อดีตกลุ่มกบฏช่วยเหลือการบรรเทาภัยพิบัติทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์
มาเรีย ที. เรเยส
อดีตกลุ่มกบฏมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาภัยพิบัติหลังเกิดเหตุดินถล่มรุนแรงในพื้นที่เมืองดาเวาทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปแล้วอย่างน้อย 85 คน ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กรส่งเสริมความร่วมมือและเสริมพลังประชาชน ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ก่อตั้งขึ้นโดยอดีตกลุ่มกบฏเพื่อจัดการกับปัญหาทางเศรษฐกิจและสังคม เหล่าอาสาสมัครได้เก็บสิ่งของต่าง ๆ เช่น เสื้อผ้า ข้าวสาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ ให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ ความพยายามของกลุ่มกบฏมีส่วนช่วยหน่วยทหารต่าง ๆ ของฟิลิปปินส์ในการแจกจ่ายสิ่งของช่วยเหลือ
ความร่วมมือครั้งนี้ตอกย้ำถึงความสำเร็จของโครงการการผสานรวมภายในอย่างครอบคลุมขั้นสูง ซึ่งเป็นโครงการริเริ่มของรัฐบาลที่มุ่งเน้นการสร้างสันติภาพโดยการนำอดีตกบฏคอมมิวนิสต์และกบฏอื่น ๆ กลับสู่สังคม รวมถึงการจัดสวัสดิการและการสนับสนุนที่ครอบคลุมเพื่ออำนวยความสะดวกในช่วงเปลี่ยนผ่าน
โครงการการผสานรวมภายในอย่างครอบคลุมขั้นสูงมีบทบาทสําคัญในความพยายามในการฟื้นฟูและกลับสู่สังคมของอดีตนักรบกบฏที่มุ่งบรรลุนโยบายทั้งสังคมของรัฐบาล นายเชสเตอร์ คาบัลซา นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงและประธานผู้ก่อตั้งองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อการพัฒนาและความมั่นคงในกรุงมะนิลา กล่าวกับ ฟอรัม โครงการนี้ให้โอกาสอดีตกลุ่มกบฏ “ได้กลับตัวเพื่อรับใช้ประเทศชาติ”
โครงการบรรเทาภัยพิบัติเป็นหนึ่งในความสําเร็จมากมายของโครงการการผสานรวมภายในอย่างครอบคลุมขั้นสูง ตามรายงานของกองกำลังเฉพาะกิจบาลิก-ลูบ ซึ่งเป็นองค์กรข้ามภาคส่วนที่ดูแลการกลับสู่สังคมของอดีตกลุ่มกบฏและกลุ่มหัวรุนแรง และเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์เพื่อสันติภาพที่ยั่งยืนของรัฐบาลฟิลิปปินส์
ฟิลิปปินส์เป็นหนึ่งในประเทศที่มีเหตุการณ์ความไม่สงบดำเนินมายาวนานที่สุดในโลก ซึ่งกินระยะเวลากว่าห้าทศวรรษ ตามการประมาณการของกองทัพ ยังมีผู้ก่อความไม่สงบที่เคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 2,000 คน
“ข้อมูลบันทึกแสดงให้เห็นว่าการก่อความไม่สงบในประเทศมีแนวโน้มลดลง เมื่อกองทัพฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปปฏิบัติการด้านการป้องกันภายนอก และอาจส่งมอบการดำเนินการรักษาความมั่นคงภายในให้กับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสาธารณะที่นำโดยตำรวจ” นายคาบัลซากล่าว โครงการการผสานรวมภายในอย่างครอบคลุมขั้นสูง “อาจทำให้ประเทศมีความมั่นคงที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเพื่อประกาศว่าฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่ปราศจากการก่อความไม่สงบหลังจากต่อสู้กับกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์มานานห้าทศวรรษ”
การยุติการก่อความไม่สงบจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจ นายคาบัลซากล่าว “เนื่องจากจะนำการพัฒนามาสู่พื้นที่ชนบทในชุมชนชายฝั่งและภูเขาห่างไกล ซึ่งเคยเป็นแหล่งกำเนิดของการก่อกบฏ” อันเป็นผลมาจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น ความยากจน ความอยุติธรรมในประวัติศาสตร์ และการขาดบริการสังคม
องค์กรส่งเสริมความร่วมมือและเสริมพลังประชาชน เป็นหนึ่งในองค์กรพัฒนาเอกชนจำนวนมากที่ร่วมมือกับโครงการการผสานรวมภายในอย่างครอบคลุมขั้นสูง ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2567 องค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่งได้ร่วมมือกับกระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งชาติเพื่อช่วยเหลืออดีตกลุ่มกบฏคอมมิวนิสต์ในเมืองอันติโปโล จังหวัดรีซัล
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในภาคเอกชนยังสามารถช่วยสนับสนุนการฟื้นฟูงาน โดยการมอบโอกาสการจ้างงาน การศึกษา และโปรแกรมการฝึกอบรมอาชีพแก่อดีตกลุ่มกบฏ นายคาบัลซากล่าว
“โดยกลุ่มกบฏสามารถเข้าร่วมในโครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนได้ รัฐบาลและภาคธุรกิจสามารถจ้างกลุ่มดังกล่าวได้ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการกลับสู่สังคมอย่างมีประสิทธิภาพ นายคาบัลซากล่าว “กระบวนการต้องมีความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องเพื่อให้แผนงานที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางประสบความสำเร็จในการสร้างความสงบเรียบร้อยที่ยั่งยืน ความสามัคคีทางสังคม และการแก้ปัญหาความขัดแย้ง”
มาเรีย ที. เรเยส เป็นผู้สื่อข่าวสมทบของ ฟอรัม รายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์