ให้ทุนพิทักษ์ผืนทะเล?
ประเทศเกาะขนาดเล็ก นีอูเอ มีแผนใหม่ในการปกป้องมหาสมุทรแปซิฟิกของตนเอง

เรื่องและภาพโดย ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส
ประเทศเกาะขนาดเล็กในมหาสมุทรแปซิฟิกอย่างนีอูเอได้คิดค้นแผนใหม่เพื่อปกป้องน่านน้ำอันกว้างใหญ่และบริสุทธิ์ของตนเอง นั่นคือการเปิดรับเงินทุนสนับสนุน
ในแผนดังกล่าว ซึ่งเปิดตัวโดยนายดาลตัน ทาเกลากี นายกรัฐมนตรีของนีอูเอในเดือนกันยายน พ.ศ. 2566 นีอูเอจะเปิดโอกาสให้บุคคลหรือบริษัทต่าง ๆ สามารถจ่ายเงิน 5,400 บาท (ประมาณ 148 ดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อปกป้องมหาสมุทร 1 ตารางกิโลเมตรจากภัยคุกคามต่าง ๆ เช่น การทำประมงที่ผิดกฎหมายและขยะพลาสติกเป็นเวลา 20 ปี
นีอูเอหวังจะระดมทุนให้ได้มากกว่า 655 ล้านบาท (ประมาณ 18 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการขายพื้นที่ให้ดูแล 127,000 หน่วย ซึ่งคิดเป็นพื้นที่น่านน้ำร้อยละ 40 ของนีอูเอที่เป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเลและห้ามใช้ทรัพยากร “นีอูเอเป็นเพียงเกาะหนึ่งกลางมหาสมุทรสีครามกว้างใหญ่” นายทาเกลากีกล่าว “เราถูกโอบล้อมด้วยมหาสมุทร และเราก็ใช้ชีวิตโดยพึ่งพามหาสมุทร นั่นคือวิถีชีวิตของเรา”
นายทาเกลากีกล่าวว่า ชาวนีอูเอสืบทอดและเรียนรู้เกี่ยวกับมหาสมุทรจากบรรพบุรุษของตนเอง และต้องการส่งต่อไปยังคนรุ่นต่อไปเพื่อสภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน
การทำประมงส่วนใหญ่ในนีอูเอนั้นทำเพื่อการดำรงชีพของผู้คนในท้องถิ่น แม้ว่าจะมีการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ขนาดเล็กและการทำประมงนอกชายฝั่งเป็นครั้งคราว ตามรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ
การประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุมจะทำให้ประชากรสัตว์น้ำลดน้อยลง ซึ่งจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนให้เท่าเดิมได้ ในขณะเดียวกัน สัตว์ทะเลก็กินขยะพลาสติกเข้าไปและถูกขยะเหล่านี้พันตัว การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศยังทำให้มหาสมุทรอุ่นและเป็นกรดมากขึ้น ทำให้ระบบนิเวศของสัตว์ทะเลเปลี่ยนแปลงไป
“เนื่องด้วยการประมงที่ผิดกฎหมายและกิจกรรมอื่น ๆ ทั้งหมด ขณะนี้เราจึงคิดว่าเราควรเป็นผู้นำเพื่อสอนให้คนอื่น ๆ รู้ว่าเราต้องปกป้องมหาสมุทร” นายทาเกลากีกล่าว
นีอูเอยังมีความเสี่ยงมากเป็นพิเศษต่อระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ซึ่งเป็นภัยต่อที่ดินและน้ำจืดของประเทศ และนีอูเอยังเสี่ยงต่อการเกิดพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากอากาศและน้ำที่อุ่นขึ้น
นีอูเอมีประชากรต่ำกว่า 2,000 คน จึงเป็นหนึ่งในประเทศที่เล็กที่สุดในโลก ซึ่งถือว่าเล็กมากเมื่อเทียบกับพื้นที่มหาสมุทรที่ขนาดใหญ่กว่ามวลพื้นดินของประเทศถึง 1,200 เท่า ภายใต้แผนดังกล่าว เงินสนับสนุนที่เรียกว่า พันธสัญญาอนุรักษ์มหาสมุทร จะได้รับการบริหารจัดการโดยองค์กรจัดการทรัพย์สินเพื่อการกุศล
นีอูเอจะซื้อหน่วยเงินทุนสนับสนุนหนึ่งหน่วยต่อพลเมืองหนึ่งคน ผู้บริจาคตั้งแต่เปิดตัวรายอื่น ๆ ได้แก่ นางลีนา ลัม นักสังคมสงเคราะห์และผู้ก่อตั้งมูลนิธิชาวพุทธเขมรที่ไม่แสวงหาผลกำไรในสหรัฐอเมริกาและนายคริส ลาร์เซน สามีของเธอและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทบล็อกเชนที่ชื่อว่า ริปเปิล รวมถึงองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรแห่งสหรัฐฯ ที่ชื่อว่าองค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนานาชาติ ซึ่งช่วยวางรากฐานด้านเทคนิคของโครงการระดมทุนสนับสนุนนี้
นายมาเอล อิมิริซัลดู นักชีววิทยาทางทะเลและผู้นำระดับภูมิภาคขององค์การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนานาชาติและพันธมิตรธรรมชาติสีน้ำเงิน กล่าวว่า หากใช้แนวทางการระดมทุนเพื่ออนุรักษ์มหาสมุทรแบบดั้งเดิม ประเทศอย่างนีอูเอจะต้องแสวงหาผู้สนับสนุนอย่างต่อเนื่องทีละโครงการ
“แนวคิดหลักคือพยายามเปลี่ยนแปลงสิ่งนั้นเพื่อเปลี่ยนลำดับความสำคัญ และช่วยให้พวกเขามีเงินทุนพอที่จะวางแผนสำหรับอีก 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปีข้างหน้าได้” นายอิมิริซัลดูกล่าว