ญี่ปุ่นใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานและนวัตกรรมเพื่อการมีส่วนร่วมเชิงยุทธศาสตร์

ฟีลิกซ์ คิม
เนื่องจากตระหนักถึงศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงของการเติบโตทางเศรษฐกิจและนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ญี่ปุ่นจึงมีส่วนร่วมกับประเทศตลาดเกิดใหม่ทั่วทั้งอินโดแปซิฟิกเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ และเพิ่มความยั่งยืน องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นมีบทบาทสำคัญสำหรับความพยายามเหล่านี้ โดยได้สนับสนุนโครงการในภาคส่วนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
แนวทางของญี่ปุ่นซึ่งรวมถึงการบูรณาการความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่น และในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมแนวทางแก้ไขปัญหาทางเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น ยุทธศาสตร์นี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศผู้รับ ในขณะเดียวกันก็เปิดตลาดให้กับธุรกิจของญี่ปุ่นด้วย
“เราจะเสริมสร้างความพยายามทางการทูตต่อไป เช่น การเพิ่มความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการของเราในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมกับมีส่วนร่วมในการใช้ความช่วยเหลือดังกล่าวในเชิงยุทธศาสตร์ด้วย” นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กล่าวในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2566 โดยประกาศถึงความตั้งใจของรัฐบาลญี่ปุ่นในการเข้าถึงกองทุนภาครัฐและเอกชนจำนวนมากกว่า 2.8 ล้านล้านบาท (ประมาณ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ภายใน พ.ศ. 2573 เพื่อตอบสนองต่อความต้องการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในอินโดแปซิฟิก
โครงสร้างพื้นฐานระบบรางถือเป็นส่วนสำคัญสำหรับการมีส่วนร่วมของญี่ปุ่น ในฟิลิปปินส์ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นได้ร่วมมือกับบริษัทซูมิโตโม คอร์ปอเรชัน และบริษัทฮันคิว คอร์ปอเรชัน ของญี่ปุ่น โดยตกลงที่จะลงทุนในการใช้งานและการบำรุงรักษาระบบขนส่งมวลชนระบบรางเบามะนิลา สาย 1 ตามรายงานขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 โครงการนี้นับว่ามีความจำเป็นสำหรับการบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในบริเวณและโดยรอบเมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในมหานครที่มีการจราจรคับคั่งที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนต่อขยายของเส้นทางรถไฟใต้ดินที่มีระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรและประกอบด้วยสถานีใหม่อีก 5 สถานีที่จะเปิดให้บริการภายในปลาย พ.ศ. 2567 คาดว่าจะช่วยยกระดับการเชื่อมต่อในเมืองและสนับสนุนการพัฒนาในระดับภูมิภาค
นอกจากนี้ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นได้ลงนามในข้อตกลงการกู้ยืมเงินกับอินโดนีเซียเพื่อสร้างระบบขนส่งมวลชนความเร็วสูงจากฝั่งตะวันออกถึงฝั่งตะวันตกของกรุงจาการ์ตา โครงการดังกล่าวจะตอบสนองต่อความต้องการด้านการขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นของเมืองหลวงและบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด จะมีการนำเทคโนโลยีของญี่ปุ่นมาใช้ในโครงการวิศวกรรมโยธา ตามรายงานขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น
การที่องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างการเชื่อมต่อในระดับภูมิภาคและการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมนั้น สามารถดูตัวอย่างได้จากโครงการต่าง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นภูมิภาคที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์และมีภูมิประเทศแบบภูเขาที่ทำให้เกิดความท้าทายสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ทางองค์การได้ให้การสนับสนุนทางการเงินกับการก่อสร้างถนนที่มีระยะทางกว่า 750 กิโลเมตร เพื่อความสะดวกในการเดินทางในภูมิภาค และกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น บังกลาเทศ
“ถนนสองเลนที่เพิ่งเปิดใหม่ซึ่งทั้งกว้างและลาดยางอย่างดี ได้ช่วยปรับปรุงการเข้าถึงจากหมู่บ้านห่างไกลไปยังใจกลางเมือง อีกทั้งยังช่วยลดเวลาการเดินทางจากที่เคยใช้เวลาหลายชั่วโมง” นายไซโตะ มิตซูโนริ หัวหน้าผู้แทนขององค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นในอินเดีย กล่าวในข่าวประชาสัมพันธ์ “ความสะดวกสบายด้านการเดินทางสำหรับผู้คนและสินค้านั้นมีผลอย่างมากต่อชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น”
นอกจากนี้ องค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นยังเสริมสร้างความร่วมมือกับองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ รวมถึงการลงนามในบันทึกความร่วมมือในช่วงปลายเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และอินโดแปซิฟิกในวงกว้าง ความร่วมมือนี้พยายามแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เช่น การบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ห่วงโซ่อุปทานที่มีความยืดหยุ่น และเศรษฐกิจดิจิทัล
นายคิชิดะเน้นย้ำถึงความร่วมมือในระหว่างการเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปีสำหรับโครงการภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขององค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจที่กรุงปารีสในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 โดยนายคิชิดะได้ประกาศถึงการจัดตั้งกรอบการทำงานเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนผ่านความร่วมมือระหว่างองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่นและองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
“ญี่ปุ่นจะเติบโตไปพร้อมกับประเทศอื่น ๆ” นายคิชิดะกล่าว
ฟีลิกซ์ คิม เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้