การมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ และเวียดนามช่วยกระชับความสัมพันธ์ด้านการทูต กลาโหม และการค้า
ทอม แอบกี
สหรัฐอเมริกาและเวียดนาม ซึ่งได้ยกระดับความสัมพันธ์ของตนขึ้นเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุมใน พ.ศ. 2566 ยังคงส่งเสริมการมีส่วนร่วมอย่างมั่นคงในด้านผลประโยชน์ร่วมกันและความมั่นคง ตั้งแต่การทูตไปจนถึงการค้าและการถ่ายโอนด้านกลาโหม ทั้งสหรัฐอเมริกาและเวียดนามได้ร่วมมือกันเพื่อดำเนินการในเชิงยุทธศาสตร์ด้านความมั่นคงในภูมิภาค การจัดสรรเสบียงด้านเทคโนโลยี ผลกระทบด้านสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนการส่งเสริมการศึกษาและแรงงาน
“เวียดนามยินดีรับการสนับสนุนที่เป็นเชิงบวกและสร้างสรรค์จากสหรัฐอเมริกาเพื่อสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันของเรา” นายบุ่ย แทงห์ เซิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม กล่าวที่สถาบันบรูกกิงส์ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. หลังจากที่ได้ประชุมกับนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ในช่วงปลายเดือนมีนาคม พ.ศ. 2567
นายเซินกล่าวว่า รัฐบาลเวียดนามหวังว่าสหรัฐฯ จะยกระดับ “เสาหลักทางเศรษฐกิจของยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของสหรัฐฯ เอง” ยิ่งขึ้นไปอีก และกระชับความสัมพันธ์เชิงยุทธศาสตร์อย่างครอบคลุมของสหรัฐฯ กับสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน ทั้ง 10 ประเทศ ซึ่งมีเวียดนามเป็นหนึ่งในสมาชิกด้วย นายเซินกล่าวว่า ชาวเวียดนามประมาณ 2.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ และมูลค่าการค้าระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามก็ได้เพิ่มขึ้นจาก 1.66 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน พ.ศ. 2538 เป็น 4.06 ล้านล้านบาท (ประมาณ 1.10 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ใน พ.ศ. 2566
นายเซินเน้นย้ำถึงความสำคัญของโครงการทวิภาคีและโครงการริเริ่มเพื่อการแก้ไขสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงทางอาหารและสุขภาพ การต่อต้านการก่อการร้าย และการไม่แพร่ขยายอาวุธ “เวียดนามมองว่าสหรัฐอเมริกาเป็นหนึ่งในหุ้นส่วนระดับแนวหน้าของเรา” นายเซินกล่าว
ความสัมพันธ์ด้านกลาโหมได้เติบโตขึ้นก่อนที่จะมีการพัฒนาด้านความร่วมมือ ซึ่งมีหลักฐานจากการมีส่วนร่วมเป็นครั้งแรกของเวียดนามในการฝึกแบบพหุภาคีทางทะเลริมออฟเดอะแปซิฟิกที่นำโดยสหรัฐฯ ใน พ.ศ. 2561 และการฝึกทางทะเลระหว่างอาเซียนกับสหรัฐฯ ครั้งแรกนอกชายฝั่งจังหวัดกวนลองของเวียดนาม นายลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยังได้ไปเยือนเวียดนามใน พ.ศ. 2564 ด้วย
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังได้อนุมัติการถ่ายโอนยุทโธปกรณ์ด้านกลาโหมที่สำคัญให้กับเวียดนามเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา รวมถึงเรือคัตเตอร์ของกองกำลังรักษาชายฝั่งที่มีความทนทานสูงที่ได้รับการปรับปรุงใหม่จำนวนสองลำใน พ.ศ. 2560 และ พ.ศ. 2564 ผ่านโครงการจัดหาเงินทุนทางทหารต่างประเทศของสหรัฐฯ เรือเหล่านี้เป็นเรือที่ใหญ่ที่สุดในกองเรือของกองกำลังรักษาชายฝั่งเวียดนาม โครงการจัดหาเงินทุนทางทหารต่างประเทศยังได้ให้ความช่วยเหลือในการถ่ายโอนเรือลาดตระเวนความเร็วสูง เมทัล ชาร์ก จำนวน 24 ลำ ให้กับเวียดนาม อีกทั้งยังมีการถ่ายโอนเครื่องบินฝึก บีชคราฟต์ ที-6 เท็กซัน จำนวน 2 ลำด้วย โดยจะทำการส่งมอบอีก 10 ชุดภายใน พ.ศ. 2570 ในขณะเดียวกัน โบอิ้ง บริษัทผู้ผลิตในสหรัฐฯ ได้ทำข้อตกลงใน พ.ศ. 2562 ในการจัดหาโดรนเฝ้าระวังความทนทานสูง สแกนอีเกิล จำนวน 6 ลำให้กับเวียดนาม เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถด้านการตระหนักรู้ทางทะเล
“เวียดนามจำเป็นต้องมีสภาพแวดล้อมภายนอกที่สงบสุข มั่นคง และเอื้ออำนวย และที่สำคัญอย่างยิ่งคือ ความร่วมมือและการสนับสนุนที่มีคุณค่าจากประชาคมระหว่างประเทศและพันธมิตรรายสำคัญ รวมถึงสหรัฐอเมริกาด้วย” นายเซินกล่าว
นายเซินยังได้เน้นย้ำให้เห็นถึงความร่วมมือทวิภาคีที่เพิ่มขึ้นในด้านการลงทุนในสารกึ่งตัวนำและเทคโนโลยีอื่น ๆ ซึ่งเป็นจุดมุ่งเน้นที่สำคัญของความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีลำดับความสำคัญอยู่ในอันดับต้น ๆ ในการได้รับความช่วยเหลือทางการเงินสำหรับการผลิตไมโครชิปภายใต้กฎหมายชิปของสหรัฐฯ ตามรายงานของนายโฮเซ เฟอร์นันเดซ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศเพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม บริษัทด้านเทคโนโลยีในสหรัฐฯ ไมโครซอฟท์และอินวิเดีย ได้แสดงความสนใจในการส่งเสริมขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีขั้นสูงของเวียดนาม ตามรายงานของสภาธุรกิจระหว่างสหรัฐฯ และอาเซียน
สหรัฐฯ ยังสนับสนุนโครงการสเต็มแชมเปียนออฟเวียดนามและอัปสกิลเวียดนาม ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อการยกระดับขีดความสามารถด้านการศึกษาและความเชี่ยวชาญในวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเวียดนาม เพื่อให้สอดคล้องกับความสนใจเชิงยุทธศาสตร์ในการพัฒนาแรงงานที่มีทักษะขั้นสูง
ทอม แอบกี เป็นผู้สื่อข่าวของ ฟอรัม รายงานจากประเทศสิงคโปร์