การแพร่ขยายอาวุธเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือ

การเคลื่อนไหวที่เป็นอันตรายของกองทัพปลดปล่อยประชาชนมีเป้าหมายเพื่อปกป้องเกาหลีเหนือจากการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร

เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

การสกัดกั้นอย่าง “ไม่ปลอดภัยและไร้ความเป็นมืออาชีพ” เมื่อไม่นานมานี้ของสาธารณรัฐประชาชนจีนที่กระทำต่อเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพเรือออสเตรเลีย แสดงให้เห็นชัดถึงรูปแบบการเคลื่อนที่ที่เป็นอันตราย โดยมีเป้าหมายไปที่ผู้บังคับใช้มาตรการคว่ำบาตร

รัฐบาลจีนสนับสนุนมาตรการคว่ำบาตรขององค์การสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น เพื่อยับยั้งโครงการนิวเคลียร์และอาวุธที่ทำลายเสถียรภาพของเกาหลีเหนือ แต่รัฐบาลจีนกลับบ่อนทำลายมาตรการระหว่างประเทศด้วยการปล่อยให้ผู้ฝ่าฝืนใช้โครงสร้างพื้นฐานและน่านน้ำอาณาเขตของจีนเพื่อทำการลักลอบขนย้ายน้ำมันไปให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ ตามข้อมูลจากการสืบสวนของหนังสือพิมพ์เดอะนิวยอร์กไทมส์

นอกจากนี้ จีนยังงดออกเสียงจากการลงคะแนนเสียงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567 ที่จะอนุญาตให้คณะผู้เชี่ยวชาญดำเนินการตรวจสอบการคว่ำบาตรและสืบสวนผู้ฝ่าฝืนต่อไป นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัสเซียได้คัดค้านมาตรการนี้ ซึ่งรัสเซียได้รับอาวุธโดยเกาหลีเหนือเป็นผู้จัดหาให้ เพื่อทำสงครามในยูเครนอย่างผิดกฎหมาย

วิดีโอจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แสดงภาพเครื่องบินขับไล่ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่ทำการสกัดกั้นเชิงบีบบังคับและสุ่มเสี่ยงต่อเครื่องบินสหรัฐฯ ซึ่งปฏิบัติการอย่างถูกต้องตามกฎหมายเหนือทะเลจีนตะวันออกและทะเลจีนใต้ พฤติกรรมที่เป็นอันตรายเช่นนี้รวมถึงการบินภายในระยะ 5 เมตรจากสินทรัพย์ของสหรัฐฯ และการบินอยู่เหนือและลอดใต้ส่วนหัวเครื่องบินของสหรัฐฯ
วิดีโอจาก: กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ/เจ้าหน้าที่ ฟอรัม

อย่างไรก็ตาม มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นยังคงมีผลบังคับใช้ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐอเมริกาทำงานร่วมกันเพื่อจัดตั้งคณะผู้เชี่ยวชาญพหุชาติชุดใหม่ ที่อาจสังเกตการณ์เกาหลีเหนือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์ ในขณะเดียวกัน พันธมิตรและหุ้นส่วนข้ามภูมิภาคยังคงทำการลาดตระเวนเพื่อตรวจตราผู้ฝ่าฝืนมาตรการคว่ำบาตรต้องสงสัย

นักบินของกองทัพเรือออสเตรเลียถูกบีบบังคับให้ต้องทำการหลบเลี่ยง เมื่อเครื่องบินขับไล่ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนยิงพลุแฟร์เข้ามาในเส้นทางบินเมื่อช่วงต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2567 ซึ่งเป็นอันตรายต่อเครื่องบินและลูกเรือ ตามรายงานของกระทรวงกลาโหมออสเตรเลีย เฮลิคอปเตอร์ เอ็มเอช-60อาร์ บินขึ้นจากเรือเอชเอ็มเอเอสโฮบาร์ตในบริเวณใกล้กับเกาหลีใต้ ซึ่งนี่เป็นส่วนหนึ่งของภารกิจของยูเอ็นในการดำเนินมาตรการคว่ำบาตรกับเกาหลีเหนือ

“ออสเตรเลียกำลังมีส่วนร่วมกับการดำเนินงานที่สำคัญในการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และในการดำเนินงานดังกล่าว เราปฏิบัติการในทะเลหลวงโดยสอดคล้องกับกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งเป็นไปตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทางทะเล” นายริชาร์ด มาร์ลส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมกล่าวกับผู้สื่อข่าว

“และเราคาดว่าเมื่อเราได้ติดต่อกับกองทัพอื่น ๆ รวมถึงกองทัพจีน การติดต่อเหล่านั้นจะเป็นไปอย่างมืออาชีพและปลอดภัย” นายมาร์ลส์กล่าว “เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้อย่างยิ่ง”

หลายเดือนก่อนหน้านั้น นักประดาน้ำของกองทัพเรือออสเตรเลียได้รับบาดเจ็บขณะทำการสนับสนุนภารกิจของยูเอ็น ตามรายงานของสื่อ นักประดาน้ำกำลังแก้อวนจับปลาจากใบพัดเรือ ขณะที่ถูกกระทบด้วยคลื่นโซนาร์จากเรือรบของกองทัพปลดปล่อยประชาชนที่อยู่ใกล้เคียง

“จีนมีวัตถุประสงค์ที่เฉพาะเจาะจงในการกีดกันพันธมิตรของสหรัฐฯ จากการบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือทางกายภาพ” นายอวน เกรแฮม นักวิเคราะห์ที่สถาบันนโยบายเชิงยุทธศาสตร์ของออสเตรเลีย เขียนระบุ

ประเทศอื่น ๆ ได้รายงานถึงการโต้ตอบที่ไม่ปลอดภัยกับกองทัพปลดปล่อยประชาชนด้วย

สหรัฐฯ กล่าวในช่วงปลาย พ.ศ. 2566 ว่าสหรัฐฯ ได้บันทึกเหตุการณ์ที่มีการแสดงพฤติกรรมเชิงบีบบังคับและเป็นอันตรายโดยนักบินของกองทัพปลดปล่อยประชาชนมาตั้งแต่ พ.ศ. 2564 เป็นจำนวนมากกว่า 180 เหตุการณ์ “และเมื่อพิจารณาถึงกรณีการสกัดกั้นเชิงบีบบังคับและสุ่มเสี่ยงของกองทัพปลดปล่อยประชาชนต่อประเทศอื่น ๆ จำนวนกรณีดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 300 กรณีต่อเครื่องบินของสหรัฐฯ พันธมิตร และหุ้นส่วนในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา” ดร. เอลี แรตเนอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แห่งกิจการความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก กล่าว

นอกจากนี้ ในช่วงปลาย พ.ศ. 2566 ในขณะที่เครื่องบินลาดตระเวนของแคนาดากำลังสังเกตการณ์ทะเลจีนตะวันออกเพื่อหาผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดมาตรการของยูเอ็นที่สั่งห้ามการขนส่งน้ำมันไปให้รัฐบาลเกาหลีเหนือ ก็มีเครื่องบินขับไล่ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนบินเข้ามาใกล้ในระยะ 5 เมตรและยิงพลุแฟลร์หลายลูก

“เราอยู่ในน่านฟ้าสากลอย่างแน่นอน” พล.อ.ต. เอียน ฮัดเดิลสตัน แห่งกองทัพอากาศแคนาดา กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่อยู่บนเครื่องบินลาดตระเวน

จีนพยายามที่จะหาความชอบธรรมให้กับกลยุทธ์ที่มุทะลุของตนเอง โดยอ้างว่ากองทัพของประเทศอื่นควรอยู่ห่างจากพรมแดนของตน การสกัดกั้นเกิดขึ้นในบริเวณที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาตให้ทุกประเทศบินผ่านได้

ในช่วงปลาย พ.ศ. 2566 ผู้สื่อข่าวที่อยู่บนเครื่องบินลาดตระเวนของแคนาดาอีกลำหนึ่งอยู่ห่างจากเกาะที่รัฐบาลจีนอ้างว่าตนเองเป็นเจ้าของมากกว่า 50 กิโลเมตร แต่แท้จริงแล้วรัฐบาลจีนไม่ได้เป็นเจ้าของ และกองทัพปลดปล่อยประชาชนกลับใช้วิทยุส่งข้อความเตือนมา

ทั้งนี้จุดมุ่งเน้นสำคัญของภารกิจลาดตระเวนในลักษณะดังกล่าวไม่ได้อยู่ที่จีน จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการยับยั้งการขนย้ายน้ำมันอย่างผิดกฎหมายและการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับผู้ต้องสงสัยว่าละเมิดมาตรการคว่ำบาตร เพื่อแบ่งปันข้อมูลเหล่านี้กับศูนย์ประสานงานการบังคับใช้มาตรการพหุชาติ ซึ่งประกอบไปด้วยออสเตรเลีย แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ เกาหลีใต้ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา

บทความที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

Back to top button