ฟิลิปปินส์กล่าวว่า จีนสร้างความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมในทะเลจีนใต้

ดิแอสโซซิเอทเต็ด เพรส

ฟิลิปปินส์เรียกร้องให้นานาชาติตรวจสอบความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณสันดอนในทะเลจีนใต้ที่จีนควบคุมอยู่ รวมถึงการสูญเสียหอยมือเสือเป็นจำนวนมาก

ในช่วงปลายเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 กองกำลังรักษาชายฝั่งฟิลิปปินส์ได้เผยแพร่ภาพจากการเฝ้าระวังที่เห็นว่าชาวประมงจีนกำลังจับหอยมือเสือในทะเลสาบที่สันดอนสกาโบโรห์ โดยระบุว่ากิจกรรมดังกล่าวเกิดขึ้นมาเป็นเวลานานหลายปีจนกระทั่งหยุดลงอย่างเห็นได้ชัดในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2562

ปะการังโดยรอบดูเหมือนมีรอยแผลเป็นอย่างรุนแรงจากการหาหอยชนิดอื่น ๆ ที่ไร้ประโยชน์ กองกำลังรักษาชายฝั่งระบุ

“หอยเหล่านี้เป็นหอยมือเสือกลุ่มสุดท้ายที่เหลืออยู่ในสันดอนสการ์โบโรห์” พล.ร.จ. เจย์ ทาร์ริเอล่า โฆษกของกองกำลังรักษาชายฝั่ง กล่าวกับผู้สื่อข่าว โดยระบุถึงพื้นที่ทำประมงที่โดดเด่นใกล้ทางตะวันตกเฉียงเหนือของฟิลิปปินส์

“พวกเรารู้สึกตกใจและกังวลกับสถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นที่นั่น” นายโจนาธาน มาลายา ผู้ช่วยอธิบดีสภาความมั่นคงแห่งชาติฟิลิปปินส์ กล่าว อีกทั้งยังกล่าวว่าสาธารณรัฐประชาชนจีนควรยอมรับการตรวจสอบที่เป็นอิสระจากองค์การสหประชาชาติและองค์กรคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

รัฐบาลจีนได้อ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีหลายประเทศอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งรวมถึงบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม กองทัพเรืออินโดนีเซียยังได้ปะทะกับกองกำลังรักษาชายฝั่งและเรือประมงของจีนในทะเลนาตูนาบริเวณชายฝั่งทะเลจีนใต้

ฟิลิปปินส์ได้เน้นย้ำถึงการกระทําที่ก้าวร้าวมากขึ้นของจีนในน่านน้ำที่เป็นข้อพิพาทและประณามการบริหารจัดการสันดอนสกาโบโรห์ที่ผิดกฎหมายของจีนอีกครั้ง

รัฐบาลจีนได้ยึดสันดอนดังกล่าวใน พ.ศ. 2555 โดยรัฐบาลจีนได้ละเมิดสัญญาว่าจะนำเรือของจีนออก และตั้งแต่นั้นมาก็ได้ล้อมรอบพื้นที่บริเวณสันดอนด้วยกองกำลังรักษาชายฝั่งและเรือที่ต้องสงสัยว่าเป็นของกองกำลังพลเรือนติดอาวุธ เจ้าหน้าที่ของฟิลิปปินส์กล่าว

นับแต่นั้นมา กองกำลังรักษาชายฝั่งจีนได้พยายามป้องกันไม่ให้เรือลาดตระเวนและเรือประมงของฟิลิปปินส์เข้าสู่พื้นที่ทะเลสาบดังกล่าวที่ล้อมรอบด้วยแนวปะการังอยู่หลายครั้ง ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2567 เรือของจีนได้ยิงปืนฉีดน้ำที่ทำให้กำลังรักษาชายฝั่งและเรือประมงของฟิลิปปินส์ได้รับความเสียหาย

“จีนขัดขวางไม่ให้เราเข้าไปในทะเลสาบ” นายมาลายากล่าว “เราอาจขอให้องค์กรคุ้มครองสิ่งแวดล้อมภายนอกหรือแม้แต่องค์การสหประชาชาติทำการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อตัดสินใจเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม”

ใน พ.ศ. 2559 ศาลระหว่างประเทศได้ตัดสินให้การอ้างสิทธิ์อย่างกว้างขวางของจีนในทะเลจีนใต้เป็นโมฆะ ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าที่สำคัญของโลก และระบุว่าการกระทําของจีนก่อให้เกิดความเสียหายต่อพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้รัฐบาลจีนปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมในขั้นตอนอนุญาโตตุลาการและยังคงเพิกเฉยต่อคําตัดสินของศาล