรื่องยุติธรรมแล้วที่จะบอกว่าการกระทำของจีนไม่เพียงผิดกฎหมาย แต่ยังมีความก้าวร้าวและร้ายแรง อีกทั้งยังเกิดขึ้นในเขตเศรษฐกิจพิเศษของฟิลิปปินส์ด้วย ตามคำตัดสินของศาลอนุญาโตตุลาการใน พ.ศ. 2559” น.ท. คอนเนลกล่าว

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button