ความร่วมมือไตรภาคีช่วยเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายทางทะเลในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
กัสดี ดา คอสตา
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายทางทะเลระหว่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ อินโดมาลฟี ช่วยลดภัยคุกคามด้านความมั่นคง เช่น การปล้นด้วยอาวุธ การลักพาตัว อาชญากรรมข้ามชาติ และการก่อการร้ายในทะเลซูลูและสุลาเวสีได้อย่างมาก
การประชุมคณะทำงานร่วมอินโดมาลฟี ครั้งที่ 24 ว่าด้วยข้อตกลงความร่วมมือไตรภาคี ณ เมืองบันดุง ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 เน้นย้ำถึงความสำเร็จและความท้าทายของโครงการริเริ่มระดับภูมิภาค ซึ่งจัดตั้งขึ้นใน พ.ศ. 2560 ภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือไตรภาคี การลาดตระเวนทางอากาศและทางทะเลที่มีการประสานงานกันถือว่ามีประสิทธิภาพอย่างยิ่ง
“การลาดตระเวนร่วมกันที่ดำเนินการในอินโดนีเซีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จในการตอบโต้ภัยคุกคามหลายรูปแบบ โดยไม่มีการรายงานเหตุการณ์ใด ๆ เลย ซึ่งตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงกับ พ.ศ. 2560 ที่มีการรายงานการกระทำอันเป็นโจรสลัดและการปล้นด้วยอาวุธถึง 99 ครั้ง” นายเดฟ ลักโซโน สมาชิกสภานิติบัญญัติอินโดนีเซียที่ช่วยดูแลด้านกลาโหม กล่าวกับ ฟอรัม
ศูนย์ประสานงานทางทะเลมีความสำคัญต่อการแลกเปลี่ยนข้อมูลอย่างรวดเร็วและการรับมือกับเหตุการณ์ด้านความมั่นคง
“ความร่วมมือในด้านผลประโยชน์ทางทะเลในทะเลซูลูและสุลาเวสีได้ผลลัพธ์อย่างดีและช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการขนส่งเชิงพาณิชย์ รวมทั้งความปลอดภัยของสินค้าและผู้คน” พล.จ. สตีเวอร์ลี ซี. ปาเร็งกวน ผู้อำนวยการฝ่ายความร่วมมือระหว่างประเทศด้านกลาโหมของกระทรวงกลาโหมอินโดนีเซีย กล่าวในที่ประชุมอินโดมาลฟี
อย่างไรก็ตาม พล.จ. ปาเร็งกวนยังได้เน้นย้ำถึงความจําเป็นในการเฝ้าระวัง เนื่องจากภูมิภาคนี้เผชิญกับภัยคุกคามด้านความมั่นคงมากมาย เช่น ลัทธิหัวรุนแรงสุดโต่งและกลุ่มแนวคิดหัวรุนแรงในโลกออนไลน์ “การก่อการร้ายจะยังคงเป็นปัญหาท้าทายต่อไป เพราะสามารถเติบโต ปรับตัว และแพร่กระจายได้ แม้โลกจะพัฒนาไปแล้วก็ตาม” พล.จ. ปาเร็งกวนกล่าว
นายลักโซโนกล่าวว่าการจัดหาเงินทุนต้องได้รับการแก้ไขด้วยเช่นกัน “ต้องใช้เงินลงทุนมหาศาลในการจัดหาเรือ ยุทโธปกรณ์ และบุคลากร” นายลักโซโนกล่าว
การลาดตระเวนและการแบ่งปันข่าวกรองของกลุ่มอินโดมาลฟี ได้เพิ่มความสามารถในการบังคับใช้กฎหมายทางทะเล ลดช่องว่างที่อาจเกิดขึ้นซึ่งอาจทำให้อาชญากรใช้ประโยชน์และเพิ่มบทบาททางทหาร นายมาร์เซลลัส ฮาเคง จายาวิบาวา ผู้เชี่ยวชาญด้านการเดินเรือชาวอินโดนีเซียและกัปตันเรือพลเรือน กล่าว
“กองกำลังทางทะเลและกองกําลังความมั่นคงได้จัดการฝึกร่วมอย่างสม่ำเสมอเพื่อยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติการและการประสานงาน” นายจายาวิบาวากล่าวกับ ฟอรัม
ศูนย์ทางทะเลในประเทศสมาชิกอินโดมาลฟีแต่ละแห่ง ช่วยในการแลกเปลี่ยนข่าวกรองเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวของเรือ กิจกรรมต้องสงสัย และภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้สามารถ “ตรวจจับและตอบโต้ได้อย่างรวดเร็ว” นายจายาวิบาวากล่าว
การเสริมสร้างการสื่อสารระหว่างศูนย์บัญชาการในเมืองตารากันของอินโดนีเซีย เมืองตาวี-ตาวีของฟิลิปปินส์ และเมืองตาวาอูของมาเลเซีย ถือเป็นเรื่องสำคัญควบคู่ไปกับการเพิ่มการซ้อมรบทางทะเลไตรภาคีเพื่อแสดงแสนยานุภาพของกองกำลังร่วมและยับยั้งภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น
ปฏิบัติการเฝ้าระวังที่ใช้ข้อมูลข่าวกรองมีความสำคัญต่อการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ นายลักโซโนกล่าว ดังนั้น การเสริมสร้างโครงสร้าง การสื่อสาร และการประสานงานภายใต้ข้อตกลงความร่วมมือไตรภาคี จึงเป็นสิ่งจำเป็นต่อเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
“ความร่วมมือไตรภาคีครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการลดภัยคุกคามด้านความมั่นคงและเสริมสร้างเสถียรภาพในภูมิภาค” นายจายาวิบาวากล่าว “ในอนาคต เราจําเป็นต้องปรับปรุงการประสานงาน ให้การสนับสนุนทรัพยากรอย่างต่อเนื่อง และปรับตัวให้เข้ากับภัยคุกคามที่เปลี่ยนไป”
กัสดี ดา คอสตา เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย